ซูจื่ออวี๋เม้มปาก สุดท้ายก็หลับตาลงยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง
พายุแห่งการจูบถาโถมเข้ามาบนใบหน้าของนาง การต่อต้านสุดกำลังของนางพ่ายแพ้ ท่ามกลางความสับสนและมึนงง ซูจื่ออวี๋รู้ใจของตัวเองแล้ว ว่านางไม่สามารถต่อต้านจวินมู่เหนียนได้แล้ว
……
ห้องโถงด้านหน้า จวนอ๋องฉิน
เมื่อเห็นว่าพระอาทิตย์ตกดิน ท้องของจ้าวหลงขุยก็พากันประท้วง หลังจากส่งเสียงร้องอย่างน่าอายออกมาแล้ว เทียนชิงจึงถามว่า “ใต้เท้าจ้าว ท่านอยากกินอะไรหรือไม่?”
จ้าวหลงขุยตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ไม่ๆๆ ไม่เป็นไรๆ ดื่มชาของจวนอ๋องฉินก็เกรงใจมากแล้ว”
เทียนชิงอยากจะหัวเราะ แต่เขาก็ไม่กล้ารบกวนท่านอ๋องของตน เซวียนชางก็ออกมาจากเรือนไป๋ลู่ ข้างในเกิดเรื่องอะไรขึ้น แค่คิดก็รู้แล้ว
เมื่อเห็นว่าเริ่มมืดแล้ว ไม่แน่ว่าเจ้านายทั้งสองคนอาจจะนอนจนถึงรุ่งเช้าก็ได้ อย่างไรก็ไม่สามารถปล่อยให้เจ้าสำนักศาลต้าหลี่ที่มีเรื่องร้อยแปดท่านนี้ยุ่งวุ่นวายกับจวนอ๋องฉินได้
เมื่อคิดได้อย่างนั้นแล้ว เทียนชิงก็เอ่ยว่า “ใต้เท้าจ้าว ท่านกลับไปก่อนดีหรือไม่ พรุ่งนี้เช้าก่อนจะเข้าประชุมเช้าที่วัง ท่านค่อยมารอท่านอ๋องอยู่หน้าประตู ตอนนั้นท่านอ๋องจะให้คำตอบท่านอย่างแน่นอน”
จ้าวหลงขุยลูบท้องที่หิวโหยของตัวเอง ก็รู้สึกว่าที่เทียนชิงพูดมาก็เข้าท่าดี ดังนั้นเขาจึงรีบบอกลาแล้วออกไป
เขาไปก็นับว่าโชคดี ไม่อย่างนั้นถ้าจวินมู่เหนียนออกมาแบบไม่พอใจ มันอาจจะไม่เกิดผลดีอะไรกับเขา
ท่านอ๋องฉินผู้น่าสงสาร ไม่มีที่ระบายความโกรธแค้น ความต้องการมีอยู่เต็มท้องต้องย่อยด้วยตัวเองเท่านั้น เขามองซูจื่ออวี๋ที่กำลังหลับอยู่ ก็รู้สึกเหนื่อยใจอย่างยิ่ง
จวินมู่เหนียนอดไม่ได้ที่จะคิดว่าการที่น้องชายพี่ชายเหล่านั้นของเขาจะร่วมเตียงกับใครสักคนมันยากขนาดนี้หรือไม่?
วันนี้เขาเกือบจะถอดกางเกงของซูจื่ออวี๋ได้แล้ว แต่เห็นว่านางร้องไห้เขาก็ทำใจไม่ได้
น้ำตาของซูจื่ออวี๋ใช้กับเขาได้มากกว่ายาพิษอะไรพวกนั้น
เมื่อเห็นคราบน้ำตาที่หางตาของแม่นางน้อย จวินมู่เหนียนก็รู้สึกว่าตนเหมือนกับสัตว์ร้าย ไม่ ไม่ใช่สัตว์ร้าย แม้แต่สัตว์ร้ายก็ยังเทียบเขาไม่ได้
จวินมู่เยว่ตะลึงงันทันที ก่อนจะเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “นี่...นี่ก็ดูออกด้วยหรือ?”
หันหรูเฟิงเลิกคิ้วกล่าวว่า “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าข้าทำอาชีพอะไร? คุณชายที่ไม่สบอารมณ์พวกนั้น ตอนออกไปจากเวินเซียงอวี้หยวนก็หน้านิ่วคิ้วขมวดแบบนี้ทุกราย ราวกับไปติดหนี้คนเป็นแสนตำลึง”
จวินมู่เยว่ลูบคาง แล้วเอ่ยว่า “ดูท่าแล้วอาการป่วยทางใจของพี่เจ็ดจะไม่คืบหน้าเลย”
หันหรูเฟิงเองก็ถอนหายใจกล่าวว่า “อาการป่วยเช่นนี้รักษายากที่สุด เฮ้อ”
จวินมู่เหนียนเงยหน้าขึ้นมองสองคนที่กำลังกระซิบกระซาบกันอยู่ ก็อดเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัยไม่ได้ “พูดอะไรกัน?”
ทั้งสองคนก็มีสีหน้ายิ้มแย้มขึ้นมาทันที ก่อนจะรีบเดินเข้ามานั่งลง จวินมู่เยว่เอ่ยขึ้นมาก่อนว่า “พี่เจ็ด มีเรื่องอะไรกวนใจหรือเปล่า? พี่เจ็ดพูดมาได้เลย น้องชายจะช่วยเหลือท่านอย่างเต็มที่”
จวินมู่เหนียนมองไปที่จวินมู่เยว่แล้วเอ่ยถามว่า “เจ้าปรับอารมณ์ได้แล้วหรือ? ไม่ได้เอาความรักเป็นใหญ่ละเลยความกล้าหาญของวีรบุรุษแล้วใช่หรือไม่?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...