หลังจากตรวจสอบรอบๆ เซวียนซางก็พูดว่า “ที่นี่เคยมีการต่อสู้เกิดขึ้นจริงๆ แต่น่าแปลกเหตุใดฝ่ายชนะถึงจัดการกับที่เกิดเหตุ ถ้าเป็นโจรภูเขาหรือศัตรูก็ไม่จำเป็นต้องลำบากอะไรขนาดนี้ก็ได้กระมัง”
ซูจื่ออวี๋เอ่ยว่า “เห็นได้ชัดว่าต้องการปิดหูปิดตาของคน”
โม่ซุนกล่าวด้วยความสงสัยว่า “การต่อสู้แบบไหนถึงต้องปิดหูปิดตาคนอื่น?”
ซูจื่ออวี๋คิดแล้วก็ตอบว่า “ถ้าแค่มาฆ่าคน ก็ไม่จำเป็นต้องปิดซ่อนอะไรขนาดนี้ เว้นแต่จะเป็นการปล้นนักโทษหรือลักพาตัวอะไรแบบนั้น แบบนี้ทางการก็จะหาร่องรอยไม่เจอเบาะแส”
โม่ซุนพยักหน้าแล้วพูดว่า “เจ้าหมายความว่า คนร้าย ต้องเอาใครหรือสิ่งของบางอย่างไป เพราะกลัวถูกคนที่ตามมาเจอ ดังนั้นถึงได้พยายามปิดหูปิดตาคนอื่นแบบนี้หรือ”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้าเบาๆ
เซวียนซางลูบใต้คางแล้วคิดอย่างรอบคอบ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดว่า “นี่ถนนหลวง โจรปล้นในป่าไม่ค่อยเลือกที่นี่ เว้นแต่...”
ซูจื่ออวี๋มีลางสังหรณ์ไม่ดีก่อนจะพูดว่า “เว้นแต่ผลประโยชน์จะมาก ทำให้พวกเขากล้าเสี่ยงได้ขนาดนี้”
ทั้งสามคนมองหน้ากันแล้วพูดว่า “เงินทหาร”
เซวียนซางสูดหายใจเข้าลึกๆ “เส้นทางนี้จะมุ่งหน้าผ่านเมืองเป่ยอัน”
ซูจื่ออวี๋รีบพูดว่า “รีบไปกันเถอะ เดินทางไปตามสายนี้แหละเผื่อจะมีเบาะแสอะไรเพิ่มเติม”
……
ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปข้างหน้าเป็นระยะทางยี่สิบลี้ ก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่ก็ยังสามารถมองเห็นร่องรอยล้อรถได้
เซวียนซางกล่าวว่า “รถม้าที่ขนเงินทหารนั้นหนักเป็นพิเศษ ดังนั้นรอยล้อจึงค่อนข้างลึก สามารถแยกออกได้ง่ายๆ”
ซูจื่ออวี๋ก็พูดด้วยความกระวนกระวายใจ “ข้าไม่เป็นอะไรหรอกน่า หมอเทวดาโม่กับข้าจะเดินตามหาเบาะแสเข้าไปในป่าทึบ และจะทิ้งเครื่องหมายไว้ให้เจ้าตามทาง เจ้ารีบกลับไปหาคนช่วยเถอะ”
เซวียนซางอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าเขาไม่กลับไปหาคนมาช่วย เขาก็จะไม่สามารถช่วยจวินมู่เยว่ท่ามกลางศัตรูมากมายได้ แต่ถ้าเขากลับไปหาคนมาช่วย แล้วทิ้งโม่ซุนกับซูจื่ออวี๋ที่ไม่วรยุทธ์เอาไว้ลำพัง เขาจะวางใจได้อย่างไร
โม่ซุนเห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็เอ่ยว่า “องครักษ์เซวียนซาง เจ้ารีบไปแล้วก็รีบกลับเถอะ ร่างกายของเจ้าค่อนข้างดี การเดินทางห้าวันห้าคืน ถ้าเจ้ารีบเดินทางก็อาจจะใช้เวลาแค่สามวันสามคืน เจ้าวางใจกับพวกเราเถอะ ข้าท่องยุทธภพมานานหลายปี แม้ว่าจะไม่ได้สร้างความดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่มีใครอยากล่วงเกินหมอเทวดาอย่างข้าแน่ มีใครบางจะกล้ารับประกันว่าชาตินี้จะไม่ป่วย ส่วนเรื่องป้องกันตัว เจ้าไม่ต้องกังวลเลย”
ซูจื่ออวี๋ก็รีบพูดปลอบใจว่า “ใช่ อย่าชักช้า รีบกลับไป ถ้ากษัตริย์ตำหนิ ก็บอกว่าข้าต้อนความตาย”
เซวียนซางใจเต้นรัว กลัวว่าซูจื่ออวี๋จะเอาความตายมาบีบบังคับจึงรีบพูดว่า “ข้าจะรีบไปรีบกลับ”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้าพูดว่า “อือ ข้าจะทิ้งเครื่องหมายรูปลูกศรไว้ระหว่างทาง รอให้เจ้าพากำลังเสริมมา”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...