ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 733

หันชูกำลังเคี้ยวน่องไก่ในขณะที่กำลังตีจวินมู่เยว่ เมื่อเขาได้ยินซูจื่ออวี๋ตะโกนขึ้นมา หันชูจึงพูดว่า “ข้าจะพูดดี ๆ เจ้าก็ฟังดี ๆ”

เมื่อเห็นแบบนี้ จวินมู่เหนียนจึงจับมือของซูจื่ออวี๋และพูดว่า “ไม่เป็นไร เขาไม่ได้ใช้กำลังภายใน เพียงแค่ใช้กระบวนท่า”

หลังจากที่จวินมู่เหนียนพูดจบ ทุกคนต่างมารวมตัวกันเพื่อดูการต่อสู้ของหันชูและจวินมู่เยว่

พวกเขาได้ยินเพียงหันชูพูดว่า “บันไดเมฆาไต่เขาเชียนซาน เป็นควบคุมการโบยบินของลมปราณ พันปีหนึ่งความคิด รวบรวมมาจากสำนักนับหมื่น รู้วิชาเหมือนได้รับฟ้าดิน สามารถตามเมฆล่าสายฟัาได้ จิตเดินทางได้นับพันลี้ เด็กน้อย ข้าจะทำแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เจ้าต้องมองกระบวนท่าของข้าให้ชัดเจน”

ในภาพต่อมาไม่ต้องพูดถึงก้าวย่างของหันชู แม้แต่เงาของหันชูก็ยังมองไม่ทันเสียด้วยซ้ำ

พวกเขาได้ยินเพียงเสียงร้องของจวินมู่เยว่เท่านั้น

“โอ๊ย ไอ้สารเลว เจ้าจะตีก้นข้าทำไม?”

“โอ๊ย! ตีคนไม่ตบหน้า!”

“ฮือฮือ! ผู้อาวุโสข้าผิดไปแล้ว ท่านอย่าดึงหูสิ!”

……

เมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของจวินมู่เยว่ ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เดิมทีทุกคนอยากจะมาแอบเรียนรู้ทักษะเฉพาะตัวของผู้อาวุโสหันชู

แต่เมื่อมองดูอย่างถี่ถ้วน ไม่ต้องพูดถึงการแอบเรียนรู้ แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็ยังมองไม่เห็น ความเร็วของหันชูนั้นมันเร็วเกินไป

หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา หันชูก็หยุดเคลื่อนไหวและกลับไปนั่งที่เดิม น่องไก่ในมือของเขาถูกแทะจนสะอาด เขาโยนมันทิ้งไปและหยิบจอกสุราขึ้นมาดื่มอีกหลายอึกก่อนจะยิ้มและพูดว่า “สุราดี!”

จวินมู่เยว่ขมวดคิ้วขณะที่เขาลูบบั้นท้ายที่เจ็บแล้วพูดว่า “เจ้าดื่มสุราดี แต่ข้าเจ็บมาก นี่มันเป็นการรังแกคนไม่ใช่หรืออย่างไร?”

หันชูเลิกคิ้วและพูดด้วยรอยยิ้ม “เมื่อกี้ข้าสอนวรยุทธให้เจ้าจึงหาคู่ซ้อม สละตัวเพื่อพี่สะใภ้ของเจ้าสักหน่อยจะเป็นกระไรไป?”

จวินมู่เยว่ถามอย่าไม่ยำเกรง “วรยุทธ? วิ่งไปวิ่งมาเรียกว่ายุทธ? ถ้าอย่างนั้นบอกข้าหน่อยว่า วรยุทธของท่านมาจากสำนักใด? เรียกว่าวิชาอันใด?”

จวินมู่เยว่ตกตะลึงค้างอยู่กับที่ทันที เหตุใดตัวเขาถึงไม่รู้สึก?

ในเวลานี้เสวี่ยเฉิงอันเดินแหวกออกมาจากฝูงชนและพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาบน “บันไดเมฆาไต่เขาเชียนซาน เป็นวิชาตัวเบาชั้นยอด มันสาปสูญไปนานแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสหันชูจะรู้วิชานี้”

จวินมู่หลานถามด้วยความสงสัย “วรยุทธนี้ร้ายกาจมากเลยหรือ?”

เสวี่ยเฉิงอันพยักหน้าซ้ำ ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ตามเมฆล่าสายฟ้า จิตเดินทางหลายพันลี้ เพียงแต่ไม่ง่ายที่จะเรียนรู้ มันไม่สามารถเรียนรู้ด้วยความคิดหรือคัมภีร์ลับ ต้องได้รับคำชี้แนะจากผู้ที่ฝึกได้สำเร็จ”

เมื่อพูดเรื่องนี้ จู่ ๆ เสวี่ยเฉิงอันก็เดินไปหาหันชู เขาคุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังและพูดว่า “ผู้อาวุโส ข้าไร้ความสามารถ ข้าเป็นนายน้อยของสำนักราชายาแห่งเกาะเชียนซาน อยากขอผู้อาวุโสเห็นแก่เป็นคนเกาะเชียนซานเช่นกันโปรดสอนข้าน้อยสักเล็กได้หรือไม่”

เมื่อครู่หันชูชี้แนะจวินมู่เยว่ใช้เวลาไปเพียงหนึ่งถ้วยชา ทำให้ลมปราณของจวินมู่เยว่พัฒนาขึ้นไปอย่างก้าวกระโดด หากหันชูเต็มใจที่จะสอนเขา เขาต้องเรียนรู้มากกว่าจวินมู่เยว่อย่างแน่นอน

หันชูหรี่ตาลงและมองเสวี่ยเฉิงอัน เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า “หนุ่มน้อย หนึ่งความดีอาจไม่นำพาไปสู่นิพพาน แต่การกระทำชั่วเพียงหนึ่งประการนำไปสู่จิตที่มืดบอดอย่างแน่นอน เจ้าทำตัวเองให้ดี”

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ