เดิมทีหานชิงชิวถูกฝังอยู่ในหลุมฝังศพที่เดียวกับบรรพบุรุษตระกูลเซียว ทว่าหลังจากจดหมายหย่าถูกประกาศออกมา ตระกูลเซียวก็ไม่สามารถปล่อยให้ร่างไร้วิญญาณของนางนอนอยู่ในหลุมฝังศพของบรรพบุรุษได้อีกต่อไป ทำการย้ายร่างนางไปฝังที่อื่นอย่างไร้เกียรติ แม้กระทั่งป้ายศิลาหน้าหลุมฝังศพยังถูกพรากไป
การขุดหลุมฝังศพนั้นเป็นสิ่งผิดศีลธรรม ตาวเหล่าต้าเชื่อเช่นนั้น ดังนั้นเขาจึงยืนกรานไม่ให้จื่ออันทำท่าเดียว ก่อนจะขุดหลุมฝังศพตรงหน้าตามลำพังด้วยหยาดเหงื่อ
จื่ออันได้เตรียมหน้ากากที่แช่ในน้ำขิงไว้แล้ว หลังจากที่โลงศพถูกขุดขึ้นมา ตาวเหล่าต้าก็เปิดโลงศพออก ทันใดนั้นกลิ่นเหม็นเน่าพลันโชยตลบออกมา ถึงแม้พวกเขาจะสวมหน้ากากกันทั้งคู่ แต่กลิ่นอันน่าสะอิดสะเอียนนั้นก็ยังทำให้ทั้งสองเกิดอาการคลื่นไส้
สภาพศพบวมอืด โดยเฉพาะใบหน้าที่ขยายเสียจนมองไม่เห็นเค้าโครงเดิม ร่างภายในโลงปกคลุมไปด้วยหนอน แต่ละตัวหนาเท่าหางตะเกียบ ลำตัวยาวครึ่งนิ้ว
“น่ากลัวเกินไปแล้ว” ตาวเหล่าต้าเอามือปิดจมูกพลางเอ่ย
จื่ออันหยิบหม้อดินใบเล็กที่นำติดมาด้วยออกมา ใช้แหนบคีบแมลงใส่ลงไปแล้วจัดการปิดผนึกอย่างดี
จากนั้นนางก็หยิบมีดออกมา กรีดตัดเสื้อผ้าของหานชิงชิวให้แยกออกจากกัน แล้วเริ่มชำแหละศพ
ตาวเหล่าต้าเห็นว่าอวัยวะภายในร่างนั้นถูกหนอนแมลงกัดกินไปจนเกือบหมด ของเหลวภายในศพยังไหลทะลักออกมา เป็นภาพที่ชวนขยะแขยงอย่างเหลือจะกล่าว ในที่สุดเขาก็อดทนไม่ไหว รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าและอาเจียนอย่างบ้าคลั่ง
ขณะเดียวกัน จื่ออันยังคงนั่งยอง ๆ อยู่ตรงนั้น ผ่าเปิดหน้าท้องศพอย่างพิถีพิถัน ปลายมีดเคลื่อนจากลำไส้ กระเพาะอาหาร หัวใจ และขึ้นไปจนสุด ในที่สุดก็ผ่าเปิดกะโหลกศีรษะออก พบว่าภายในนั้นก็มีหนอนกู่อยู่ด้วยเช่นกัน
จื่ออันจำเป็นต้องรู้ว่าหนอนกู่ฝังตัวอยู่ภายในอวัยวะส่วนใดมากกว่ากัน และอวัยวะส่วนไหนที่มันเริ่มกัดกิน
พิษกู่ของหานชิงชิวเกิดจากการถูกวางยา ฉะนั้นหลังจากที่หนอนกู่เข้าสู่ร่างกายแล้ว พวกมันก็จะเริ่มกัดกินอวัยวะโดยตรง กระบวนการของหนอนกู่จึงสามารถตัดสินได้จากระดับการสลายตัวของอวัยวะภายใน
หลังจากทำการทั้งหมดนี้แล้ว จื่ออันขอให้ตาวเหล่าต้าปิดฝาโลง ปิดผนึกไว้ด้วยหน้าดินตามเดิม จากนั้นจึงขี่ม้ากลับไป
หลังกลับมาถึงวัง นางหมกตัวอยู่ในครัวและทำงานจุกจิกอยู่สักพัก จากนั้นจึงเข้าไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วส่งมอบเสื้อผ้าชุดเดิมให้เสี่ยวซุนนำไปฝังดิน รวมถึงเสื้อผ้าชุดเดิมของตาวเหล่าต้าด้วย
ตาวเหล่าต้าไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก แต่เมื่อเป็นคำสั่งของจื่ออัน เขาทำได้เพียงเชื่อฟัง
หลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย นางบรรจงเช็ดเส้นผมให้แห้งพลางเอ่ยถามแม่นมว่า “อ๋องหนานหวายพำนักอยู่ที่ไหนหรือ?”
“พำนักอยู่ในเรือนชิงหนิงเจ้าค่ะ” แม่นมตอบ
“ฟางเอ๋อร์ก็อาศัยอยู่ในเรือนชิงหนิงเช่นกันใช่หรือไม่?” จื่ออันถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
โอโย่คู่ตัวร้าย...
อ๋องเหลียงน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่จักรพรรดิเหลียง...
สามีภรรยาคู่นี้ จะมีช่วงเวลาสงบสุขดีดีบ้างไม่ได้เลยหรือไงกัน สงสารอ่า...