ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 953

สองดรุณีน้อยแม้มิส่งเสียงใดออกมา ทว่านัยน์ตานั้นก็ฉายประกายคาดหวังในแบบเดียวกันออกมา

กู้โม่หานอุ้มเจ้าเด็กน้อยสองคนไว้ในอ้อมอกอย่างอบอุ่น พลางสอดสายตามองหนานหว่านเยียนอย่างคาดหวังไม่ต่างกัน

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่น กระนั้นแล้วก็ยังเอ่ยด้วยเสียงหนักแน่นตอบกลับไป “ไม่ได้ ยามนี้พวกข้าสมควรต้องกลับแล้ว รถมาจุดไฟสว่างตลอดทาง พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว งีบหลับไม่นานก็เดินทางถึงแล้ว”

สิ้นเสียง นางก็ยื่นมือออกไปหมายจะอุ้มอันอันและน่าวน่าวกลับ

ทว่าเจ้าก้อนแป้งทั้งสองกลับคว้าอกเสื้อของกู้โม่หานไว้แน่นไม่ปล่อย ไม่เพียงเท่านั้นน่าวน่าวยังร้องไห้โยเยออกมา ท่าทางน้อยเนื้อต่ำใจชวนให้รู้สึกสงสารยิ่งนัก

“ไม่เอา ท่านแม่ ข้า ข้าก็แค่อยาก จะอยู่กับท่านพ่อ ต่ออีกสักหน่อยก็เท่านั้น เมื่อครู่พวกพี่หญิง เพิ่งจะเล่าให้พวกข้าฟังถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่พวกท่าน ใช้ชีวิตด้วยกันที่แคว้นซีเหย่!”

สีหน้าของหนานหว่านเยียนอึ้งงันไป เหลือบสายตามองเจ้าดรุณีน้อยทั้งสองคนอย่างลืมตัว ก็พบว่ายามนี้พวกนางต่างกำลังก้มหน้างุดด้วยความรู้ละอายใจอยู่

นางไม่ได้ส่งเสียงตำหนิหรือดุด่าออกไป เพียงแต่ยืนยันจะพาพวกเขาทั้งหมดกลับไปที่วังเท่านั้น

ยามนี้เอง กู้โม่หานหมดความอดทนแล้ว

บุตรชายสองคนร้องห่มร้องไห้ออกมา เขาก็เหลืออดอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นท้องฟ้ายามนี้ก็จวนจะมืดลงเต็มที ทนไม่ไหวก็คว้าข้อมือเล็ก ๆ ของหนานหว่านเยียนไว้

“หว่านเยียน ยามนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว หนทางที่พวกเจ้ากลับไปทั้งไกลและไม่สะดวก ไม่สู้รุ่งขึ้นค่อยเดินทางกลับวังหลวงจะดีกว่า”

“ข้าจัดการเตรียมโรงเตี๊ยมไม่ไกลจากที่นี่ไว้ให้แล้ว เจ้ากับพวกเด็ก ๆ พำนักรับประทานอาหารก่อนสักมื้อ นอนหลับให้เต็มที่สักคืนก่อนเดินทางเถิด”

หนานหว่านเยียนขมวดคิ้วแน่นพลางสะบัดมือออกจากการจับกุมของบุรุษทันใด จ้องมองเขาด้วยสายตาคมกริบดุจมีดดาบ“กู้โม่หาน เจ้าคิดจะทำอะไร ตกลงกันดีแล้วมิใช่หรือว่าเจ้ากับข้าจะพบหน้ากันเพียงวันเดียว แต่เจ้ากลับเตรียมโรงเตี๊ยมไว้ล่วงหน้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร?”

“ข้ากับพวกเด็ก ๆ ไม่ต้องการความห่วงใยจากเจ้า ส่งอันอันกับน่าวน่าวคืนข้าได้แล้ว”

ตระเตรียมโรงเตี๊ยมไว้พร้อมเช่นนี้ ก็ชัดว่าเขาได้วางความคิดไว้ล่วงหน้าก่อนมา

หัวใจของกู้โม่หานพลันแห้งเหี่ยวทันใด คิ้วเรียวได้รูปของเขาขมวดเป็นปม “ข้ามิได้หมายความเช่นนี้ ข้าเพียงเตรียมที่พักไว้พักผ่อนระหว่างเดินทางกลับเท่านั้น เจ้ากับพวกเด็ก ๆ จะเดินทางกันในยามวิกาลเช่นนี้เกรงว่าไม่ปลอดภัยนัก ก็ถือโอกาสนี้พำนักที่โรงเตี๊ยมแห่งนั้นก่อนสักคืนจะเป็นอะไรไป”

อันอันและน่าวน่าวดึงดันไม่อยากไปเป็นที่สุด เจ้าเด็กน้อยสองคนเลื่อนมือไปกอดคอกู้โม่หานเอาไว้ท่าทางอิดออดเหมือนตัวขี้เกียจ พลางส่งเสียงร้องไห้โยเยออกมา

ดวงหน้าของน่าวน่าวบู้บี้แดงก่ำ หยาดน้ำตาร่วงเผาะ “ท่านแม่ ท่านแม่ที่รัก ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดให้พวกข้าอยู่ที่นี่ต่ออีกสักคืนหนึ่งเถิด!”

“ข้ากับท่านพี่ เพิ่งจะเคยพบหน้าท่านพ่อครั้งแรกเอง! หลังจากนี้ หลังจากนี้ก็ไม่ทราบจะได้พบกันอีกเมื่อใด ท่านแม่จะใจจืดใจดำ ไม่ยอมให้ข้าอยู่กับท่านพ่อนานอีกสักคืนหนึ่งเชียวหรือขอรับ?”

อันอันเองก็ข่มความเศร้าโศกทุกข์ตรมต่อไปไม่ไหว หยาดน้ำตาพลันร่วงเผาะลงมาไม่ต่างกัน “ท่านแม่ ได้โปรดเถิดขอรับพวกข้าสัญญาว่าจะเป็นเด็กดี จะตามท่านกับท่านพ่ออย่างเชื่อฟัง! ไม่เดินไปไหนเลยขอรับ!”

เจ้าเด็กน้อยสองคนพากันร้องไห้โยเยขึ้นมา นานเข้ายิ่งเสียงดังและรุนแรงขึ้น ดรุณีน้อยสองคนกลับจ้องมองน้องชายทั้งสองด้วยสายตาลึกซึ้งติดตรึงใจ ทอดถอนใจอย่างเงียบเชียบไม่ให้ใครทราบ

เหมาะสมแล้วที่เป็นน้องชายของพวกนาง การแสดงนี้ เหมือนกับที่พวกนางเคยใช้เมื่อตอนยังเยาว์วัยไม่มีผิดเพี้ยน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ท่านแม่จะยอมใจอ่อนหรือไม่

กู้โม่หานลูบศีรษะเจ้าเด็กน้อยทั้งสองคนอย่างอ่อนโยนและสงสารสุดหัวใจ พลางปลอบโยนด้วยเสียงเบาว่า “ไม่ต้องร้องแล้ว ท่านพ่อไม่ไปจากพวกเจ้าหรอก”

เอ่ยวาจานี้พลาง เขาก็เหลือบสายตามองหนานหว่านเยียน คล้ายกับกำลังคอยว่านางจะเลือกตัดสินใจอย่างไร

ถึงอย่างไรด้านนอกยามนี้ก็ดึกเกินไปแล้วจริง ๆ หนำซ้ำวันนี้เพิ่งจะถูกลอบสังหารมาหมาดๆ แม้ปากจะบอกว่าเรื่องของลู่เจียวเจียวถูกจัดการอย่างสะอาดหมดจดแล้วก็ตาม ทว่าใครจะรู้ว่าระหว่างทางกลับวัง อาจจะเกิดเหตุการณ์อันตรายอื่นใดขึ้นอีกก็เป็นไปได้

เขาไม่วางใจ และด้วยความเห็นแก่ตัวของเขา…หากสามารถอ้างสิทธิ์ในฐานะสามี และบิดาเพื่อต่อเวลาให้อยู่กับพวกเขานานกว่านี้ได้ เขายินดีและเต็มใจทำมัน

“หว่านเยียน เจ้าก็แค่กังวลว่าข้าจะบีบบังคับรั้งเจ้าเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น แต่บัดนี้ฐานะของเจ้าไม่เหมือนวันวานอีกต่อไปแล้ว”

“ที่แห่งนี้คือแคว้นต้าเซี่ย เจ้ามีกำลังทหาร มีอำนาจยิ่งใหญ่พอจะกำราบคนของข้าได้ในหนึ่งกระบวน เจ้ายังจำเป็นต้องกังวลเรื่องใดอีกหรือ?”

“หากเจ้ารู้สึกว่าข้ามีสิ่งใดไม่เหมาะสม จะพาพวกเด็ก ๆ ไปหลบหนีเมื่อใดได้เสมอ ข้าจะไม่ขัดขวางไม่ดึงดันเด็ดขาด เพียงแต่ตอนนี้ พวกเด็ก ๆ อยากจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักคืน เจ้าตามใจพวกเขาบ้างจะไม่ดีกว่าหรือ”

อันอันและน่าวน่าวกอดกู้โม่หานแน่น ไม่มีความคิดจะลงจากอ้อมกอดนั้นแม้แต่น้อย

เจ้าเกี๊ยวน้อยหัวเราะกับเขาเบาๆ สองพ่อลูกต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน กู้โม่หานใช้มือป้องกระหม่อมให้นาง อดไม่ไหวก็เอ่ยปากชื่นชมว่า “ตัวสูงขึ้นเยอะเลย”

เกี๊ยวน้อยแอบรู้สึกปีติยินดีอยู่ในใจ ทว่าใบหน้ากลับแค่นเสียงกระแอมเบาๆ ออกมาอย่างเย่อหยิ่งพลางเดินไปนั่งข้างพี่สาวเท่านั้น “ก็แค่พอใช้ได้ ข้ายังสูงได้มากกว่านี้อีก!”

กู้โม่หานเพียงยิ้มแต่มิได้เอ่ยคำใดออกมา ก่อนจะเหลือบสายตามองหนานหว่านเยียน ดวงหน้าขาวผ่องสดใสนั้นเจือด้วยความอ่อนโยนอบอุ่น เขายื่นมือออกไปหานาง

“ขึ้นรถเถิด”

หนานหว่านเยียนเห็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างกู้โม่หานและบุตรีทั้งสองคนเมื่อครู่กับตา ไม่รู้ด้วยเหตุผลใดหัวใจของนางถึงได้รู้สึกว้าวุ่นซับซ้อนขึ้นมาเช่นนี้

“ช่างเถิด ท่านไปดูแลพวกเด็ก ๆ เถิด ข้าจะไปนั่งรถม้าของข้าเอง”

สิ้นเสียง นางก็หมุนตัวหมายจะเดินจากไป ทว่าทันใดนั้นกลับถูกแรงมหาศาลรั้งเอวบางของนางไว้ สองขาลอยขึ้นกลางอากาศ “อ๊ะ!”

หนานหว่านเยียนไม่ทันระวังตัวพรั่นพรึงตื่นตระหนกจนหัวใจเต้นแรง เงยหน้าขึ้นมองก็ปะทะกับนัยน์ตางดงามที่โค้งเล็กน้อยของกู้โม่หานพอดี

ราตรีนี้มืดมิดเงียบสงัด สายลมยามค่ำพัดผ่านดวงหน้าของพวกเขาทั้งสอง ผมเส้นละเอียดพลิ้วไหวตรงขมับของกู้โม่หาน ยิ่งขับให้ดวงหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบของบุรุษเยือกเย็นและคมคายขึ้น

นางกลับไร้จิตใจชื่นชมดวงหน้าหล่อเหลาคมคายหาใดเปรียบของเขาแล้ว ขมวดคิ้วขึ้นด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธทันใด ก่อนจะตวาดว่า “กู้โม่หาน เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า?! ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้!”

กู้โม่หานหลุบสายตาลง จ้องมองอารมณ์ความรู้สึกของนางเข้าสู่ก้นบึ้งของดวงใจ ก่อนจะผงะไปเล็กน้อย

ภายใต้สายลมราตรีดวงหน้าที่เจือด้วยความโกรธกรุ่นของนางในยามนี้งดงามน่ามองยิ่งนัก สีหน้าที่เจือด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองเช่นนี้ คล้ายกับเมื่อก่อนที่อยู่ในจวนอี้อ๋อง ตอนที่พวกเขาสองคนยังมีปากเสียงโต้เถียงหยอกล้อซึ่งกันและกัน…

ความรู้สึกในใจเขาพรั่งพรูขึ้นมา อารมณ์เร่าร้อนแผดเผาคล้ายจะปะทุออกมาให้ได้ ทว่าเขากลับต้องฝืนใจข่มมันไว้อีกครั้ง ไม่ต้องให้เปลืองแรง ก็อุ้มหนานหว่านเยียนขึ้นรถม้ามาอย่างง่ายดาย

ในน้ำเสียงของเขาเจือด้วยอารมณ์สัพยอก

“บัดนี้พวกลูกๆ ล้วนอยู่ข้างข้าทั้งสิ้น เจ้าไม่ลองมองจุดนี้สักหน่อยหรือ ไม่กลัวหรือว่าข้าจะพูดอะไร หรือทำอะไรกับพวกเขาสักหน่อย? ให้พวกเขาเปลี่ยนใจกลับแคว้นซีเหย่ไปพร้อมข้า?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้