ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 39

ซูจื่ออวี๋เลิกคิ้ว นางรู้ว่าหอหว่างเซิงเป็นกลุ่มองค์กรนักฆ่าที่มีชื่อเสียง สิ่งที่พวกเขาทำคือรับเงินและกำจัดคน

ส่วนชื่อ“หมิงโหลว” ก็ยิ่งคุ้นเคย เขาคือเจ้าหอหว่างเซิง จอมโจรที่ทางการต้องการตัวและมีค่าหัวมากที่สุด

ซูจื่ออวี๋ มองหมิงโหลวตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาแต่งกายด้วยชุดสีดำและบนใบหน้าสวมหน้ากาผีสีเงินเอาไว้ ทั้งร่างกายหรือแม้แต่ผมสักเส้นก็ไม่มีให้เห็น เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่ต้องการให้ใครเห็นร่างที่แท้จริงของเขา

สายของซูจื่ออวี๋มองไปยังหมิงโหลวตั้งแต่หัวลงมาจนถึงเข็มขัดของเขาและค่อยๆหยุดลง

หมิงโหลวดูอึดอัดจากการที่ถูกซูจื่ออวี๋มองราวกับเป็นสินค้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางนั่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย เขากำลังยืนเก้ๆกังๆราวกับว่านางนั้นเป็นชายเฒ่าที่มาหาความสุขที่หอหมื่นบุพผา และเขาเป็นสตรีที่ถูกเลือกมา

ยิ่งด้วยนางกำลังมอง...

นี่นางมองตรงไหน?!

หมิงโหลวอดไม่ได้ที่จะพูดด้วยท่าทางโกรธเกรี้ยว “แม่นางโปรดระวังกริยา!”

หือ? ซูจื่ออวี๋มึนงงเล็กน้อย ไม่เข้าใจว่าเหตุใดหมิงโหลวจึงได้กล่าวแบบนี้ นางไม่ระวังกริยาอย่างไร

ซูจื่ออวี๋เยาะเย้ยและพูดว่า “ข้าเพิ่งเคยจะได้ยินครั้งแรกว่าคนขโมยดอกไม้บอกให้ดอกไม้ระวังตัว เจ้าไม่ควรให้ข้าลงมือแบบนี้มิใช่หรือ?”

หมิงโหลรู้สึกความร้ายกาจของตัวเองถูกสิ่งที่ซูจื่ออวี๋พูดทำให้หายไปจนหมดสิ้น สตรีนางนี้มันอะไรกัน? เข้าห้องขังไปแล้วกลายเป็น...กลายเป็นคนที่รับมือไม่ได้ไปแล้วหรือ?

เมื่อเห็นว่าหมิงโหลวพูดไม่ออก ซูจื่ออวี๋คิดว่ามันช่างน่าขัน นางเท้าศอกลงบนโต๊ะและวางคางไว้บนมือข้างเดียวและพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “เอาล่ะ ท่านเจ้าของหอ นั่งลงสิ ข้าไม่มีอันใดจะต้อนรับท่าน นอกจาก...”

ซูจื่ออวี๋ยิ้มปรือตาแสดงสีหน้าหยอกเย้ายั่วยวนเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอกแล้วกล่าวต่อว่า “นอกจาก...ตัวข้า”  

“แค่กแค่ก! แค่กแค่ก!” หมิงโหลวไม่สามารถอดกลั้นได้จนสำลักน้ำลายตนเองและไอออกมาไม่หยุด

ซูจื่ออวี๋มองไปยังหมิงโหลวด้วยท่าทางสบายๆโดยไม่คิดคำพูดของตัวเองจะเป็นปัญหาอะไรและไม่คิดว่าตัวนางเองกำลังตกอยู่ในอันตราย

หมิงโหลวรู้สึกว่าเขาถูกกลั่นแกล้งดังนั้นเขาจึงนำกริชมาแทงลงบนโต๊ะ ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “หอหว่างเซิงได้รับคำสั่งให้มาตามสังหาร มีคนต้องการชีวิตเจ้า”

ซูจื่ออวี๋พยักหน้าอย่างเฉยเมย

หมิงโหลวงุนงง “เจ้าไม่กลัวตาย?”

ซูจื่ออวี๋เลิกคิ้วมองหมิงโหลว สีหน้าของนางดูเหมือนจะบอกว่า “เจ้าโง่หรือไง บนโลกนี้จะมีคนไม่กลัวตายได้อย่างไร?”

หมิงโหลวเริ่มรู้สึกมีน้ำโหจึงหลุบตาลงไม่ต้องการที่จะสบตากับซูจื่ออวี๋อีก

ซูจื่ออวี๋หัวเราะ “แน่นอนว่าข้ากลัวตาย เพียงแค่ไม่กลัวเจ้า ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีมือสังหารจะพูดคุยก่อนจะลงมือ บอกมาเถอะ เจ้าต้องการอะไรจากข้า? ข้าไม่มีเงินที่จะซื้อชีวิตของตัวเองคืนหรอกนะ”

หมิงโหลวเม้มริมฝีปาก จู่ๆก็รู้สึกว่าสตรีนางนี้สงบเกินไป

สำหรับคุณหนูนางหนึ่ง อย่าว่าแต่คำว่านักฆ่าเลย แม้แต่เห็นผู้ชายคนหนึ่งในเวลากลางดึกต้องระมัดระวังจนทำอะไรไม่ถูก แต่ดูจากบทสนทนาของทั้งสองแล้ว เห็นได้ชัดว่านางเป็นฝ่ายเหนือกว่า

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พูดอ้อมค้อมไปก็คงไม่มีความหมาย ถ้าเช่นนั้นบอกนางไปอย่างไม่อ้อมค้อมและค่อยดูท่าทีของนางดีกว่า

หมิงโหลวพูดขึ้น “เจ้ารู้จักจู้หลิงหรือไม่?”

จู้หลิง?!

เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้ ซูจื่ออวี๋ก็ได้ยิ้มกริ่มขึ้นมา ในที่สุดก็มีระลอกคลื่นเล็กน้อยที่ตรวจไม่พบ ดูเหมือนว่าความรู้สึกก่อนหน้าของนางจะถูกต้อง มีใครบางคนจ้องมองนางตอนอยู่ในห้องขังและเขาคือหมิงโหลวคนที่อยู่ตรงหน้านาง

ซูจื่ออวี๋ตรึกตรองเกี่ยวกับคำพูดของเขาแล้วพูดว่า “เป็นนักโทษในคุกอยู่หนึ่งชั่วยาม เจ้าคิดว่ารู้จักหรือไม่รู้จัก? ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ