ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 50

จวินมู่เหนียนส่ายหัวเบาๆ เขาไม่ได้คิดเช่นนั้น หนึ่งคือซูจื่ออวี๋ไม่มีเงินมาพอ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถซื้อได้

ครั้งที่สองซูจื่ออวี๋เพิ่งผ่านความตายมา นางที่รอดชีวิตจากความตายควรพยายามปกป้องตัวเองในตอนนี้ จะมีอารมณ์มาเดินเล่นซื้อของได้อย่างไร?

แม่แท้ๆ ของซูจื่ออวี๋ก็เพิ่งเสียชีวิต วันนี้นางสวมชุดไว้ทุกข์ ไม่ได้ใส่เครื่องประดับเลยสักนิด แม้แต่ผมของนางก็ถูกมัดด้วยผ้าไหมสีขาวเท่านั้น นางไม่มีความตั้งใจจะมาซื้อเครื่องประดับไปแต่งตัวเองเลย

นางมาที่หอสมบัติหลิงหลงต้องมีจุดประสงค์อื่นแน่

บางทีจุดประสงค์อาจเหมือนกับจวินมู่หลานองค์ชายรอง

จวินมู่เยว่ไม่สนใจว่าเหตุใดซูจื่ออวี๋ถึงไปที่หอสมบัติหลิงหลง เขาสนใจการกระทำของจวินมู่เหนียนในวันนี้มากกว่า

จวินมู่เยว่เอ่ยปากแซวว่า “พี่เจ็ด นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าส่งของให้สตรีนะ ไม่ ไม่ ไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้ากอดสตรี ทำไม สนใจคุณหนูสามคนนั้นหรือ?”

สนใจ?

จวินมู่เหนียนพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ไม่ใช่ว่าข้าสนใจนาง แต่นาง... น่าสนใจนิดหน่อย”

...

หลังจากออกมาจากหอสมบัติหลิงหลงแล้ว ซูจื่ออวี๋ก็ไม่มีอารมณ์จะเดินต่อ นางมาที่ร้านเครื่องกระดาษกงเต็กแห่งหนึ่ง และใช้เงินหนึ่งร้อยตำลึงซื้อกระดาษจากเถ้าแก่

พอได้รับเงินมากขนาดนี้ เจ้าของร้านกระดาษก็ถึงกับตะลึงงัน นี่ต้องการซื้อเทียนหยวนเป่าเท่าไหร่?

ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “ข้าขอของสองสิ่งนี้ ดอกไหมชมพูกระดาษหนึ่งแผ่น เมล็ดดอกไหมชมพูที่สามารถปลูกได้จริง พรุ่งนี้ส่งไปที่สุสานตระกูลซูแต่เช้า”

เจ้าของร้านมัดกระดาษแล้วเอ่ยว่า “คุณหนูซู เรื่องต้นไหมชมพูกระดาษจัดการไม่ยาก แต่เมล็ดต้นไหมชมพู ไม่ใช่ว่าหาซื้อไม่ได้ แต่พวกเราอยู่ทางเหนือ เกรงว่าจะปลูกไม่ได้”

ซูจื่ออวี๋รู้ว่าเจ้าของร้านมีเจตนาดี จึงพยักหน้าเบาๆ “ไม่เป็นไร เป็นแค่ความปรารถนาสุดท้ายของท่านแม่ก่อนตาย ได้ปลูกก็ถือว่าดีแล้ว ส่วนจะโตหรือไม่ ก็คิดเสียว่าต้นไม้ต้นนี้ไปอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่”

เจ้าของร้านกระดาษพยักหน้า แล้วรับเงินไปทำธุระให้

จนกระทั่งตอนนี้ ซื่อจี้ก็เข้าใจแล้ว ที่แท้ซูจื่ออวี๋ไม่ได้จะเอาเงินนั่นไปซื้อเครื่องประดับอะไร แต่เพื่อมาซื้อต้นไม้ปลอมต้นไม้จริงเท่านั้น

ยิ่งไม่ใช่ยาแก้พิษ

ซื่อจี้โกรธมาก ตัดสินใจว่ากลับจวนไปจะฟ้องต่อฮูหยิน

....

จวนเสนาบดี

เมื่อจวินมู่เยว่เข้าใจผิดว่าจวินมู่เหนียนสนใจซูจื่ออวี๋ ฮูหยินเสนาบดีได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจคิดว่าซูจื่ออวี๋เป็นที่หมายปองของจวินมู่เหนียน

ฮูหยินซูกัดฟันกรอกพูดด้วยความโกรธ “ช่างสมกับเป็นนังเด็กแพศยาจริงๆ แม่มันก็เป็นนางแพศยา ลูกก็ชั่วช้ายิ่งกว่า ออกจากบ้านก็ถึงกับล่อลวงท่านอ๋องได้หนึ่งคน สารเลว สงสารแต่เยียนเอ๋อร์ของข้ายังได้รับกรรม แต่นางกลับไปกอดอ๋องฉินอยู่ข้างนอก ไม่ได้ ข้าไม่ยอมให้นางทำสำเร็จแน่นอน”

“ฮูหยิน ฮูหยินต้องใจเย็นๆ ชีวิตของคุณหนูรองยังอยู่ในกำมือของนาง” แม่นมหลิวรีบดึงแขนฮูหยินซู ขัดขวางนางไม่ให้ไปหาเรื่องซูจื่ออวี๋

พอฮูหยินซูได้ยินก็โกรธมาก ทุบหน้าอกกระทืบเท้า พูดจาไม่ปะติดปะต่อ

“เจ้าว่า...เจ้าว่าข้า... ทำไมข้าถึงสั่งสอนนังเด็กแพศยานั่นไม่ได้?”

แม่นมหลิวรีบปลอบใจว่า “ฮูหยิน ท่านจะสั่งสอนนางอย่างไร? นกกระจอกต่อให้ร้ายกาจเพียงใด แต่จะต่อสู้นกอินทรีได้อย่างไร? พวกเราต้องวางแผนระยะยาว...”

……

หลังจากซูจื่ออวี๋กลับมาถึงจวน นางก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง นางนั่งอยู่ดูปิ่นหยกขาวบนมืออย่างละเอียด ไม่สามารถเข้าใจเจตนาของจวินมู่เหนียนได้

จะบอกว่าจวินมู่เนียนชอบนางหรือ? ฮ่า แม้ว่านางจะเป็นคนดีมีน้ำใจก็เถอะ ไม่ถึงขั้นไม่รู้จักประมาณตนเอง

เมื่อนึกถึงจู้หลิงที่เคยเห็นในห้องขัง กับหมิงโหลวที่มาในห้องนอนยามวิกาล ซูจื่ออวี๋ก็กล่าวในใจ จวินมู่เหนียนคนนี้ไม่ได้ชอบนาง แต่จับตามองนาง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ