ซูจื่ออวี๋พาโม่ซุนเดินตามรอยเท้าไปยังภูเขาลึกเป็นเวลาสามวันสามคืน
แม้ว่าเส้นทางบนภูเขาจะเดินยาก แต่รอยเท้าเหล่านี้ก็ชัดเจนมาก ทำให้พวกเขาไม่หลงทางง่ายๆ
ขณะที่ทั้งสองกำลังหยุดพัก โม่ซุนก็เอ่ยว่า “โชคดีที่ฝนตกน้อยในฤดูใบไม้ร่วง ถ้าฝนตกลงมาละก็ รอยเท้าเหล่านี้ก็ยากจะหาเจอแล้ว”
ซูจื่ออวี๋ดื่มน้ำแล้วพยักหน้ากล่าวว่า “ใช่ พวกเขาเดินเข้าไปในป่าทึบน่าจะเพราะอยากใช้พุ่มหญ้าซ่อนร่องรอย แต่กลับไม่รู้ว่าดินในป่าทึบมันนุ่ม และทิ้งรอยเท้าเอาไว้ได้ง่ายๆ”
โม่ซุนมองออกไปไกลๆ อย่างกังวลแล้วเอ่ยว่า “แต่เส้นทางนี้...เดินยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะพาไปทิศทางไหน”
ซูจื่ออวี๋เอ่ยปากว่า “ไม่ใช่แค่เดินยาก เจ้าไม่เจอเลยหรือ ตั้งแต่เช้านี้จนถึงตอนนี้ พวกเราไม่เห็นกระต่ายหรือสัตว์ตัวเล็กๆ อย่างไก่ป่าเลย”
โม่ซุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างสงสัย “หมายความว่าอย่างไร?”
ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “พวกสัตว์มักจะหาผลประโยชน์และหลีกเลี่ยงอันตราย ที่นี่ไม่มีสัตว์ตัวเล็กๆ ที่อ่อนแอ แสดงว่าพวกเรากำลังเข้ามาในอาณาเขตสัตว์ร้าย แถวนี้ต้องมีอะไรที่สามารถคุกคามชีวิตของพวกมันได้ อาจจะเป็นจิ้งจอกหรือเสือดาวก็ได้”
โม่ซุนไม่ได้กังวลนัก แต่หยิบถุงหอมใบหนึ่งออกมาจากอกเสื้อและมอบให้ซูจื่ออวี๋ ก่อนจะเอ่ยว่า “เอานี่ติดตัวไว้ พอสัตว์ร้ายได้กลิ่นก็จะหลีกเลี่ยงทันที”
ซูจื่ออวี๋ตะลึงงันเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยว่า “แล้วเจ้าล่ะ”
โม่ซุนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ข้าก็เลยไปกับเจ้านี่แหละ”
ซูจื่ออวี๋ส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่เอา เจ้าเอาติดตัวไว้เถอะ ข้าปกป้องตัวเองได้ ข้าใช้พิษเป็น”
โม่ซุนดึงข้อมือของซูจื่ออวี๋แล้ววางถุงหอมลงบนมือของนางก่อนจะเอ่ยว่า “เพราะเจ้าใช้พิษเป็น ดังนั้นต้องรับรองความปลอดภัยของเจ้าก่อน เพื่อที่เจ้าจะได้ปกป้องข้า ถึงจะช่วยข้าได้ไม่ใช่หรือ?”
หลังจากนั้นไม่นานซูจื่ออวี๋เห็นใบไม้ที่ร่วงหล่นและมีเลือดหยดลงมาสองสามหยด กลิ่นนั้นมาจากเลือดนั้น
ซูจื่ออวี๋ใช้นิ้วป้ายเลือดขึ้นมาหยดหนึ่ง สังเกตดูดีๆ แล้วจากนั้นก็เอ่ยว่า “เลือดนี้ไม่ได้ถูกอากาศ น่าจะออกมาได้ไม่นาน ในเลือดยังมีส่วนผสมของยาพิษ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนของจวนอ๋องฉิน หรือว่าท่านอ๋องแปดกับทหารคนอื่นๆ จะอยู่แถวนี้”
โม่ซุนเข้าใจคำพูดของซูจื่ออวี๋เพียงครึ่งเดียว แต่เขาเข้าใจประโยคสุดท้ายแล้ว ก็คือคนจวนอ๋องฉินที่คุ้มกันเงินทหารไปส่งอยู่แถวนี้
โม่ซุนเอ่ยปากว่า “พวกเราต้องรีบไปหาพวกเขาเดี๋ยวนี้ ตอนนี้ยังเลือดไหลอยู่ เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บหนักแน่นอน”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้าแล้วเก็บคบเพลิงให้เรียบร้อย ก่อนจะหยิบไฟฉายเล็กๆ ออกมาจากหยกเจี๋ยจื่อ
ของยุคใหม่ในหยกเจี๋ยจื่อของนางมีไม่มากนัก เพราะนางไม่เคยคิดว่าตัวเองทะลุมิติมา โชคดีที่บางครั้งเมื่อต้องการในยามฉุกเฉิน ก็สามารถทำของบางส่วนมาพลิกแพลงตามสถานการณ์ได้ แต่น่าเสียดายที่ไฟฉายนี้ใช้แบตเตอรี่ เกรงว่าถ้าครั้งนี้ใช้หมด ครั้งหน้าก็คงไม่มีแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...