ฮ่องเต้และฮองเฮามองไปที่ เหยียนหรูอี้ที่มีท่าทางรังเกียจมากอย่างเห็นได้ชัด
ฮองเฮาไม่ได้สนใจนาง แค่เอ่ยด้วยรอยยิ้มบางว่า “ตราบใดที่ไม่เป็นอะไรก็พอแล้ว พานางไปที่สำนักหมอหลวงให้หมอหลวงตรวจดู ฝ่าบาท รัชทายาทอวิ๋นหยาง พวกเรากลับไปที่งานเลี้ยงหารือเรื่องแต่งงานกันเถอะ”
ฮ่องเต้เจาเหวินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และฉู่อวิ๋นหยางก็พยักหน้ารับคำสั่ง
แต่เมื่อทุกคนกำลังจะจากไป เหยียนหรูอี้ที่มีความคับข้องใจและความโกรธนั้นก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนได้ นางตะโกนออกมาว่า “ได้โปรดฝ่าบาทและฮองเฮา ช่วยให้ความเป็นธรรมกับหม่อมฉันด้วย”
ฮองเฮาขมวดคิ้วเบาๆ หันไปมองเหยียนหรูอี้ แล้วถามว่า “ข้ายอมรับเจ้าเป็นลูกสาวบุญธรรมของข้าแล้ว และกำหนดงานแต่งงานให้รัชทายาทเป๋ยฉู่ เจ้าอยากให้ข้าให้ความเป็นธรรมกับเจ้าอย่างไร?” เห็นได้ชัดว่าฮองเฮาคิดว่าเหยียนหรูอี้กำลังจะต่อต้าน ดังนั้นน้ำเสียงของนางจึงดูไม่พอใจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เหยียนหรูอี้ก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นและขอร้อง “ฮองเฮาความกรุณาที่ท่านมีให้ หม่อมฉันซาบซึ้งใจยิ่งนัก แต่เมื่อครู่นี้หม่อมฉันไม่ได้ลื่นล้มตกน้ำไปเองเพคะ มีคนผลักหม่อมฉันลงบ่อปลาคราฟ หวังว่าฮองเฮาจะช่วยให้ความเป็นธรรม ลงโทษฆาตกรผู้นั้นด้วย”
อะไรนะ?
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ ในวันที่อากาศแจ่มใสเช่นนี้ กลับมีคนกล้าก่อเหตุฆ่าคนในวังหลังเชียวหรือ?
เมื่อจวินมู่เหนียนได้ยินสิ่งที่เหยียนหรูอี้พูด เขาก็เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมาแล้ว เขาเข็นรถไปหาซูจื่ออวี๋แล้วยื่นมือออกไปจับมือของนาง
ซูจื่ออวี๋ก็มองตามไป เห็นมือของจวินมู่เหนียน และเห็นสีหน้ากังวลของเขา ซูจื่ออวี๋ก็เม้มปากพร้อมกับยิ้ม ส่ายหน้าส่งสัญญาณให้จวินมู่เหนียนสบายใจ
แต่ความกังวลของจวินมู่เหนียนไม่ได้สูญเปล่า ตามที่คาดเอาไว้เหยียนหรูอี้ชี้ไปที่ซูจื่ออวี๋
ฮองเฮาก็เอ่ยถามว่า “เจ้าบอกว่ามีคนผลักเจ้าลงบ่อปลาคราฟ? เป็นใคร เจ้ามองเห็นชัดเจนหรือ?”
ฮองเฮามองไปที่ฮ่องเต้เจาเหวินที่กำลงมองซูจื่ออวี๋ ก่อนจะเอ่ยถามว่า “ซูจื่ออวี๋เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่บ่อปลาคราฟ?”
ซูจื่ออวี๋ก็กล่าวว่า “ทูลเสด็จพ่อ ท่านอ๋องออกไปนานมาก หม่อมฉันเลยเป็นห่วง จึงออกมาตามหา ระหว่างทางก็ผ่านทางนี้ แล้วก็เห็นแม่นางคนหนึ่งกำลังเรียกให้คนช่วยเพคะ”
ลั่วกุ้ยเฟยกลอกตาแล้วหัวเราะเยาะ “ซูจื่ออวี๋ คนมามากขนาดนี้นางไม่ชี้ แต่นางกลับชี้เจ้า เพราะอะไรกันล่ะ?”
ซูจื่ออวี๋ยักไหล่พร้อมผายมือ “ลั่วกุ้ยเฟย เรื่องนี้ท่านถามนางเถอะ นางบอกว่าข้าผลักนาง นางมีพยานบุคคลหรือพยานวัตถุหรือไม่?”
ลั่วกุ้ยเฟยกลอกตาไม่สนใจซูจื่ออวี๋ เรื่องนี้นับว่านางช่วยเหลือองค์หญิงสิบเอ็ดอ้อมๆ ดังนั้นลั่วกุ้ยเฟยจึงอารมณ์ ยินดีจะดูเรื่องตลกของคนอื่น
หลังจากได้ฟังคำพูดของซูจื่ออวี๋แล้ว ฮองเฮาก็คิดว่ามันสมเหตุสมผล นางหันไปมองเหยียนหรูอี้แล้วถามว่า “เหยียนหรูอี้มีใครเห็นนางผลักเจ้าลงน้ำหรือไม่? หรือเจ้ามีหลักฐานอื่นหรือไม่?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...