ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 446

สรุปบท ตอนที่ 446 ไม่ควรค่าให้ข้ามอง!: ยอดชายานักปรุงพิษ

ตอนที่ 446 ไม่ควรค่าให้ข้ามอง! – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดชายานักปรุงพิษ

ตอนนี้ของ ยอดชายานักปรุงพิษ โดย Phayut ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 446 ไม่ควรค่าให้ข้ามอง! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ซูจื่ออวี๋หัวเราะเย็นชา ใครเป็นคนบอกว่าหมอที่มีวิชาแพทย์เก่งกาจต้องมีจิตใจเมตตา?

ใครเป็นคนบอกว่าคนที่เรียนหมอต้องทำอาชีพรักษาผู้คนเท่านั้น?

นี่ไม่ใช่การอ้างศีลธรรมหรอกหรือ?

เขาอานเป่ยซานคิดว่าคนที่เรียนหมอทุกคนต้องเป็นซานเซิ่งหมู่ที่ต่อให้พบศัตรูของตัวเองก็ยังต้องช่วยเหลือ เจอคนที่เกลียดก็ยังต้องช่วยเหลือ?

ในเวลานี้อยู่ๆ ซูจื่ออวี๋ก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมโม่ซุนถึงได้มีนิสัยแปลกๆ เมื่อคิดว่าเขาเป็นถึงหมอเทวดาต้องมีคนไม่น้อยที่คอยขอความช่วยเหลือ ดังนั้นเขาถึงได้อดทนตั้งกฎของตัวเองมาสามข้อในการจะรักษาคน

ซูจื่ออวี๋หลุดขำออกมาแล้วกล่าวว่า “รัฐทายาทอานพูดได้น่าฟังเสียจริง และยังซาบซึ้งใจอีกด้วย แต่ว่าประโยคนี้เคยเอ่ยขึ้นมาในเทศกาลส้างซื่อวันนั้นแล้ว ข้าเองก็เคยได้ยินแล้ว คราวก่อน เหมือนได้ยินมาจากปากของพระชายาอานชินอ๋อง ท่าทางที่น่าประทับใจนั้น ข้ายังจำได้จนมาถึงวันนี้”

หรือกล่าวอีกอย่าง พวกเจ้าได้กลับคำไปแล้วครั้งหนึ่ง ยังมีหน้ามาพูดอีกครั้งหรือ?

อานเป่ยซานรู้สึกอึดอัดใจ และรู้ว่าแม่กับน้องสาวของตนได้ล่วงเกินซูจื่ออวี๋จริงๆ แต่เขาไม่อาจมองดูน้องสาวของตัวเองตายได้

อานเป่ยซานสั่นชายเสื้อคลุมด้านล่าง สูดหายใจเข้าและต้องการจะคุกเข่า

การที่เขาคุกเข่าครั้งนี้ หากซูจื่ออวี๋ต้องการจะปฏิเสธ เกรงว่าสถานการณ์คงจบลงไม่ได้ด้วยดี

เมื่อจวินมู่เหนียนเห็นเช่นนั้น ก็ตบโต๊ะตรงหน้า เสียงฟิ้วดังขึ้น ตะเกียบหนึ่งแท่งก็พุ่งออกไป กดจุดของอานเป่ยซานโดยตรง ทำให้เขานิ่งอยู่ในท่าแปลกๆ เหมือนนั่งยองๆ อยู่กับที่

จวินมู่เหนียนเอ่ยอย่างเย็นชา “พระชายาไม่เต็มใจ ข้าก็อยากจะดูนักว่าใครกล้าบังคับนาง?”

ทุกคนเงียบงันราวกับจักจั่นจำศีล ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยออกมา

จากนั้นจวินมู่เหนียนก็มองไปที่จวินมู่หลาน เอ่ยออกมาว่า “พี่รอง เรื่องที่นี่เป็นอันชัดเจนแล้ว ฆาตกรที่วางยาก็หาเจอแล้ว ที่เหลือจะตัดสินกันอย่างไร คงต้องรบกวนพี่รองพิจารณาเอาเอง พวกข้าขอตัวก่อน”

หลังจากจวินมู่เหนียนพูดจบแล้วก็จับมือซูจื่ออวี๋ แล้วมองไปที่จวินมู่เยว่พร้อมกับเอ่ยว่า “เจียอัน พวกเราไปกันเถอะ”

สายตาของทุกคนก็แยกออกเป็นสองฝั่ง ครึ่งหนึ่งมองไปที่ฮูหยินซูที่ลุกขึ้นพูดตำหนิ อีกครึ่งหนึ่งก็มองไปที่ซูจื่ออวี๋ที่มีสีหน้าประหลาดใจและรังเกียจ

จวินมู่ฉยงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกว่าเรื่องมีโอกาสพลิกผัน จึงรีบพูดว่า “ฮูหยินซู เจ้าคงไม่ได้ไปรู้อะไรมาใช่หรือไม่? หรือว่าเจ้ารู้ว่าแมลงคุณไสยมาจากไหนหรือ?”

ขณะที่จวินมู่ฉยงกำลังพูดเช่นนี้ สายตาก็ต้องไปที่ซูจื่ออวี๋อย่างดุร้าย แค่หวังว่าฮูหยินซูจะสามารถเอาความผิดไปลงที่ซูจื่ออวี๋ได้ ให้ไปลงที่จวนอ๋องฉินได้เลยยิ่งดี

ฮูหยินซูเอ่ยว่า “ทูลท่านอ๋องสี่ ข้าไม่รู้ว่าแมลงคุณไสยมาจากไหน”

ทุกคนต่างก็ประหลาดใจ แล้วที่นางว่าซูจื่ออวี๋เมื่อกี้นี้มันหมายความว่าอย่างไร?

ไม่รอให้จวินมู่ฉยงซักไซ้ ฮูหยินซูก็พูดต่อ “ข้าไม่รู้ว่าแมลงคุณไสยมาจากไหน แต่ข้ารู้ว่าน้ำหวานดอกชิงยวนมาจากไหน”

จวินมู่เหยียนรีบถามต่อ “เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้ารู้ว่าน้ำหวานดอกชิงยวนมาจากไหนงั้นหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ