“เจ้าชอบส่งผู้หญิงให้ขนาดนี้ ทำไมถึงไม่เก็บไว้ใช้เองล่ะ?” โม่เหยียนเริ่มลงมือหนักขึ้นเรื่อยๆ “กล้าคิดร้ายกับข้า ฮ่าๆ!”
เสียงยิ้มเยาะดังขึ้น เสียงร้องโหยหวนดังตามมาเรื่อยๆ จากห้องนอน ยิ่งร้องยิ่งน่าเวทนา “อย่าตี! อย่าตี! จะตายอยู่แล้ว!”
โม่เหยียนใช้โอกาสนี้ตีเฉิงซูหย่วน ด้านหนึ่งก็เพื่อระบายอารมณ์ อีกด้านหนึ่งก็เพื่อทดสอบขอบเขตของคนผู้นี้
คนที่ทำร้ายเขาเมื่อคืนนี้มีทักษะการต่อสู้แข็งแกร่งอย่างแน่นอน มิฉะนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะรอดพ้นหูตาของผู้ฝึกยุทธจำนวนมากมาได้
และวันนี้เฉิงซูหย่วนก็แอบคิดทำร้ายเขา ถ้าเขาไม่ทดสอบเฉิงซูหย่วน แล้วจะทดสอบใคร?
ทันทีที่โบยตีอย่างหนัก นอกจากเฉิงซูหย่วนจะหนีหัวซุกหัวซุนแล้ว ก็ทำได้เพียงคร่ำครวญอย่างขมขื่นขอให้เขาอย่าตีหน้า อ้อนวอนขอความเมตตา ไม่กล้าตอบโต้กลับ ไม่มีทักษะการต่อสู้ใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อเห็นดังนั้น โม่เหยียนก็ขจัดความสงสัยในตัวคนคนนี้ออกไปได้ เหมือนยกภูเขาออกจากอก
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เริ่มร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้ง สายตาของเขาพร่ามัวเล็กน้อย จากนั้นโม่เหยียนก็วางมือ พยายามอดทนต่อความอึดอัด มองเฉิงซูหย่วนอย่างเย็นชา
“หากทำเรื่องน่าเบื่อแบบนี้อีก ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าอีก เข้าใจไหม?”
อย่างน้อยเฉิงซูหย่วนก็เกิดมาในตระกูลขุนนาง เขาจะทนรับความอัปยศเช่นนี้ได้อย่างไร รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที
ใบหน้าของเขาฟกช้ำดำเขียว ดวงตายังโม่เหยียนทุบตีจนม่วง ดูเหมือนรอยคล้ำใต้ตา
ทุกประโยคที่เขาพูด เขารู้สึกว่ามีอะไรคลานเข้ามากัดใบหน้าของตน จนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่ยินยอม ปากก็ด่าด้วยคำพูดที่รุนแรง
“โม่เหยียน! เจ้าทำเกินไปแล้ว! ถ้าเจ้ารังแกข้า แสดงว่ากำลังรังแกตระกูลเฉิงอยู่! ถ้าพ่อแม่ข้ารู้เรื่องนี้ เจ้าต้องไม่ตายดีแน่! เจ้ามันโง่ กล้ามาขู่ข้ารึ?!”
ถ้าไม่ใช่เพราะฤทธิ์ยาในร่างกายที่ทำให้เขาอึดอัดมาก โม่เหยียนก็ยังคิดจะตีเฉิงซูหย่วนให้ฟันร่วง ดีที่สุดคือให้เขาพูดไม่ได้เลย จะได้ไม่ต้องไปตอแยหว่านเยียน
แต่เขาก็ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเจ้าหมอนี่อีกแล้ว พลางมองเฉิงซูหย่วนอย่างดูถูก สะบัดแขนเสื้อจากไปอย่างเกลียดชัง “ตระกูลเฉิงก็ดี หรือเจ้าก็ดี ข้าพร้อมรับใช้เสมอ”
เฉิงซูหย่วนโกรธจัด อยากจะลุกขึ้นแต่ก็เจ็บปวดจนทนไม่ไหว ทำได้เพียงฟุบลงกับพื้นตะโกนตามหลังโม่เหยียนไป “เจ้าจองหองนัก! ไม่ช้าก็เร็วจะนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเอง!”
เมื่อโม่เหยียนคล้อยหลังหายไปอย่างสมบูรณ์ เฉิงซูหย่วนก็สายตาเย็นชาทันที ไม่ขี้ขลาดหวาดกลัวเหมือนเมื่อครู่
เขาขมวดคิ้วบางๆ เจตนาฆ่าที่รุนแรงฉายไปทั่วใบหน้าที่จมูกช้ำตาบวม
โม่เหยียนใช้พลังภายใน แต่ฤทธิ์ยาไม่ได้ไหลอย่างรวดเร็วเช่นนั้น ใบหน้าแดงระเรื่อขึ้น แต่ย่างก้าวกลับดูช้าและหนักอึ้ง
ถึงกระนั้น เขาก็ยังไม่คิดจะไปหาหนานหว่านเยียนเพื่อขอยาแก้พิษจากนาง เขาบังเอิญเห็นเฟิงยางเดินมาหาเขาอย่างรีบร้อน
สายตาของโม่เหยียนลึกลงไปเล็กน้อย ไม่ได้ควบคุมพลังภายในของตัวเองอีกต่อไป ปล่อยให้ฤทธิ์ยาฟาดฟันในร่างกายอย่างอิสระ
เช่นนี้พิษที่สะสมในร่างกายของเขาได้ปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน เขาเหงื่อแตกพลั่ก การเดินยิ่งสะดุดมากขึ้น เขากุมหน้าอกและกัดฟันเดินเข้าไปหาเฟิงยาง
เฟิงยางเห็น โม่เหยียนจากระยะไกล เห็นเขาดูเหมือนจะไม่ปกตินัก จึงรีบเดินเข้ามาหา “ใต้เท้า เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”
โม่เหยียนเป็นแม่ทัพติ้งหย่วนแล้ว ควรได้รับความเคารพ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...