กู้โม่หานได้ฟังเช่นนั้น คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยพลางเหลือบสายตามองไปยังหนานหว่านเยียน กลับเห็นว่าขณะนั้นหนานหว่านเยียนกำลังถลึงตาวาวโรจน์มองลู่เจียวเจียว “ลู่เจียวเจียวเจ้าพูดมากเกินไปแล้ว”
ลู่เจียวเจียวตกใจ รีบยั้งปากไว้ไม่ให้เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก ก่อนจะลอบสอดสายตามองมายังกู้โม่หานปราดหนึ่ง รู้สึกว่าสามีภรรยาคู่นี้มีบางอย่างคล้ายกันไม่ผิดจริง ๆ จะว่าแค่ถ้อยคำหรือการกระทำเหมือนกันหมดเช่นนี้อาจยังน้อยไป แม้กระทั่งพลังอำนาจที่แผ่ซ่านออกมายังคล้ายกันมากราวกับถอดแบบออกมา…
ทว่านางในยามนี้ก็ไม่อาจปล่อยให้ตนเองถูกหนานหว่านเยียนและกู้โม่หานคุมขังไว้ที่แห่งนี้ได้ ตกอยู่ในกำมือของพวกเขาสองคนนี้ ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้วเลย
นางฝืนใจข่มความเจ็บปวดที่เสียดแทงทรวงอกไว้ เคี่ยวเข็ญให้ตนเองกระตุกรอยยิ้มที่ยังนับว่ามีเจตนาบริสุทธิ์ออกมา “องค์หญิงหมิงหวงหากเจ้าสามารถให้อภัยไว้ชีวิตข้าได้อีกสักครั้งข้ายินดีช่วยเจ้า ล่องูออกจากโพรง”
“เรื่องที่วันนี้ข้าลอบนำทหารยามออกมาโดยพลการ คนผู้นั้นน่าจะยังไม่ทราบ ตราบใดที่เจ้ายอมปล่อยข้าออกไป ข้ารับปากว่าเมื่อกลับไปแล้วจะแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ร่วมมือกับเจ้า จับตัวจริงของคนผู้นั้นออกมา!”
ถึงแม้นางจะไม่ทราบว่าคนผู้นั้นเป็นใครมาจากไหน แต่บัดนี้ หนานหว่านเยียนดูคล้ายจะสนใจคนผู้นั้นเป็นอย่างยิ่ง หากว่านางสามารถใช้คุณูปการชดเชยความผิดได้ บางทีความบาดหมางของพวกนางสองคนตั้งแต่ต้นจนถึงยามนี้ อาจจะสิ้นสุดกัน ณ ที่แห่งนี้เลยก็เป็นไปได้
นัยน์ตาของหนานหว่านเยียนหมองลงเล็กน้อย พินิจพิจารณาลู่เจียวเจียวที่สีหน้าแสดงความซื่อสัตย์จริงใจอย่างยิ่งยวดออกมา นางกำลังจะเอ่ยปาก ทว่าขณะเดียวกันกลับได้ยินกู้โม่หานกดเสียงทุ้มต่ำถามหยั่งเชิงออกไป “องค์หญิงหงเหมิงรีบร้อนยอมจำนนเพียงนี้ เกรงว่าจะเป็นแผนหลอกลวงที่ฉลาดกว่า คอยให้ข้าและหว่านเยียนก้าวเท้าตกลงไปในกับดักที่พวกเจ้าตั้งใจอำพรางอย่างดีก่อนใช่หรือไม่?”
หัวคิ้วของหนานหว่านเยียนขมวดขึ้นเล็กน้อย ลู่เจียวเจียวร้อนใจขึ้นทันใด ไม่กล้าวางมาดเย่อหยิ่งจองหองต่อหน้ากู้โม่หานเกินไป ทำได้เพียงชี้แจงออกไปด้วยเสียงกระวนกระวายว่า “ฝ่าบาทตรัสเช่นนี้ หมายความว่าไม่เชื่อข้าหรือเพคะ?”
“หากเป็นอย่างที่ท่านตรัส ว่าข้าและคนผู้นั้นเตรียมอุบายไว้พร้อมก่อนแล้ว วันนี้ข้าจะตกหลุมพรางอันแยบยลของพวกท่านได้อย่างไรเพคะ?”
กู้โม่หานแสยะยิ้มเย็นเยียบ ดวงตางดงามคู่นั้นพลันหรี่ลงเขม็งมองลู่เจียวเจียวตาไม่กระพริบ คล้ายว่ามองคนได้ทะลุปรุโปร่งอย่างไรอย่างนั้น
“ข้าไม่ทราบว่าพวกเจ้าวางอุบายลับหลังใดไว้ ทว่าจากที่ข้าทราบมา ข้างกายเจ้ามีผู้สอดแนมของหว่านเยียนคนหนึ่ง เคยเห็นรูปลักษณ์ของผู้ส่งจดหมายที่ว่านั่นมาก่อน
“ผู้ส่งจดหมายนั่นอายุค่อนข้างมา ราวสี่สิบห้าสิบปีเห็นจะได้ หลังค่อมเล็กน้อย ทว่าใบหน้ากลับดูไม่เห็นเค้าความชรามากนักในทางกลับกันยังดูแข็งแรงกระปรี้กระเปร่ามาก เจ้ากล้าเอ่ยวาจาสามหาว ว่าเจ้าไม่รู้จักอย่างนั้นหรือ?”
เขาจงใจอธิบายรูปพรรณสัณฐานของคนผู้นั้นให้แทงไปยังพ่อบ้านกาว
ลู่เจียวเจียวฟังเช่นนั้นศีรษะพลันชุ่มด้วยเหงื่อ ก่อนจะเอ่ยอย่างเหลือเชื่อว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร? ผู้ใดคือหน่อยสอดแนมของหนานหว่านเยียนกัน เขาบอกท่านเช่นนี้หรือ?”
“คนที่อยากให้หนานหว่านเยียนตาย จะเป็นคนเฒ่าแก่ชราไปได้อย่างไร? ฝ่าบาทตั้งใจหลอกปั่นหัวข้าหรือเพคะ?!”
เรื่องที่ควรทราบ แม้แต่ตัวนางเองก็ยังสงสัยใคร่รู้เหลือเกินว่าคนลึกลับที่อยู่เบื้องหลังผู้นั้นแท้จริงแล้วเป็นใครกันแน่ คนผู้นั้นรู้จักหนานหว่านเยียนเป็นอย่างดี หนำซ้ำยังปรารถนาอย่างยิ่งยวดที่จะให้หนานหว่านเยียนตายในเร็ววันด้วย
คนที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ นางคิดว่า อาจเป็นบุตรจากตระกูลบุญหนักศักดิ์ใหญ่ใดสักแห่ง ที่เคยถูกหนานหว่านเยียนเล่นความรู้สึกมาก่อน ถึงได้คิดจะล้างแค้นเอาสะใจเช่นนี้ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นสตรี ที่เคยพ่ายแพ้ในศึกชิงบุรุษของหนานหว่านเยียนมาก่อน ฉะนั้นความริษยาอาฆาตถึงได้ฝังลึกในใจ ไม่ตายก็ไม่มีวันรามือ!
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนชราที่ปรารถนาจะสังหารหนานหว่านเยียนให้ถึงที่ตายด้วย!
แต่ว่า — หนานหว่านเยียนนางลอบส่งคนมาสอดแนมข้างกายนางตั้งแต่เมื่อใดกัน เหตุใดนางถึงไม่ทราบอะไรเลย! มิน่านางถึงได้พ่ายแพ้ง่ายดายเช่นนี้!
เพียงแต่นี่ไม่ใช่เวลามาสนใจเรื่องเหล่านี้ นางข่มความรู้สึกไว้ในใจพลางมองหนานหว่านเยียนอย่างไม่พอใจ
“สรุปสั้น ๆ ข้าไม่ได้พูดจาเหลวไหล ข้าไม่เคยพบคนผู้นั้นมาก่อนจริง ๆ แต่ถ้าพวกท่านอยากจับคนผู้นั้น ข้าก็ยินดีจะช่วยเป็นเหยื่อล่องูออกจากโพรงให้ องค์หญิงหมิงหวงคิดเห็นเช่นไรหรือ?”
เห็นท่าทีโต้ตอบและข้อแก้ต่างของลู่เจียวเจียวแล้ว คล้ายว่าไม่รู้จักมักคุ้นกับมือมืดที่อยู่เบื้องหลังจริง ๆ
พริบตาเดียวสีหน้าของกู้โม่หานพลันหมองลง เขาหลุบสายตาลง ดวงตางดงามของเขาข่มประกายสว่างอันเยือกเย็นและ โหดเหี้ยมไว้
เดิมเขาคิดว่าวันนี้จะสามารถจับตัวพ่อบ้านกาวคนนั้นได้ในกระบวนเดียว กลับคิดไม่ถึงว่ายามนี้ แม้แต่ฐานะของพ่อบ้านกาวผู้นั้นยังยืนยันแน่ชัดไม่ได้ด้วยซ้ำ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ไม่อาจเร่งร้อนอธิบายความจริงออกไป ฐานะของ ‘โม่เหยียน’ ผู้นี้ ก็มีแต่ต้องปิดบังเอาไว้ต่อไปเท่านั้น…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...