ซูจื่ออวี๋เอ่ยถามต่อ
“เจ้าเห็นหน้าของคนผู้นั้นหรือไม่? เป็นเคอจิงหัวหรือลู่หมิง?”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ หันหรูเฟิงถอนหายใจ
“เฮ้อ! คนนั้นโจมตีไม่สำเร็จ จึงพุ่งตัวเข้าหาข้า ภายใต้ความโกลาหล ข้าจึงดึงมีดสั้นออกมา ขณะนั้นเอง ข้าเห็นไฟในห้องถูกจุดขึ้นจนสว่างทันที แล้วข้า...ข้า...”
ซูจื่ออวี๋เห็นหันหรูเฟิงอึกอัก จึงเอ่ยถามอย่างคาดเดา
“หลังจากไฟในห้องสว่างขึ้น เจ้าก็เห็นด้วยตาตัวเองว่ามีดสั้นของตัวเอง ปาดลำคอของเคอจิงหัวใช่หรือไม่?”
หันหรูเฟิงมองซูจื่ออวี๋ด้วยความตะลึง แล้วพยักหน้า
“ถูกต้อง! ข้า...ที่ข้าไม่ได้แก้ต่างให้ตัวเองที่สำนักจิงจ้าว เพราะข้าเห็นกับตาตัวเองว่าข้าฆ่าคน ศิษย์พี่รอง อาซ้อน้อย ขอโทษด้วย ข้าผิดเอง เพราะข้าวู่วามมากเกินไป ไม่มีความอดกลั้น ข้าฆ่าเคอจิงหัวตาย ต้องนำความเดือดร้อนมาให้จวนอ๋องฉินแน่ๆ”
จวินมู่เหนียนสีหน้าเย็นชา คล้ายไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้จะยุ่งยากมากเท่าใด เขาเพียงเอ่ยเสียงเรียบ
“นี่คือเรื่องราวทั้งหมดหรือ?”
หันหรูเฟิงทำหน้าเศร้าพร้อมพยักหน้า
จวินมู่เยว่สงสัย
“แล้วลู่หมิงตายได้อย่างไร? เจ้าว่าเจ้าเห็นด้วยตาตัวเองว่าเป็นคนฆ่าเคอจิงหัว แล้วลู่หมิงเล่า?”
หันหรูเฟิงส่ายหน้า ขมวดคิ้วบอกว่า
“ข้าไม่รู้ พอไฟในห้องสว่างขึ้น ลู่หมิงก็นอนจมกองเลือดไปแล้ว ข้าไม่ได้ฆ่าลู่หมิง ข้าลงมือแค่ครั้งเดียว ครั้งเดียวก็ปาดคอเคอจิงหัวแล้ว!”
ซูจื่ออวี๋ถามต่อ
“หลังจากไฟสว่างขึ้น จนกระทั่งนักเรียนที่มาส่งอาหารมื้อดึกปรากฏตัว เวลาผ่านไปนานเท่าใด?”
หันหรูเฟิงเอ่ยปาก
“แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ข้าแทบจะไม่มีเวลาทำสิ่งใดเลย เฮ้อ พอพูดขึ้นมาข้าน่าจะดวงซวยเอง มันบังเอิญเกินไป ไม่อย่างนั้นข้ายังพอมีเวลาหนี เรื่องก็คงไม่ต้องเกี่ยวโยงไปถึงจวนอ๋องฉิน”
จวินมู่เหนียนขมวดคิ้ว
“คิดเหลวไหลอะไรกัน จำไว้เป็นบทเรียนให้ดี” ทุกคนเข้าใจความหมายของจวินมู่เหนียนดี จวนอ๋องฉินของเขาไม่เคยกลัวที่จะต้องเกี่ยวพันกับเรื่องใด
จวินมู่เหนียนหันมองซูจื่ออวี๋ พร้อมเอ่ยปาก
“มีสิ่งใดอยากถามอีกหรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋
“ข้าน้อยจะปกป้องคุณชายให้ดีที่สุด”
……
ทุกคนกลับไปที่สำนักจิงจ้าวอีกครั้ง เดิมทีคิดว่ามีจวินมู่เหนียนอยู่ด้วย การเข้าไปดูศพจะง่ายเหมือนเข้าไปพบหันหรูเฟิง
แต่ครั้งนี้กลับมีคนรั้งเอาไว้
ท่านอ๋องรองจวินมู่หลานพร้อมด้วยท่านอ๋องสี่จวินมู่ฉง ยังมีเหลียงเช่อผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายอีกคน ทั้งสามอยู่ที่ศาลาว่าการ กำลังสอบถามเรื่องคดีความกับจ้าวจ่างซิ่งอยู่
จวินมู่หลานเห็นจวินมู่เหนียนพาซูจื่ออวี๋มาด้วย เรียกได้ว่ารู้สึกอิจฉาตาร้อนเป็นพิเศษ
จวินมู่หลานแค่นหัวเราะ
“เจ้าเจ็ด ทำไมจึงมาสายเช่นนี้? ได้ยินว่าศิษย์น้องสุดที่รักของเจ้าฆ่าคนตาย ทำให้สำนักฝูอี่ไม่พอใจ แต่เจ้าเพิ่งจะมาตอนนี้ หรือว่ายังลุ่มหลงเรื่องในเรือนจนโงหัวไม่ขึ้นหรือ?”
คำพูดของจวินมู่หลาน แทบจะพูดออกมาตรงๆว่าจวินมู่เหนียนทำเรื่องบัดสีตอนกลางวัน
จวินมู่เหนียนพูดเสียงเย็น
“ใต้เท้าจ้าว ท่านรู้กฏระเบียบหรือไม่ คดียังไม่ตัดสิน เหตุใดจึงนำรายละเอียดมาบอกกล่าวแก่ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง? หรือท่านอยากผู้ตรวจการฝ่ายซ้ายที่อยู่ข้างท่าน กราบทูลว่าบกพร่องต่อหน้าที่หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...