เมื่อเห็นจวินมู่ฉยงจ้องซูจื่ออวี๋อย่างดุร้าย จวินมู่เหนียนก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “พี่สี่ เล่นกับไฟระวังจะเผาตัวเอง เล่นกับน้ำก็ระวังจมน้ำตาย ทำสิ่งที่ไม่ยุติธรรมมากมาย จะโทษผู้อื่นไม่ได้”
จวินมู่ฉยงเอ่ยด้วยเสียงเดือดดาล “จวินมู่เหนียน อย่าคิดว่าเสด็จพ่อมอบบรรดาศักดิ์ให้เจ้าแล้ว เจ้าจะเหนือกว่าผู้อื่น ทุกคนล้วนมีบรรดาศักดิ์อ๋อง เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าหรือไม่ เรื่องนี้หากสืบแล้วเกี่ยวข้องกันพวกเจ้า ข้าจวินมู่ฉยงขอสาบานต่อสวรรค์ ความเจ็บปวดที่เยว่เอ๋อร์ต้องเผชิญในวันนี้ ข้าจะคืนให้พวกเจ้าสามีภรรยาเป็นสองเท่า”
อะไรนะ? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจวนอ๋องฉินหรือ?
ทุกคนต่างก็มองไปที่จวินมู่เหนียนและซูจื่ออวี๋ด้วยความประหลาดใจ แต่เมื่อเทียบการเสียการควบคุมของจวินมู่ฉยงแล้ว จวินมู่เหนียนและซูจื่ออวี๋ก็นิ่งสงบมาก ทำให้คนมองไม่ออกว่าทั้งคู่คิดสิ่งใด
ขณะที่อันเป่ยซานเพิ่งตื่น ก็ได้ยินสิ่งที่จวินมู่ฉยงพูดขึ้นมา เขาก็เดินไปหาซูจื่ออวี๋อย่างกระตือรือร้นเพื่อจะหาความจริง
อันเป่ยซานก็กล่าวว่า “พระชายาอ๋องฉิน เยว่เอ๋อร์นาง... เรื่องนี้...” อันเป่ยซานก็พบว่าตนไม่สามารถถามออกมาได้ เพราะจากก้นบึ้งของหัวใจ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าซูจื่ออวี๋จะทำเช่นนั้นได้ แต่ถ้าซูจื่ออวี๋ไม่ได้ทำ แล้วจวินมู่ฉยงจะพูดเช่นนั้นขึ้นมาได้อย่างไร?
ข่าวลือไม่มีมูล ไม่จำเป็นต้องไม่มีเหตุผลไม่ใช่หรือ?
ซูจื่ออวี๋มองไปที่อันเป่ยซานผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยน และไม่มีความสามารถในการตัดสินใจ ก่อนจะเอ่ยเยาะเย้ย “ไม่ว่าจะข้าหรือท่านหญิงเป่ยเยว่ ยังไม่ถึงขั้นที่ต้องเอาให้ถึงตาย ต่อให้ถึง ข้าซูจื่ออวี๋ลงมือก็คงไม่ถึงขั้นต้องพยายามมากมายขนาดนี้ เพียงยาพิษเล็กน้อยก็สามารถแก้ปัญหาได้แล้ว ไยต้องทำให้มันวุ่นวายขนาดนี้ด้วย?”
ทุกคนหายใจเข้าลึกๆ ในใจก็แอบคิดว่าที่ซูจื่ออวี๋พูดเช่นนี้ก็ไม่ผิด
ทุกคนกินอยู่ด้วยกันมาหลายวัน ถ้าพวกเขาต้องการสังหารใครสักคน เหตุใดต้องทำเสียงดังวุ่นวายเช่นนี้?
อีกอย่างจวินมู่เหนียนก็ยังเด็ดขาดเมื่ออยู่ในสนามรบ หากต้องการฆ่าใครสักคนจริงๆ ก็คงเป็นหัวของอันชินอ๋อง จวินมู่เหนียนจะไม่ลังเลเลย เหตุใดเขาต้องทุ่มเทอะไรมากมายเพื่ออันเป่ยเยว่ด้วย
ทุกคนไม่รู้สึกสงสัยอะไรแล้ว มีแค่จวินมู่ฉยงเชื่อว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวกับข้องกับจวนอ๋องฉินอย่างแน่นอน
ทุกคนต่างก็มองหน้ากัน ในใจเริ่มกระวนกระวายมากขึ้นเรื่อยๆ
ซูจื่อเยียนก็พูดด้วยความขลาดกลัว “โจรปล้นสวาทร้ายกาจเช่นนี้ ใครจะหลบได้ ท่านอ๋อง พวกเราเร่งเดินทางเถอะ”
จวินมู่หลานเองก็รู้สึกว่าออกเดินทางให้เร็วที่สุดจะดีกว่า แต่เมื่อเขาคิดว่าองค์หญิงสิบเอ็ดยังตามมาอยู่ จวินมู่หลานก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ได้ เมืองลั่วเสียยังไม่สงบ ข้าต้องรอรถม้าของน้องสิบเอ็ดมาถึงแล้วออกเดินทางไปด้วยกัน”
ฉู่อวิ๋นหยางเลิกคิ้วหลังจากได้ยินเช่นนั้น ในใจก็อดไม่ได้ ดูเหมือนว่าเค้กถั่วที่เขาเตรียมไว้นั้นจะไม่จำเป็นอีกต่อไป
ในขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน หันถิงก็กลับมา
หันถิงไม่ได้กลับมามือเปล่า แต่ยังนำปี้เอ๋อร์ที่หมดสติกลับมาด้วย น่าเสียดายที่ปี้เอ๋อร์ถูกสัตว์ร้ายหลายตัวเหยียดหยาม แม้ว่าตอนนี้นางจะยังไม่ตาย แต่ก็เหลือชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...