ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 10

ซูจื่ออวี๋ใช้นิ้วบีบเข้าที่จมูกของอานซื่อจื่อ โดยที่มืออีกข้างของนางนั้นเชยคางของอานซื่อจื่อขึ้นมาก่อนจะสูดหายใจเข้าไปลึกๆและประทับจูบลงไป

แกร๊ก เสียงของไม้แตกดังขึ้นมาเบาๆจากที่วางแขนรถเข็นของจวินมู่เหนียน

องครักษ์เทียนชิงและองครักษ์เซวียนชางมองไปยังนายของตนในเวลาเดียวกันและรู้สึกว่าสีหน้าของจวินมู่เหนียนในตอนนี้นั้นซีดเซียวด้วยความโกรธเสียยิ่งกว่าอานซื่อจื่อที่หมดลมหายใจอยู่และมันยังดูค่อนข้างจะน่าเกลียดเล็กน้อย

ท่านอ๋องขุ่นเคืองใจงั้นหรือ? เพราะเหตุใดกัน? ทั้งสองคนรู้สึกไม่เข้าใจ

ในฐานะที่ซูจื่ออวี๋เป็นแพทย์นางไม่ได้มีความสับสนระหว่างการจูบและการช่วยหายใจ แต่สำหรับคนโบราณเหล่านี้ พวกเขาอดที่จะตกใจในการกระทำของซูจื่ออวี๋ไม่ได้

ซูจื่ออวี๋ไม่มีเวลาที่จะมาสนใจสายตาของคนรอบกายนาง นางสนใจอยู่กับการช่วยคนเท่านั้น

นางไม่รู้ว่าใช้ลมหายใจไปมากเท่าใด อานเป่ยซานซื่อจื่อแห่งอานชินอ๋องจึงได้ค่อยๆลืมตาขึ้นมา

อานซื่อจื่อเพิ่งจะลืมตาขึ้นมาเมื่อเห็นว่าตนกำลังถูกหญิงสาวคนหนึ่งจูบเขาอยู่นั้นก็รู้สึกเกือบจะเป็นลมไป

เมื่อเทียบกับความตกใจของอานซื่อจื่อแล้ว ความสงบของซูจื่ออวี๋แทบจะไม่เหมือนสตรีเอาเสียเลย

“เอาล่ะ!” ซูจื่ออวี๋หยัดตัวลุกขึ้นยืนและใช้แขนเสื้อเช็ดปากของนาง

มุมปากของอานซื่อจื่อที่เพิ่งจะฟื้นคืนชีพมากระตุกอย่างหยุดไม่ได้ เขาไม่ได้ถูกเมินเฉยไปแล้วหรือ?

“ลูกซาน!”

“ซื่อจื่อ!”

“อานซื่อจื่อกลับมามีชีวิตแล้ว?!”

ทุกคนต่างพากันร้องอุทานออกมาและชายาอ๋องดีใจจนต้องหลั่งน้ำตา

เมื่อเห็นเช่นนี้ฮองเฮาก็รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจเช่นกัน นางลูบหน้าอกของนางพร้อมนางก็ถอนหายใจยาวๆด้วยความโล่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ