ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 144

เนื่องจากตัวตนของอีกฝ่าย ซูจื่ออวี๋จึงต้องกล่าวทำความเคารพ “น้อมทักทายอานซื่อจื่อ น้อมทักทายเป่ยเยว่จวิ้นจู่”

และพี่น้องตระกูลซูคนอื่นๆ ก็ทำความเคารพเช่นกัน

อานเป่ยเยว่มองซูจื่ออวี๋แล้วหัวเราะเยาะก่อนจะหมุนตัวจากไป

ซูจื่ออวี๋ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย อานเป่ยเยว่คนนี้ก็เสียเปรียบให้นางอยู่ไม่น้อย หนึ่งเดือนก่อน ถูกอานซื่อจื่อขังไว้ในจวนไม่สามารถออกมาก่อเรื่องกับนางได้

แต่ตอนนี้เมื่อเผชิญหน้ากันแล้ว อานเป่ยเยว่ยสามารถข่มกลั้นความโกรธไม่หาโอกาสแก้แค้นนางได้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่

ซูจื่ออวี๋ก็เห็นพระชายาอ๋องอานซินเข้าประตูวังไปพร้อมกับอานเป่ยเยว่ ในใจก็เริ่มกระวนกระวายใจ

“คุณหนูสามซู เรื่องคราวก่อนต้องขอโทษจริงๆ น้องสาวของข้าดื้อรั้นยิ่งนัก หวังว่าคุณหนูสามจะไม่ถือสานาง” เสียงของอานเป่ยซานเรียกสติของซูจื่ออวี๋กลับมา

ความประทับใจที่มีต่ออานเป่ยซานของซูจื่ออวี๋ก็ถือว่าไม่เลว เมื่อเขายอมลดตัวมาขอโทษ นางจึงไม่ควรหยิ่งทะนงเกินไป

ซูจื่ออวี๋กล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “อานซื่อจื่อคิดมากเกินไปแล้ว เรื่องคราวก่อนข้าลืมไปหมดแล้วล่ะ?”

อานเป่ยซานตะลึงงัน ไม่นานหลังจากนั้นจึงเข้าใจความหมายของซูจื่ออวี๋ นางไม่เพียงแต่ลืมความขัดแย้งระหว่างจวนอ๋องอานชินไปแล้ว แต่ยังลืมการขอแต่งงานของอานเป่ยซานด้วย

อานเป่ยซานกลับรู้สึกขมขื่นในใจเล็กน้อย อดพูดขึ้นมาไม่ได้ “คุณหนูสาม คำสัญญาของข้ายังมีผล วันนั้นข้าทำให้เจ้าด่างพร้อย...”

“จื่ออวี๋” เสียงเย็นยะเยือกขัดจังหวะประโยคของอานเป่ยอวี๋ ทุกคนเมื่อมองตามเสียงนั้น ก็เห็นอ๋องแปดจวินมู่เยว่กำลังเข็นรถเข็นของจวินมู่เหนียนเดินมาอย่างช้าๆ

เสียงเรียก “จื่ออวี๋” ที่เย็นยะเยือกแทบจะไร้อุณหภูมิเมื่อครู่นี้ มาจากปากของจวินมู่เหนียน

จื่ออวี๋...

อ๋องฉินเรียกสนิทสนมขนาดนี้เลยหรือ?

เสนาบดีซูก็ดีใจมาก ลูกสาวตระกูลซูต่างก็พากันอิจฉาและเกลียดชัง แต่อานเป่ยซานกลับตะลึงงันอยู่กับที่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ