ใบหน้าจื่ออันค่อย ๆ แดงขึ้น มู่หรงเจี๋ยที่หยิ่งยโสผู้นั้น รักษาบาดแผลเสร็จแล้วก็บอกว่าง่วงนอน ขอให้นางร้องเพลงให้ฟัง พูดออกมาก็น่าขายหน้า
ตอนที่นางร้องเพลงนั้น เขาจ้องมองมายังนางตลอดเวลา แววตาซับซ้อนไม่อาจอธิบายออกมาได้
หากใช้เวลาเพิ่มอีกเพียงนิด จื่ออันคงจะคิดว่าตนมีบุตรชายไปแล้ว บุตรชายตัวโตเช่นเขา
จื่ออันเคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับจิตวิทยา จึงเข้าใจได้ว่าทำไมเขาถึงได้ทำเยี่ยงนี้
ตอนที่ทำการศึกษานั้น ยิ่งเป็นผู้ที่มีอำนาจมาก ก็จะยิ่งมีสิ่งที่ปล่อยวางไม่ได้มากขึ้น ห่อหุ้มจิตใจอันแข็งกร้าวไว้ ในมุมใดมุมหนึ่ง ก็จะมีอาการเจ็บปวดราวกับโดนเข็มทิ่มแทงจมูกอย่างไรอย่างนั้น
ความเจ็บปวดของมู่หรงเจี๋ย อาจจะเป็นเพราะกุ้ยไท่เฟย
เขาไม่ใช่ว่าไม่เคยได้รับความรักของแม่จากกุ้ยไท่เฟย เพียงแต่จนถึงวันนี้ความรักนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว และมันก็ส่งผลกับเขา เขารู้ว่าอดีตที่ผ่านมามิอาจจะไล่ตามมาได้แล้ว จึงได้เก็บมันไว้ในมุมหนึ่งของใจ เก็บความรักความรู้สึกระหว่างแม่ลูกนี้ไว้ และไม่ยอมให้มันเอ่อท้นออกมา
“หลิวหลิ่ว เจ้าเอ่ยถึงเรื่องผีดิบ มันเกิดอะไรขึ้น?” จื่ออันเปลี่ยนไปยังหัวข้อใหม่
หลิวหลิ่วกลืนข้าวลงไปก่อนเอ่ย “จิงจ้าวหยินเข้ามารายงาน บอกว่าในหมู่บ้านหินปรากฏผีดิบออกมากัดคน ได้กัดไปแล้วสองคน หลังจากที่สองคนนั้นโดนกัดแล้ว ก็กลายเป็นผีดิบไปด้วย ในขณะที่กำลังคิดจะกัดคนอื่นนั้นก็ถูกจับไว้ก่อนส่งมาที่ศาลาว่าการ ตอนนี้ก็ถูกคุมขังอยู่”
“ผีดิบที่กัดคน? นอกจากกัดคนแล้ว ยังมีอาการอีกหรือไม่?” จื่ออันเอ่ยถาม
“ไม่ได้ยินซูชิงกล่าวถึง เจ้าลองถามเขาดู” หลิวหลิ่วที่หยิบตะเกียบไว้แล้วก็วางลงอีก “ข้าอยากจะไปดูผีดิบจริง ๆ ข้ายังไม่เคยพบเจอผีดิบเลย”
เสี่ยวซุนตกอกตกใจ “โอ้ คุณหนูเฉิน นี่ไม่อาจพบได้นะเจ้าค่ะ ผีดิบช่างทำให้คนตกใจซะจริง กัดผู้ใดแล้วคนคนนั้นก็จะกลายเป็นผีดิบ ทั้งชีวิตนี้ก็มิอาจจะฟื้นคืนกลับมาได้”
จื่ออันเอ่ยถาม “ตอนนี้ผีดิบที่ถูกคุมนั้น มีสองตนหรือสามตนกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...