ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 338

เรือทั้งสองลำปะทะกัน ทำให้ทุกคนพากันอุทานออกมาตามๆ กัน “พระเจ้า! เรือล่มแล้ว!”

พระชายาอานชินอ๋องลุกขึ้นจากที่นั่ง อุทานด้วยความตกใจ “ซานเอ๋อร์!”

รัชทายาทหนานเจียงอดไม่ได้ที่จะยืนขึ้นและอุทานว่า “น้องพี่!”

แต่กระนั้น ไม่ว่าทุกคนจะตะโกนดังแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนสถานการณ์ที่เรือสองลำชนกันแล้วพลิกคว่ำลงไปในน้ำได้

เสียงโครมคราม และแตกหักของเรือมังกรทั้งสองลำชนกัน มือพายพากันสูญเสียการทรงตัว แต่ละคนพากันตกลงไปในน้ำ

อานเป่ยซานและหนานหยวนหรัวก็ไม่อาจหลีกหนีจากความโชคร้ายนี้ได้ โชคดีที่ทั้งคู่ว่ายน้ำเป็น ต่อให้ตกน้ำ แต่ก็จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

หนานหยวนชิงที่อยู่บนฝั่งก็ตะโกนอย่างร้อนใจ “ช่วยพวกเขา รีบไปช่วยพวกเขาเร็ว!”

ฮ่องเต้จาวเหวินเลิกคิ้ว แล้วสั่งการด้วยเสียงไม่รีบไม่ร้อนเกินไป “มัวอึ้งอะไรกัน ไม่ได้ยินคำสั่งของรัชทายาทหยวนชิงหรือ ยังไม่รีบไปช่วยพวกเขาอีก!”

องครักษ์กระโดดลงน้ำไปช่วยคนที่ตกน้ำ ถึงอย่างนั้นก็ยังดึงดูดความสนใจของกลุ่มคนมากกว่าเดิม

ในเวลานี้ มีเพียงสองลำที่เหลืออยู่ในแม่น้ำ ลำหนึ่งสีขาวเงิน เคลื่อนที่ช้าแต่นำหน้าอยู่ไกล นั่นคือเรือมังกรของจวินมู่หลาน

และเรือสีดำ ที่ตามหลังมาค่อนข้างไกล แต่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ก็คือเรือมังกรของจวินมู่เหนียน

กระบวนท่าดาบของซูจื่ออวี๋เริ่มเปลี่ยนจากช้าเป็นเร็ว ปิ่นหยกขาวเปลือกหอยสามารถสร้างภาพลวงตาในอากาศ ทำให้คนมองลายตาไปหมด

เสียงกลองกระหน่ำรัว เสียงกระดิ่งรัวเร็ว แม่น้ำกำลังเชี่ยวกราก เรือมังกรทะยานอย่างรวดเร็ว

หญิงงามกำลังร่ายรำ แม่ทัพกำลังเดือดดาล มังกรออกทะเล กลายเป็นฉากในตำนาน!

เมื่อเห็นว่าเรือมังกรทั้งสองลำอยู่ข้างกันจนยากจะตัดสินใครแพ้ชนะ และเส้นชัยก็อยู่แค่เอื้อม

ซูจื่ออวี๋ยกยิ้ม และเลื่อนปิ่นมาตรงหน้าเบาๆ ทุกการเคลื่อนไหวของนางดึงดูดสายตาของจวินมู่เหนียนและจวินมู่หลาน

หัวใจของจวินมู่หลานเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นแววตาดุจใยไหมของซูจื่ออวี๋ เขารู้สึกเหมือนซูจื่ออวี๋กำลังยิ้มให้เขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ