ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 981

เสียงนั้นดึงความคิดของทุกคนให้กลับมา ทุกคนต่างเงียบลงทันที มองไปที่ประตูโดยไม่ได้นัดหมาย และในวินาทีถัดมา ทุกสิ่งรอบตัวก็ดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปในทันที

วันนี้กู้โม่หานเปลี่ยนไปจากทุกวัน ไม่สวมเสื้อคลุมยาวสีดำอีกต่อไป แต่สวมเสื้อคลุมยาวสีเหลืองสดใสในเฉดสีเดียวกับหนานหว่านเยียน

แม้จะมีรูปร่างเหมือนเสื้อคลุมลายมังกรแต่ก็ไม่เหมือนกันทั้งหมด ทั้งตัวปกคลุมด้วยลวดลายมังกรเงิน เขารูปร่างสูงโปร่ง สูงกว่าผู้ชายส่วนใหญ่ที่อยู่ในนี้เล็กน้อย มีเพียงโม่เหยียนเท่านั้นที่สามารถเทียบความสูงกับเขาได้

ดวงตาสวยงามเล็กเรียวคู่หนึ่งดุจดั่งดวงตานกอินทรีผู้โดดเดี่ยวในทุ่งกว้าง เพียงมองแวบเดียวก็ราวกับเจาะเข้าไปในหัวใจของผู้คนได้

เขาเม้มริมฝีปากบางเป็นเส้นตรง โครงร่างอันเย็นชาคมสันแผ่ความเยือกเย็นที่ไม่อาจสัมผัสได้ เปี่ยมไปด้วยบารมี

การมีอยู่ของรูปลักษณ์และอุปนิสัยอันดีเยี่ยมเช่นนี้ ทำให้ผู้ชายคนอื่นๆ ในที่นี้ดูจืดจางไร้ชีวิตชีวาในทันที

อวี๋เฟิงเดินตามหลังกู้โม่หาน อดไม่ได้ที่จะมองดูสีหน้าของผู้คนรอบตัวเขา ในใจก็รู้สึกภาคภูมิใจ

เขามองดูผู้ชายเหล่านี้ที่อยู่ในที่นี้ นอกจากฮ่องเต้แล้ว ไม่มีใครเทียบฮองเฮาเหนียงเหนียงได้เลย!

อวี๋เฟิงคิดไม่ผิดจริงๆ เพราะเย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วนเปลี่ยนสีหน้าทันทีที่พวกเขาเห็นกู้โม่หาน

ดวงตาของพวกเขาสั่นไหวอย่างรุนแรง ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความรู้สึกที่ถูกกระทบกระเทือนยากจะอธิบายได้

โดยเฉพาะเฉิงซูหย่วนที่เมื่อครู่ยังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนปัญญาอ่อนพูดเพ้อเจ้อ

เรื่องรูปร่างหน้าตา เขาไม่ด้อยไปกว่ากู้โม่หานแน่นอนหรือ?

เหลวไหลทั้งเพ! ตอนนี้กู้โม่หานยืนอยู่ที่นี่ เขารู้สึกว่าตัวเองถูกกลบมิด! กู้โม่หาน หน้าตาดีขนาดนี้เชียวหรือ!

เย่เชียนเฟิงจ้องมองกู้โม่หานอย่างไม่เชื่อสายตา ตัวเกร็งและรู้สึกอึดอัด

เขาไม่เคยคิดมาก่อน กู้โม่หานช่างเป็นฮ่องเต้ที่น่าเกรงขามถึงเพียงนี้

มันไม่ใช่กลิ่นอายของความอาฆาตเช่นนั้น และไม่ใช่ความรู้สึกที่รุนแรงน่าหวาดกลัว มันเหมือนกับบารมีอันทรงพลังที่เปล่งออกมาจากภายในสู่ภายนอก เป็นพลังอันแข็งแกร่งครอบงำทั่วหล้า

จะเปรียบเทียบได้เช่นไร ไม่อาจเทียบได้เลย! เขาและเฉิงซูหย่วนพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง พ่ายแพ้ยับเยิน!

แววตาของหยุนเหิงสั่นไหวด้วยความตื่นเต้น แต่ก็มองไปที่โม่เหยียนที่อยู่ข้างกายด้วยความกังวล

เขาเห็นโม่เหยียนจ้องมองกู้โม่หานอย่างหลงใหล สายตาไม่เย็นชาอีกต่อไป แต่เต็มไปด้วยความยำเกรงและเลื่อมใส จึงตกใจรีบบิดแขนโม่เหยียน

โม่เหยียนจึงได้สติกลับมา กลับมาสู่ท่าทีเย็นชาและตึงเครียด ไม่จ้องมองกู้โม่หานอีกต่อไป

ส่วนลู่เซิงเซิงที่นั่งแถวหลังก็ได้เห็นกู้โม่หานเป็นครั้งแรก นางตกตะลึงเป็นอย่างมาก

กู้โม่หานค่อยๆ ก้าวเข้าไปในใจกลางของตำหนักหลวง ดวงตาเล็กเรียวกวาดมองผ่านผู้คน ทุกคนรู้สึกกดดัน ไม่กล้ามองเขาตรงๆ แต่สายตาของกู้โม่หานสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่หนานหว่านเยียน

ริมฝีปากบางของเขาวาดโค้งขึ้น เดินทีละก้าวไปหาหนานหว่านเยียน

สายตาของทุกคนดูเหมือนจะจับจ้องไปที่กู้โม่หาน พวกเขาเห็นเขาเดินไปถึงตรงหน้าหนานหว่านเยียน ไม่รู้ว่าจะทำอะไร

และในขณะที่กู้โม่หานกำลังจะเข้าไปใกล้ บรรดาองค์ชายก็เริ่มมีท่าทีระแวดระวังและไม่พอใจขึ้นมาทันที

พวกเขาล้วนเข้ามารายล้อมหนานหว่านเยียนด้วยพลังอันฮึกเหิม

เย่เชียนเฟิงและเฉิงซูหย่วนก็เริ่มประหม่า จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของกู้โม่หาน กลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีกับองค์หญิง!

หนานหว่านเยียนก็จ้องมองชายหล่อเหลาที่เดินเข้ามาหานางทีละก้าว พลางขมวดคิ้วขึ้น

ตำหนักหลวงใหญ่โตเช่นนี้ไม่เพียงพอรองรับเขาหรือ เข้ามาใกล้นางทำไม เมื่อคิดได้ดังนั้น กู้โม่หานก็ไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา เดินเข้ามาอยู่ตรงหน้านาง ห่างกันแค่คืบ

กู้โม่หานจ้องมองนางด้วยดวงตาดำขลับ มองดูความไม่พอใจในดวงตาคมขำของนาง แต่ไม่รู้สึกหงุดหงิด กลับยิ้มเล็กน้อยและพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“หว่านเยียน เมื่อวานทรมานเจ้าทั้งคืน ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้