จื่ออันมองที่แผ่นหลังของเขา เกลียดจนอยากจะงับเขาจริง ๆ ผู้สำเร็จราชการผู้นี้มักพูดจาแค่ครึ่งนึงจากนั้นก็เปลี่ยนเรื่องคุย ไม่เปิดโอกาสให้ใครถามเลย
สิ่งที่ทำให้คนอื่นทนไม่ได้มากที่สุด ก็คือคำพูดของเขาดูเหมือนจะจริงแต่ก็เป็นเท็จเสมอ และคนอื่นจะไม่สามารถแยกแยะได้เลย
คนพาล!
พอจัดการเรื่องของหนี่หรงเสร็จเรียบร้อย เกือบจะค่ำแล้ว
เฉินหลิวหลิ่วเล่นกับพวกสาวใช้มาทั้งวัน นางเองก็เหนื่อยแล้ว จึงนอนคว่ำอยู่บนโต๊ะหินในลานของเรือน
ระยะนี้นางและเซียวท่าไม่ได้มีความคืบหน้าใด ๆ เลย และไม่ได้พูดคุยกันด้วย ความคืบหน้าเพียงอย่างเดียวก็คือนางมักจะเห็นเขาบ่อยขึ้น
เฉินหลิวหลิ่วบอกกับจื่ออันว่า นางจะค่อย ๆ แทรกซึมเข้าไปในใจของเซียวท่าทีละนิด ๆ ดังนั้นนางจึงไม่รีบร้อน
จื่ออันรู้สึกชื่นชมนางมาก เดิมทีคิดว่านางจะยอมแพ้ นางอดทนมาสองถึงสามวันแต่ก็ไม่ได้พูดคุยกับเซียวท่าเลย ซึ่งความไม่ย่อท้อนี้ ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปต่างก็ไม่มี
เฉินหลิวหลิ่วมีค่าควรแก่การยกย่อง และหากนางใช้ความไม่ย่อท้อนี้ในด้านอื่น ๆ ก็จะบรรลุผลสำเร็จอย่างแน่นอน
ตอนที่พวกนางออกจากจวนมา กุ้ยไท่เฟยก็กลับเข้ามาในจวนพอดี
นางกลับจากวังมาในวันแรกของทุกเดือน นางจะเข้าวังเพื่อไปคำนับเหล่าไท่โฮ่ว เมื่อวานไม่ได้ไปเพราะว่ามีคนเข้าวังไปมากมาย ดังนั้นนางจึงเปลี่ยนมาเป็นเข้าวังไปในวันนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่จื่ออันได้เผชิญหน้ากับกุ้ยไท่เฟยในช่วงเวลาแบบนี้
นางพาเฉินหลิวหลิ่วไปคำนับ "ถวายบังคมกุ้ยไท่เฟย"
กุ้ยไท่เฟยยืนนิ่งและมองไปที่เซี่ยจื่ออัน ใบหน้าของนางแลดูสงบและดวงตาก็ดูสงบนิ่งเช่นกัน แต่ความสงบนี้ดูยังไงชอบกล
“พ่อของเจ้าเชิญให้ข้าไปร่วมงานอภิเษกสมรสในวันพรุ่งนี้ เจ้ากลับไปบอกพ่อของเจ้าให้ข้าด้วยว่า ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ไปที่นั่นไม่ได้แล้ว แม้ว่าข้าจะไม่ไป แต่ข้าจะส่งของกำนัลไปให้" กุ้ยไท่เฟยกล่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...