ซุนกงกงตะโกนเสียงเข้ม “ช่างอวดดีนัก ต่อหน้าหวงไท่โฮ่วในวังโซ่วอัน ก็บังอาจยโสโอหังได้เยี่ยงนี้รึ?”
หลิงหลงฟูเหรินเห็นว่าขันทีผู้นี้ก็กล้าตำหนินาง จึงกล่าวด้วยความโกรธ “เจ้าอยู่ในฐานะอะไร? ถึงกล้ามาตะโกนใส่ข้าเยี่ยงนี้”
นางสนมเหมยคิดไม่ถึงว่าหลิงหลงฟูเหรินจะไม่รู้จักกาลเทศะได้ถึงขนาดนี้ ช่างน่ารำคาญเสียจริง วันนี้การได้ไล่ตามน้ำโคลน ช่างเป็นเรื่องที่ผิดพลาดอย่างมหันต์
หวงไท่โฮ่วมีท่าทีที่โกรธมาก ขณะที่กำลังจะบันดาลโทสะออกมา ก็เหลียวไปมองนางสนมเหมยแวบหนึ่ง จึงอดกลั้นไว้ได้ ทำได้เพียงแต่กล่าวเสียงเข้ม “เอาสิ เชิญเซียงแหยและฟูเหรินนางนี้ที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงออกไป คราหน้าหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า ก็ห้ามเหยียบเข้ามาในประตูวังแม้แต่ก้าวเดียว”
หลิงหลงฟูเหรินตื่นตกใจกลัว จึงรีบคุกเข่าหมอบลงกับพื้นทันที “หวงไท่โฮ่วอภัยให้หม่อมฉันด้วย หม่อมฉันเพียงแค่พลั้งปากไปชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น…”
“จะพลั้งปากหรือสันดานของเจ้าเป็นเยี่ยงนี้อยู่แล้ว ข้าไม่อยากรู้ ข้าเองก็ไม่อยากลงไปเกลือกกลั้วเสวนากับคนประเภทเจ้า ส่วนเรื่องที่ล้มงานอภิเษก ด้วยคุณความดีในส่วนที่จื่ออานได้สร้างไว้ ข้าไม่ต้องการสอบสวนอีก พวกเจ้าออกจากวังไปซะ” หวงไท่โฮ่วออกคำสั่งขับไล่ทันที
หลิงหลงฟูเหรินอยากจะพูดอะไรต่อ แต่กลับโดนมหาเสนาบดีเซี่ยดึงเอาไว้ และเห็นใบหน้าที่ดุร้ายของนางเข้า ในใจก็เกิดความเกลียดชังขึ้นมาครู่หนึ่ง “หุบปาก เจ้ายังขายหน้าไม่พอหรือไง?”
หลิงหลงฟูเหรินก็ชะงักไปทันที ตั้งแต่ที่นางเดินเข้าประตูจวนเสนาบดีมา เขาไม่เคยพูดเสียงดังแบบนี้กับนางมาก่อน
มหาเสนาบดีเซี่ยกับใบหน้าที่ซีดเผือดโค้งคำนับ “หวงไท่โฮ่ว กระหม่อมขอตัวพ่ะย่ะค่ะ!”
ในเมื่อหวงไท่โฮ่วไม้ได้จะสอบสวนเรื่องล้มงานแต่ง เขาก็ไม่อยากจะข้องเกี่ยวมากไปกว่านี้ คิดแค่เพียงรีบ ๆ ออกไป เพื่อไม่ให้หลิงหลงนางโง่เขลาผู้นี้ได้พลั้งปากพูดอะไรผิดไปอีก จนทำให้หวงไท่โฮ่วต้องโกรธเคือง
ก่อนที่มหาเสนาบดีเซี่ยใกล้จะจากไป สายตาที่สับสนมองจื่ออานอยู่ครู่หนึ่ง จื่ออานเองก็สบตากลับอย่างไม่เกรงกลัว ดวงตาของพ่อลูกประสานกันจนเกิดเป็นเขม่าควันในอากาศ ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นเห็นเหมือนกันหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...