ซื่อจี้เอ่ยด้วยความประหม่า “คือว่า...ถ้าฮูหยินแท้ง นาง...นางจะระบายความโกรธใส่ข้าแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าที่โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง เกรงว่าคงยากจะรอดพ้นแน่นอน”
ซูจื่ออวี๋หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “วางใจเถอะนะ นางไม่มีทางแท้งหรอก แค่จะทำให้นางหลับไม่สบายก็เท่านั้น หากว่าหญิงตั้งครรภ์นอนหลับไม่สนิท ทารกในครรภ์ก็จะไม่ปลอดภัย เมื่อทารกในครรภ์ไม่ปลอดภัยแล้ว นางย่อมไม่กล้ารีบเร่งออกเดินทางแน่นอน”
ซื่อจี้กำผงยานั้นเอาไว้แน่น ราวกับว่ามันคือฟางช่วยชีวิตของตน
ซูจื่ออวี๋มองไปที่ซื่อจี้แล้วพูดว่า “เจ้ากลับไปได้แล้ว”
ซื่อจี้พยักหน้า ลุกขึ้นกล่าวคำอำลาแล้วจากไป ซูจื่ออวี๋มองแผ่นหลังเรียวบางของนางที่มีท้องขนาดใหญ่ ก็อดไม่ได้จะพูดว่า “ลูกแฝดน่ะ ส่วนใหญ่แล้วจะคลอดก่อนกำหนด เจ้าเองก็ต้องเตรียมตัวล่วงหน้า”
ซื่อจี้ตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองซูจื่ออวี๋ด้วยแววตาที่คลอไปด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง
......
หลังจากซื่อจี้จากไป จวินมู่เหนียนก็เข้ามาในห้อง ซูจื่ออวี๋เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางลุกขึ้นไปต้อนรับแล้วเอ่ยว่า “ท่านอ๋องกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ?”
จวินมู่เหนียนกล่าวว่า “ตอนพวกเจ้าพูดถึงเรื่องการตั้งครรภ์ของฮูหยินซูนั่นแหละ”
ซูจื่ออวี๋ก็แสร้งทำเป็นโกรธก่อนจะพูดว่า “เหตุใดท่านถึงได้แอบฟังคนอื่นพูดคุยกันอยู่เรื่อยเลย!”
จวินมู่เหนียนจับมือของซูจื่ออวี๋แล้วพูดว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะแอบฟัง ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าพระชายาแม้คำพูดจาจะแข็งกร้าวแต่จิตใจกลับอ่อนโยน”
ซูจื่ออวี๋ถอนหายใจแล้วพูดอย่างละอายเล็กน้อย “เฮ้อ! ข้าไม่สามารถกำจัดต้นตอของปัญหาได้ ข้ามักจะรู้สึกว่าเด็กในท้องของซื่อจี้ไร้เดียงสา ท้องมาจนถึงขนาดนี้ ไม่มีเหตุผลใดจะปล่อยให้พวกเขาไปเสี่ยงอันตรายด้วย”
จวินมู่เหนียนดึงซูจื่ออวี๋มานั่งบนตัก เอ่ยปลอบโยนเบาๆ “ความมีน้ำใจไม่ใช่ข้อบกพร่อง เพราะงั้นเจ้าก็อย่าได้พะวงหน้าพะวงหลง มีข้าคอยสนับสนุนเจ้า เจ้าอยากทำสิ่งใดก็ได้ตามที่เจ้าต้องการ ไม่ต้องกลัวพวกสัตว์ประหลาดเหล่านั้น”
ดวงตาของซูจื่ออวี๋เป็นประกาย นางรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าโม่ซุนเสียอีก ก่อนจะรีบถามว่า “อยู่ที่ไหนหรือ?”
โม่ซุนหยิบหนังสือออกมาเล่มหนึ่งให้ซูจื่ออวี๋ดู แล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “กระถางดอกไม้นี้ชื่อว่าฉานเสวี่ยจิงหง เป็นดอกเบญจมาศที่ล้ำค่าหลายสิบชนิด และกระถางนี้อยู่ในหนังสือ ทั้งยังสืบทอดประวัติศาสตร์มาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว ตามประวัติศาสตร์ของดอกไม้ ดอกไม้นี้เคยอยู่ในแคว้นซีหลิงมาก่อน เมื่อสามปีที่แล้ว แคว้นซีหลิงมาที่แคว้นตงโจวแล้วนำสิ่งนี้มาถวายให้ฮ่องเต้ในปัจจุบัน”
ซูจื่ออวี๋ไม่เข้าใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ฉานเสวี่ยจิงหงกับโกฐกระดูกร้อยปีเกี่ยวข้องกันอย่างไรหรือ?”
โม่ซุนก็เอ่ยต่อ “เจ้าดูรอบๆ ดอกเบญจมาศนี่สิ มีดอกไม้เล็กๆ มากมายที่ดูเหมือนดอกไม้เล็กๆ ของดอกผูกงทำหน้าที่ขับให้เด่นออกมา”
ซูจื่ออวี๋มองดูอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า “โกฐกระดูก หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือไม้หอมเมฆา เป็นพืชตระกูลทานตะวันบัวหิมะ พวกนี้ไม่ใช่ดอกผูกงอิง แต่เป็นไม้หอมเมฆาอย่างนั้นหรือ?!”
โม่ซุนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มแล้วเอ่ยว่า “แม้ว่าภาพวาดนี้จะไม่สมจริง แต่ข้าเดาว่าอาจจะเป็นไม้หอมเมฆา ฉานเสวี่ยจิงหงนี้มีประวัติยาวนานถึงร้อยปี ดังนั้นไม้หอมเมฆานี่ก็ต้องมีอายุมากกว่าร้อยปีเช่นกัน ตราบใดที่เราเจอดอกไม้กระถางนี้ ก็ขุดเอารากของไม้หอมเมฆาเหล่านี้ออกมา และหลังจากที่ข้าแปรรูปและตากแดดให้แห้ง แม่นางซูก็จะได้โกฐกระดูกร้อยปีแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...