เมื่อซูจื่ออวี๋เดินออกจากกระโจมทหาร นางเห็นว่าจวินมู่เหนียนยังคงนั่งอยู่ที่ประตู แม้ว่าจะเข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ในเวลานี้เป็นเวลาเที่ยงวันและอุณหภูมิยังคงสูงมาก
แสงแดดอันแรงกล้าสาดไปที่ร่างของจวินมู่เหนียนจนเป็นประกายสีทองอร่ามไว้ รูปลักษณ์อันสูงส่งของเขาทำให้ ซูจื่ออวี๋รู้สึกเหมือนไม่สามารถเข้าถึงได้
เมื่อจวินมู่เหนียนเห็นว่าซูจื่ออวี๋เดินออกมาและชะงักจ้องมองเขา เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี เขายื่นมือไปกวักเรียกซูจื่ออวี๋ “มานี่สิ”
ซูจื่ออวี๋เม้มริมฝีปาก แต่ท้ายที่สุดนางไม่ทำให้จวินมู่เหนียนเสียหน้าต่อหน้าคนใต้บังคับบัญชา นางเดินไปหาอย่างเชื่อฟังและวางมือไว้บนฝ่ามือของเขา
เมื่อมือเล็ก ๆ ที่เข้ามาในมือของเขาเย็นเฉียบ จวินมู่เหนียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว หรือว่าหัวใจของซูจื่ออวี๋เริ่มเย็นลงหลังจากฟังเรื่องของฉินฝานรั่ว
จวินมู่เหนียนไม่ได้รีบร้อน และดึงซูจื่ออวี๋ไปทางกระโจมของตัวเอง
ระหว่างทางจวินมู่เหนียนกล่าวว่า “พี่ชายรองเสนอให้ออกเดินทางกลับเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ เทศกาลไหว้พระจันทร์กำลังจะมาถึง พวกเราต้องกลับไปเตรียมการ”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้า นางไม่คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเช่นนี้เกิดขึ้นระหว่างการล่าสัตว์ คงจะแปลกถ้ายังทำการล่าสัตว์ต่อ กลับไปก็ดี อย่างไรก็ตาม คำถามทั้งหมดที่ควรถามก็ถูกถามอย่างชัดเจนไปแล้ว
หลังจากกลับมาที่กระโจม จวินมู่เหนียนได้ถามว่า “สิ่งที่เจ้าอยากถามได้คำตอบทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “ได้คำตอบแล้ว”
จวินมู่เหนียนมองซูจื่ออวี๋ หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงถามว่า “คำตอบสอดคล้องกับสิ่งที่เจ้าคาดการณ์ถูกหรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋ขมวดคิ้วและมองจวินมู่เหนียน ก่อนจะถามว่า “ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไร ท่านทราบได้อย่างไรว่าข้าคาดการณ์อะไรไว้?”
ซูจื่ออวี๋มีโทสะเล็กน้อย นางกำหมัดแน่นแล้วถามว่า “เพราะคดีนี้ถึงได้มีคนตายมากมาย หากมีคนไม่จงใจปกปิดความจริง เหตุใดข้าถึงพบอุปสรรคในการสืบสวนของข้า? หากไม่ใช่เพราะความจริงนั้นมันบอกไม่ได้ และเหตุใดถึงมีคนถูกฆ่าปิดปากอย่างไร้ปราณี? คนท่านอ๋อง ท่านเชื่อใจเสด็จพ่อของท่านมากเกินไปหรือไม่? หรือทั้งชีวิตของเขาไม่เคยทำผิดพลาดจนไปฆ่าคนดีเข้า?”
จวินมู่เหนียนตบโต๊ะแล้วพูดด้วยความโกรธ “ซูจื่ออวี๋ระวังคำพูดของเจ้า!” แน่นอนว่าจวินมู่เหนียน ไม่โกรธซูจื่ออวี๋ว่าร้ายฮ่องเต้เจาเหวิน เขากลัวว่าคนอื่นที่มีเจตนาไม่ดีได้ยินเข้าจะนำปัญหามาให้ซูจื่ออวี๋
แต่ซูจื่ออวี๋ที่กำลังโกรธมากจึงไม่ได้คิดมากขนาดนั้น ซูจื่ออวี๋ยิ้มเยาะและพูดว่า “ฉินอ๋องกำลังสอนข้าว่า ระหว่างท่านและข้าควรจะระวังคำพูด”
ทันทีที่นางพูดจบ ซูจื่ออวี๋ก็หันหลังและเดินออกจากกระโจมไป การเคลื่อนไหวของนางเร็วมากจนทำให้ในตอนที่จวินมู่เหนียนพยายามหยุดนาง เขาก็มองไม่เห็นร่างของนางแล้ว
จวินมู่เหนียนโกรธมากจนปวดหัว เขายกมือขึ้นมาบีบขมับ และใช้เวลานานมากกว่าจะหายใจอย่างปกติ ในขณะที่เขากำลังจะให้เทียนชิงไปตามซูจื่ออวี๋กลับมา เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและเห็นว่ามีคนยืนอยู่ตรงหน้าเขา คนผู้นี้เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...