สองดรุณีน้อยแม้มิส่งเสียงใดออกมา ทว่านัยน์ตานั้นก็ฉายประกายคาดหวังในแบบเดียวกันออกมา
กู้โม่หานอุ้มเจ้าเด็กน้อยสองคนไว้ในอ้อมอกอย่างอบอุ่น พลางสอดสายตามองหนานหว่านเยียนอย่างคาดหวังไม่ต่างกัน
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่น กระนั้นแล้วก็ยังเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นตอบกลับไป “ไม่ได้ ยามนี้พวกข้าสมควรต้องกลับแล้ว รถมาจุดไฟสว่างตลอดทาง พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว งีบหลับไม่นานก็เดินทางถึงแล้ว”
สิ้นเสียง นางก็ยื่นมือออกไปหมายจะอุ้มอันอันและน่าวน่าวกลับ
ทว่าเจ้าก้อนแป้งทั้งสองกลับคว้าอกเสื้อของกู้โม่หานไว้แน่นไม่ปล่อย ไม่เพียงเท่านั้นน่าวน่าวยังร้องไห้โยเยออกมา ท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจชวนให้รู้สึกสงสารยิ่งนัก
“ไม่เอา ท่านแม่ ข้า ข้าก็แค่อยาก จะอยู่กับท่านพ่อ ต่ออีกสักหน่อยก็เท่านั้น เมื่อครู่พวกพี่หญิง เพิ่งจะเล่าให้พวกข้าฟังถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่พวกท่าน ใช้ชีวิตด้วยกันที่แคว้นซีเหย่!”
สีหน้าของหนานหว่านเยียนอึ้งงันไป เหลือบสายตามองเจ้าดรุณีน้อยทั้งสองคนอย่างลืมตัว ก็พบว่ายามนี้พวกนางต่างกำลังก้มหน้างุดด้วยความรู้ละอายใจอยู่
นางไม่ได้ส่งเสียงตำหนิหรือดุด่าออกไป เพียงแต่ยืนยันจะพาพวกเขาทั้งหมดกลับไปที่วังเท่านั้น
ยามนี้เอง กู้โม่หานหมดความอดทนแล้ว
บุตรชายสองคนร้องห่มร้องไห้ออกมา เขาก็เหลืออดอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท้องฟ้ายามนี้ก็จวนจะมืดลงเต็มที ทนไม่ไหวก็คว้าข้อมือเล็ก ๆ ของหนานหว่านเยียนไว้
“หว่านเยียน ยามนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว หนทางที่พวกเจ้ากลับไปทั้งไกลและไม่สะดวก ไม่สู้รุ่งขึ้นค่อยเดินทางกลับวังหลวงจะดีกว่า”
“ข้าจัดการเตรียมโรงเตี๊ยมไม่ไกลจากที่นี่ไว้ให้แล้ว เจ้ากับพวกเด็ก ๆ พำนักรับประทานอาหารก่อนสักมื้อ นอนหลับให้เต็มที่สักคืนก่อนเดินทางเถิด”
หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่นพลางสะบัดมือออกจากการจับกุมของบุรุษทันใด จ้องมองเขาด้วยสายตาคมกริบดุจมีดดาบ“กู้โม่หาน เจ้าคิดจะทำอะไร ตกลงกันดีแล้วมิใช่หรือว่าเจ้ากับข้าจะพบหน้ากันเพียงวันเดียว แต่เจ้ากลับเตรียมโรงเตี๊ยมไว้ล่วงหน้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”
“ข้ากับพวกเด็ก ๆ ไม่ต้องการความห่วงใยจากเจ้า ส่งอันอันกับน่าวน่าวคืนข้าได้แล้ว”
ตระเตรียมโรงเตี๊ยมไว้พร้อมเช่นนี้ ก็ชัดว่าเขาได้วางความคิดไว้ล่วงหน้าก่อนมา
หัวใจของกู้โม่หานพลันแห้งเหี่ยวทันใด คิ้วเรียวได้รูปของเขาขมวดเป็นปม “ข้ามิได้หมายความเช่นนี้ ข้าเพียงเตรียมที่พักไว้พักผ่อนระหว่างเดินทางกลับเท่านั้น เจ้ากับพวกเด็ก ๆ จะเดินทางกันในยามวิกาลเช่นนี้เกรงว่าไม่ปลอดภัยนัก ก็ถือโอกาสนี้พำนักที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นก่อนสักคืนจะเป็นอะไรไป”
อันอันและน่าวน่าวดึงดันไม่อยากไปเป็นที่สุด เจ้าเด็กน้อยสองคนเลื่อนมือไปกอดคอกู้โม่หานเอาไว้ท่าทางอิดออดเหมือนตัวขี้เกียจ พลางส่งเสียงร้องไห้โยเยออกมา
ดวงหน้าของน่าวน่าวบู้บี้แดงก่ำ หยาดน้ำตาร่วงเผาะ “ท่านแม่ ท่านแม่ที่รัก ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดให้พวกข้าอยู่ที่นี่ต่ออีกสักคืนหนึ่งเถิด!”
“ข้ากับท่านพี่ เพิ่งจะเคยพบหน้าท่านพ่อครั้งแรกเอง! หลังจากนี้ หลังจากนี้ก็ไม่ทราบจะได้พบกันอีกเมื่อใด ท่านแม่จะใจจืดใจดำ ไม่ยอมให้ข้าอยู่กับท่านพ่อนานอีกสักคืนหนึ่งเชียวหรือขอรับ?”
อันอันเองก็ข่มความเศร้าโศกทุกข์ตรมต่อไปไม่ไหว หยาดน้ำตาพลันร่วงเผาะลงมาไม่ต่างกัน “ท่านแม่ ได้โปรดเถิดขอรับพวกข้าสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จะตามท่านกับท่านพ่ออย่างเชื่อฟัง! ไม่เดินไปไหนเลยขอรับ!”
เจ้าเด็กน้อยสองคนพากันร้องไห้โยเยขึ้นมา นานเข้ายิ่งเสียงดังและรุนแรงขึ้น ดรุณีน้อยสองคนกลับจ้องมองน้องชายทั้งสองด้วยสายตาลึกซึ้งติดตรึงใจ ทอดถอนใจอย่างเงียบเชียบไม่ให้ใครทราบ
เหมาะสมแล้วที่เป็นน้องชายของพวกนาง การแสดงนี้ เหมือนกับที่พวกนางเคยใช้เมื่อตอนยังเยาว์วัยไม่มีผิดเพี้ยน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ท่านแม่จะยอมใจอ่อนหรือไม่
กู้โม่หานลูบศีรษะเจ้าเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างอ่อนโยนและสงสารสุดหัวใจ พลางปลอบโยนด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ต้องร้องแล้ว ท่านพ่อไม่ไปจากพวกเจ้าหรอก”
เอ่ยวาจานี้พลาง เขาก็เหลือบสายตามองหนานหว่านเยียน คล้ายกับกำลังคอยว่านางจะเลือกตัดสินใจอย่างไร
ถึงอย่างไรด้านนอกยามนี้ก็ดึกเกินไปแล้วจริง ๆ หนำซ้ำวันนี้เพิ่งจะถูกลอบสังหารมาหมาดๆ แม้ปากจะบอกว่าเรื่องของลู่เจียวเจียวถูกจัดการอย่างสะอาดหมดจดแล้วก็ตาม ทว่าใครจะรู้ว่าระหว่างทางกลับวัง อาจจะเกิดเหตุการณ์อันตรายอื่นใดขึ้นอีกก็เป็นไปได้
เขาไม่วางใจ และด้วยความเห็นแก่ตัวของเขา…หากสามารถอ้างสิทธิ์ในฐานะสามี และบิดาเพื่อต่อเวลาให้อยู่กับพวกเขานานกว่านี้ได้ เขายินดีและเต็มใจทำมัน
“หว่านเยียน เจ้าก็แค่กังวลว่าข้าจะบีบบังคับรั้งเจ้าเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น แต่บัดนี้ฐานะของเจ้าไม่เหมือนวันวานอีกต่อไปแล้ว”
“ที่แห่งนี้คือแคว้นต้าเซี่ย เจ้ามีกำลังทหาร มีอำนาจยิ่งใหญ่พอจะกำราบคนของข้าได้ในหนึ่งกระบวน เจ้ายังจำเป็นต้องกังวลเรื่องใดอีกหรือ?”
“หากเจ้ารู้สึกว่าข้ามีสิ่งใดไม่เหมาะสม จะพาพวกเด็ก ๆ ไปหลบหนีเมื่อใดได้เสมอ ข้าจะไม่ขัดขวางไม่ดึงดันเด็ดขาด เพียงแต่ตอนนี้ พวกเด็ก ๆ อยากจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักคืน เจ้าตามใจพวกเขาบ้างจะไม่ดีกว่าหรือ”
อันอันและน่าวน่าวกอดกู้โม่หานแน่น ไม่มีความคิดจะลงจากอ้อมกอดนั้นแม้แต่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้
อ่าน ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1,846 www.sunnewsfocus.com...
อ่านยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ ตอนที่ 998 - 1846 sunnewsfocus.com นะคะ...
ขัดใจหลายหย่าง 1. นางเอก - ก็รู้ว่าตัวเองสู้เเพ้อ๋องทุกครั้ง เเทนที่จะฝึกวิชาป้องกันตัวบ้าง เเต่ก็ไม่เห็นทำไร 2. ลูก - ก็เห็นอยู่ว่าเเม่ตัวเองทุกข์ใจที่ต้องอยู่กับอ๋อง เเทนที่จะสนับสนุนให้เลิก เเต่ยังจะให้คบกันต่อ คือพวกเอ็งจะขาดพ่อไม่ได้เลยรึไงฟะ 3. อ๋อง - รักเเต่ใช้วิธีผิด นางไม่ยอมก็ขังนางไว้ เจอผู้ชายคนไหนก็ขู่จะทำร้ายเค้า ? เป็นพระเอกที่ห่วยบัดซบ...
ใครที่คิดว่าหนานหว่านเยียนอคติเกินไป ลองย้อนไปดูสิ่งที่กู้โม่หานทำกับนางเอกในช่วงแรกๆ ว่ามันสมควรให้อภัยกันง่ายๆมั้ย...
ไม่แปลกหรอกที่นางเอกจะเกลียดกู้โม่หาน และไม่ยอมให้อภัยกู้โม่หาน ก่อนหน้านั้นหนานหว่านเยียนโดนทำร้ายทั้งกายและจิตใจมามาก โดนจับขังในเรือนเย็น ทั้งตั้งท้องลูก คลอดลูกเอง เลี้ยงเอง ข้าวที่จะกินแทบจะหาไม่ได้ พระเอกมักจะเลือกช่วยหยุนอี่โหรวก่อนนางเอกเสมอ สมควรได้รับที่สิ่งทำไว้ในอดีต นางเอกไม่ได้ทำอะไรผิดแต่โดนพระเอกกระทำมาโดยตลอด...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
ดูๆ ไปแล้ว เรื่องนี้คงมีแค่ 997 ไม่ต่อแล้ว เศร้าไปสิ...
กลับมาอัพเดทหน่อยจ้า..แอด,😁😁...
รออัพเดทนะคะ...
ขอเรื่อง หนูน้อยจอมอิทธิฤทธิ์...