ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 690

จวินมู่ฉยงพยักหน้าแบบขอไปทีไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้ ตอนนี้เขาแค่อยากจะวางแผนรวบอันเป่ยเยว่ ไม่ต้องการหญิงคนอื่น

แต่คืนนี้จะทำอย่างไรก็ต้องคิดให้รอบคอบ จะทำอย่างไรให้ตัวเองได้กำไรมากที่สุด ยังต้องคิดให้รอบคอบ

......

นี่เรียกว่าตั๊กแตนตำข้าวกำลังจะจับจักจั่นกินเป็นอาหาร แต่หารู้ไม่ว่าข้างหลังยังมีนกขมิ้นคอยจับตามองอยู่ อันเป่ยเยว่กำลังคิดวางแผนซูจื่ออวี๋แต่นางไม่รู้ว่าจวินมู่ฉยงเองก็กำลังวางแผนรวบนางอยู่

อย่างไรก็ตาม จวินมู่ฉยงคิดว่าตัวเองทำอะไรระมัดระวัง แต่กลับไม่รู้ว่าถูกฉู๋อวิ๋นหยางและสวี่เฉิงอันมองออกแล้ว

บนรถม้า เสวี่ยเฉิงอันก็พูดว่า “รัชทายาท ท่านอ๋องสี่กับท่านหญิงเป่ยเยว่มีนัดส่วนตัวกันคืนนี้ ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะไม่ปกติ”

ฉู่อวิ๋นหยางก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มเยาะ “ช่างน่าสนใจจริงๆ ท่านหญิงคนหนึ่ง กลับเกี่ยวโยงกับอ๋องถึงสามคน นางหน้าตาไม่เลว แต่แย่กว่าพระชายาอ๋องฉินเล็กน้อย นางมีสิทธิ์อะไรคิดว่าตัวเองจะสามารถใช้ร่างกายของตัวเองผูกมัดบุรุษสามคนไว้ได้? หรือว่าคิดว่าตัวเองล้ำค่าขนาดนั้น?”

น้ำเสียงของฉู่อวิ๋นหยางก็เต็มไปด้วยคำเยาะเย้ย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีความทรงจำที่ดีกับอันเป่ยเยว่

เสวี่ยเฉิงอันกล่าวว่า “องค์รัชทายาท อย่าไปยุ่งกับเรื่องนี้จะดีที่สุด นี่เป็นการต่อสู้ภายในของพวกเขาตงโจว หากสามารถเปิดเผยความลับทั้งหมดได้ มันก็จะเป็นผลดีต่อเป๋ยฉู่”

ฉู่อวิ๋นหยางพยักหน้า จากนั้นก็ถอนหายใจ “ตอนนี้ข้าไม่สนใจเรื่องของคนอื่นแล้ว ข้าแค่อยากพบองค์หญิงสิบเอ็ดโดยเร็ว ใครจะรู้ว่าจวินมู่หลานกับจวินมู่ฉยงสองพี่น้องนั่นจะเป็นหัวขโมยขนาดนี้ ถึงขั้นไม่ให้องค์หญิงสิบเอ็ดร่วมขบวนเดินทางมาด้วย ช่างยุ่งยากจริงๆ เจ้ารีบคิดหาวิธีให้ข้าหน่อย จะทำอย่างไรถึงจะได้เจอองค์หญิงสิบเอ็ดเร็วๆ”

เสวี่ยเฉิงอันเม้มปากแล้วก้มศีรษะลงด้วยท่าทางลำบากใจไม่ได้ตอบกลับไป

ฉู่อวิ๋นหยางหัวเราะเยาะเมื่อเห็นเช่นนี้ หยิบพัดในมือออกมาแล้วยกคางของ เสวี่ยเฉิงอันขึ้น บังคับให้เขาสบตากับตน

เสวี่ยเฉิงอันหยิบถุงถั่วลิสงใบเล็กออกมาแล้วมอบให้ฉู่อวิ๋นหยาง

ฉู่อวิ๋นหยางสะดุ้งตกใจแล้วพูดว่า “ข้าไม่กินถั่วลิสง เจ้าลืมแล้วหรือ?”

เสวี่ยเฉิงอันก็พูดว่า “รัชทายาททรงแพ้ถั่วลิสง ข้าย่อมไม่ลืมแน่นอน แต่การกินถั่วลิสงในเวลานี้ จะทำให้การเดินทางล่าช้าไปอีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้ไปถึงเมืองลั่วเสีย องค์รัชทายาทกินถั่วลิสงแล้วพวกเราก็จะอยู่ที่เมืองลั่วเสียต่อ เวลาก็ล่าช้าไปอีกหนึ่งวัน องค์หญิงสิบเอ็ดเป็นผู้สูงศักดิ์ก็ต้องหาศาลาพักม้าค้างแรม ไม่มีทางพักข้างถนนหลวงเด็ดขาด ดังนั้นข้าจึงเดาได้ว่า นางต้องไปที่เมืองลั่วเสีย พวกเราก็รอนางอยู่ที่เมืองลั่วเสีย”

แววตาของฉู่อวิ๋นหยางเป็นประกาย ก่อนจะพูดว่า “ช่างเป็นวิธีที่ดีจริงๆ”

ทันทีที่ฉู่อวิ๋นหยางพูดจบ เสียงของหนานหยวนหรัวก็ดังขึ้นข้างนอก หนานหยวนหรัวเอ่ยว่า “รัชทายาทอวิ๋นหยาง ข้าขอคุยด้วยตามลำพังสักครู่ได้หรือไม่?”

ฉู่อวิ๋นหยางขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกรำคาญเล็กน้อย มีคนคอยมองดูอยู่มากขนาดนี้ หนานหยวนหรัวก็ยังมาหาเขา ไม่กลัวว่าจะตกเป็นขี้ปากชาวบ้านหรืออย่างไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ