ท่านหญิงอานเป่ยเยว่ของจวนอานชินอ๋อง หลังจากเหตุการณ์ในเมืองลั่วเสีย ก็กลายเป็นคนเงียบขรึมทำอะไรรอบคอบมีมารยาท
วันนี้ไม่รู้ทำไมถึงได้เป็น
อานเป่ยเยว่ชี้ไปที่ฉากปักรูปพระจันทร์และเทพเหอเหอ ก่อนเอ่ยถามว่า “ท่านอ๋องฉินไม่ทราบว่าเทพเหอเหอนี่หมายถึงฝ่าบาทหรือฮองเฮา หรือว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ของท่านอ๋องฉินกันเพคะ?”
เมื่อทุกคนได้ยินคำถามนี้ พวกเขาก็หยุดชะงักถ้วยชาที่กำลังดื่มทันที
คำถามของอานเป่ยเยว่มันเป็นกับดักชัดๆ
หากคำตอบคือฮองเฮาและฮ่องเต้ ถือว่าไม่กตัญญูต่อมารดาผู้ให้กำเนิด
หากคำตอบคือฝ่าบาทและจวงเสียนเฟย ก็ถือว่าเป็นการไม่เคารพต่อฮองเฮา
ไม่ว่าจะตอบอย่างไรก็ผิดไปหมด
ทุกคนมองไปที่จวินมู่เหนียนทันทีเหมือนสีหน้าที่กำลังดูเรื่องสนุกอยู่
ฮองเฮาขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่อยากให้จวินมู่เหนียนลำบากใจ แม้ว่าแม่ใหญ่จะเลี้ยงจนโต แต่แม่ที่ให้กำเนิดก็เป็นญาติ หากจวินมู่เหนียนเลือกจวงเสียนเฟย นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
ฮองเฮายังไม่ทันเอ่ยก็ได้ยินซูจื่ออวี๋เอ่ยว่า “เทพเหอเหอมีความหมายสามประการ เรียกอีกชื่อว่าว่านหุย เพราะว่าพี่ชายต้องออกรบ พ่อแม่ก็ร้องไห้เพราะความเป็นห่วง มีการเดินทางไปเยี่ยมที่สนามรบ สนามรบที่ห่างออกไปหลายพันลี้ ออกเช้ากลับเย็น จึงเป็นที่มาของชื่อว่านหุย เป็นสัญลักษณ์ของความกลมเกลียวของครอบครัวและความสามัคคีของพี่น้อง ท่านอ๋องไปชายแดนเพื่อปกป้องแคว้น แทบไม่มีโอกาสเข้าร่วมงานเลี้ยงรวมญาติของเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้เลย ปีนี้โชคดีได้เข้าร่วม ใช้ของแทนความรู้สึก ขอพรให้ครอบครัวกลับมาพบกันอีกครั้ง ขอให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นการส่งเทพเหอเหอนี้ให้จึงหมายถึงขอให้ครอบครัวกลมเกลียวสามัคคีกัน”
หลังจากซูจื่ออวี๋เอ่ยจบแล้วก็มองไปที่อานเป่ยเยว่ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ว่าจะเป็นฮองเฮา หรือเสียนเฟย ล้วนเป็นครอบครัวของท่านอ๋อง เหตุใดต้องแบ่งแยกด้วยเล่า”
“พูดได้ดี” ฮ่องเต้เจาเหวินเอ่ยชื่นชมอย่างพอใจ ก็ทำให้แขกที่เข้าร่วมงานตบมือให้
อานเป่ยเยว่กลอกตามองซูจื่ออวี๋อย่างรุนแรง ราวกับอยากใช้สายตาขุดเนื้อออกมาจากตัวของนางให้ได้
โม่ซุนหมอเทวดาที่อยู่ข้างๆ ก็รู้สึกได้ทันทีว่าจวินมู่เยว่ไม่ปกติ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่าระหว่างจวินมู่เยว่และฉู่อวิ๋นหยางมีสิ่งใด แต่อย่างไรเขาก็เป็นคนของจวนอ๋อง ไม่อยากให้จวินมู่เยว่สร้างความเดือดร้อนจนลามไปถึงจวนอ๋องฉิน
โม่ซุนครุ่นคิดคู่หนึ่ง แล้วเอ่ยเสียงต่ำ “ท่านอ๋องแปด อีกเดี๋ยวข้าก็จะออกจากงานเลี้ยงแล้ว ถ้ามีคนถาม รบกวนท่านอ๋องแปดช่วยปิดบังให้ข้าทีนะ”
จวินมู่เยว่ถึงได้สติกลับมา ความโกรธในตอนนี้ก็ค่อยๆ เย็นลง อยู่ๆ เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ยังต้องตรวจสอบเรื่องพิษของฮ่องเต้เจาเหวิน
จวินมู่เยว่เม้มปากแล้วพยักหน้า “หมอเทวดาโม่ไปเถอะ สบายใจได้”
โม่ซุนก็พยักหน้า ขณะที่กำลังจะมองไปที่ซูจื่ออวี๋ว่าจะสะดวกออกไปเมื่อไหร่นั้น ก็ได้ยินเสวี่ยเฉิงอันกล่าวว่า “ทูลฝ่าบาท ข้ามีของขวัญหนึ่งชิ้นอยากถวายฝ่าบาท เป็นของขวัญที่เพิ่งส่งมาจากสำนักโอสถ ข้าเอาเข้าวังมาไม่ทัน ในเวลานี้น่าจะมาถึงประตูวังแล้ว”
ฮ่องเต้เจาเหวินก็เอ่ยถามด้วยความสนใจ “อ่อ? ของจากสำนักโอสถงั้นหรือ ต้องเป็นของที่ไม่ธรรมดาแน่ๆ ข้าสนใจยิ่งนัก”
เมื่อได้ยินสิ่งที่ฮ่องเต้เจาเหวินพูด เฉินกงกงก็รีบพูดว่า “ตัวแทนเจ้าสำนักเย่าหวางมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...