ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 305

ซูจื่ออวี๋นำเข็มที่หลุดออกมาทั้งหมดไว้ในกะมะทองแดงใบหนึ่ง เข็มพวกนี้มีพิษ นางจะนำกลับไปศึกษาให้ละเอียด ยังคืนให้โม่ซุนไม่ได้

อีกอย่างเข็มพวกนี้ถูกหักปลายทิ้งไปแล้ว คาดว่าโม่ซุนคงใช้ต่อไม่ได้ เดี๋ยวค่อยไปซื้อเข็มใหม่มอบให้เขาแล้วกัน

……

ด้านนอกฝนยังคงตกหนักโหมกระหน่ำ เทียนชิงกับเซวียนชางถูกฝนสาดจนเหมือนลูกหมาตกน้ำ แต่ไม่กล้าไปไหนแม้แต่ก้าวเดียว

โม่ซุนเองก็กลัวจะเกิดเหตุฉุกเฉิน จึงได้นั่งรอพร้อมกับสองคนนั้น

ภายในห้องเลือดที่ไหลออกมาจากตัวจวินมู่เหนียนมากขึ้นเรื่อยๆ ยังดีที่ปริมาณเลือดยังอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ ไม่มีอันตรายถึงชีวิต

ซูจื่ออวี๋ช่วยจวินมู่เหนียนเช็ดเลือดพิษไปด้วย พร้อมทั้งช่วยเขาตรวจชีพจรไปด้วย เพื่อตรวจดูร่างกายของเขา บางครั้งเมื่อมีเข็มเงินหลุดออกมา ซูจื่ออวี๋ต้องรีบเก็บเข็มเงินออกไป เพื่อให้เขาได้รับบาดเจ็บ

เมื่อเวลาล่วงเลยไป ซูจื่ออวี๋คอยดูแลจวินมู่เหนียนอยู่ข้างเตียงตลอดคืน เมื่อตอนตีสาม ซูจื่ออวี๋ถึงได้ฟุบลง แล้วค่อยๆนอนหลับไป ปลายนิ้วของนางยังจับชีพจรของจวินมู่เหนียนเอาไว้

——

เช้าวันรุ่งขึ้น

หลังจากพายุฝนคะนองเมื่อคืน อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นของดอกไม้ใบหญ้า นกกระจอกตัวหนึ่งเกาะอยู่บนยอดไม้ของจวนอ๋อง มันกำลังจิกขนที่ยังไม่แห้งสนิทของตัวเอง บางครั้งก็ส่งเสียงร้องบ้าง ทำให้เซวียนชางขมวดคิ้ว

เซวียนชางต่อว่า

“จะร้องอะไรนักหนา เดี๋ยวทำให้ท่านอ๋องตื่นแล้วจะทำอย่างไร?”

เซวียนชางหันมองนกตัวนั้น อยากจะใช้พลังฝ่ามือไล่มันไป แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลงมือ กลับถูกเทียนชิงห้ามไว้

เซวียนชางหันมองชิงเทียนด้วยความสงสัย เทียนชิงหัวเราะบอกว่า

“เป็นนกสาลิกา”

โบราณว่าไว้นกสาลิการ้อง แปลว่ามาแจ้งเรื่องมงคล

นี่น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี เซวียนชางพยักหน้า แล้วปล่อยนกตัวนั้นไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ