ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 338

สรุปบท ตอนที่ 338 หญิงงามเต้นรำ แม่ทัพขุ่นเคือง!: ยอดชายานักปรุงพิษ

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 338 หญิงงามเต้นรำ แม่ทัพขุ่นเคือง! – ยอดชายานักปรุงพิษ โดย Phayut

บท ตอนที่ 338 หญิงงามเต้นรำ แม่ทัพขุ่นเคือง! ของ ยอดชายานักปรุงพิษ ในหมวดนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Phayut อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เรือทั้งสองลำปะทะกัน ทำให้ทุกคนพากันอุทานออกมาตามๆ กัน “พระเจ้า! เรือล่มแล้ว!”

พระชายาอานชินอ๋องลุกขึ้นจากที่นั่ง อุทานด้วยความตกใจ “ซานเอ๋อร์!”

รัชทายาทหนานเจียงอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและอุทานว่า “น้องพี่!”

แต่กระนั้น ไม่ว่าทุกคนจะตะโกนดังแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เรือสองลำชนกันแล้วพลิกคว่ำลงไปในน้ำได้

เสียงโครมคราม และแตกหักของเรือมังกรทั้งสองลำชนกัน มือพายพากันสูญเสียการทรงตัว แต่ละคนพากันตกลงไปในน้ำ

อานเป่ยซานและหนานหยวนหรัวก็ไม่อาจหลีกหนีจากความโชคร้ายนี้ได้ โชคดีที่ทั้งคู่ว่ายน้ำเป็น ต่อให้ตกน้ำ แต่ก็จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

หนานหยวนชิงที่อยู่บนฝั่งก็ตะโกนอย่างร้อนใจ “ช่วยพวกเขา รีบไปช่วยพวกเขาเร็ว!”

ฮ่องเต้จาวเหวินเลิกคิ้ว แล้วสั่งการด้วยเสียงไม่รีบไม่ร้อนเกินไป “มัวอึ้งอะไรกัน ไม่ได้ยินคำสั่งของรัชทายาทหยวนชิงหรือ ยังไม่รีบไปช่วยพวกเขาอีก!”

องครักษ์กระโดดลงน้ำไปช่วยคนที่ตกน้ำ ถึงอย่างนั้นก็ยังดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนมากกว่าเดิม

ในเวลานี้ มีเพียงสองลำที่เหลืออยู่ในแม่น้ำ ลำหนึ่งสีขาวเงิน เคลื่อนที่ช้าแต่นำหน้าอยู่ไกล นั่นคือเรือมังกรของจวินมู่หลาน

และเรือสีดำ ที่ตามหลังมาค่อนข้างไกล แต่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ก็คือเรือมังกรของจวินมู่เหนียน

กระบวนท่าดาบของซูจื่ออวี๋เริ่มเปลี่ยนจากช้าเป็นเร็ว ปิ่นหยกขาวเปลือกหอยสามารถสร้างภาพลวงตาในอากาศ ทำให้คนมองลายตาไปหมด

เสียงกลองกระหน่ำรัว เสียงกระดิ่งรัวเร็ว แม่น้ำกำลังเชี่ยวกราก เรือมังกรทะยานอย่างรวดเร็ว

หญิงงามกำลังร่ายรำ แม่ทัพกำลังเดือดดาล มังกรออกทะเล กลายเป็นฉากในตำนาน!

เมื่อเห็นว่าเรือมังกรทั้งสองลำอยู่ข้างกันจนยากจะตัดสินใครแพ้ชนะ และเส้นชัยก็อยู่แค่เอื้อม

ซูจื่ออวี๋ยกยิ้ม และเลื่อนปิ่นมาตรงหน้าเบาๆ ทุกการเคลื่อนไหวของนางดึงดูดสายตาของจวินมู่เหนียนและจวินมู่หลาน

หัวใจของจวินมู่หลานเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นแววตาดุจใยไหมของซูจื่ออวี๋ เขารู้สึกเหมือนซูจื่ออวี๋กำลังยิ้มให้เขา

และเสียงกลองที่ดังอยู่ก็หยุดลง พร้อมกับกระบวนท่าดาบของซูจื่ออวี๋ด้วย

ซูจื่ออวี๋หอบหายใจอย่างเหนื่อยล้า แต่เมื่อได้เห็นจวินมู่เหนียนผู้เงียบขรึมมาตลอด เวลานี้ใบหน้าเขากลับเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และเข้าไปหานางด้วยเหงื่อเต็มศีรษะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจกลับมีความสุขไม่น้อย

เงาร่างของทั้งสอง คนหนึ่งสวมชุดรัดรูปสีดำ แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่ก็ไม่ได้เป็นบดบังความสง่างามของอีกฝ่ายเลย

อีกคนสวมชุดสีเขียวหิมะ หอบหายใจรัวผมตรงหน้าผากก็ยุ่งเหยิง แต่ก็ยังงดงามล่มบ้านล่มเมือง

ในขณะนี้ ทั้งสองมองหน้ากัน ราวกับเวลาหยุดนิ่งไป

เหมือนทั้งโลกนี้มีเพียงพวกเขาสองคน เป็นทั้งมิตรภาพ คนสนิท และ...หุ้นส่วน

ซูจื่ออวี๋หายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆ ทำความเคารพ “ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องที่ได้รับชัยชนะครั้งนี้ ท่านอ๋องช่าง...”

คำว่า “ช่างเก่งกาจ” ยังไม่ทันได้พูดออกมา ซูจื่ออวี๋กลับรู้สึกว่าช่วงเอวของตนแน่นขนัด และหลังจากนั้นไม่นาน ตนก็ถูกจวินมู่เหนียนคว้าเข้าไปกอด!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ