ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1133

ในการแข่งขันวันที่สี่ เพราะสามวันแรกเซียวหลินเทียนชนะไปสี่รายการ จึงเพิ่มขวัญกำลังใจได้มาก คนที่มาดูความคึกคักก็เพิ่มมากขึ้นแล้ว ทุกคนต่างตั้งตารอกลุ่มของเซียวหลินเทียนคว้าอันดับหนึ่งในสองรายการของวันนี้

แม้ว่าจะมิสามารถเป็นที่หนึ่งได้ทั้งสองรายการ ทว่าหากได้มาหนึ่งในนั้น ก็จะแซงหน้ากลุ่มขององค์ชายหนิงอย่างมั่นคงแล้ว

แต่การแข่งขันแรกคือการขุดอุโมงค์ ทุกคนในกลุ่มขององค์ชายอิงล้วนแข็งแกร่งมาก แต่กลุ่มของเซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงมิสามารถเอาชนะความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเขาได้เลย เซียวหลินเทียนกับองค์ชายหนิงจึงยังคงเป็นคะแนนสี่ต่อสามอยู่

การแข่งขันที่สองคือการปีนป่าย นี่คือการแข่งขันความเร็วของแต่ละกลุ่มในการประกอบและสร้างบันได

หากเซียวหลินเทียนชนะการแข่งขันนี้ก็จะเป็นห้าต่อสาม เว้นเสียแต่ว่าองค์ชายหนิงจะคว้าอันดับหนึ่งได้ทั้งสองรายการแข่งขันในวันที่ห้า มิเช่นนั้นก็จะแพ้เซียวหลินเทียนขาดลอย

ดังนั้น การแข่งขันปีนป่ายจึงเป็นรายการที่สำคัญมาก

ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋เคยบอกเซียวหลินเทียนกับท่านจินต้าถึงสิ่งที่ตนรู้เกี่ยวกับบันไดแล้ว หลังจากที่ทั้งสามคนทำงานร่วมกับช่างฝีมือแล้วก็ปรับเปลี่ยนบันไดแบบเดิมไป

เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นบันไดที่ได้รับการปรับเปลี่ยน เขาก็มิอยากเอาไปเข้าร่วมการแข่งขันเลย

นี่หากเก็บไว้ถึงการต่อสู้จริง เอาออกมาใช้ก็จะได้เปรียบ

หากใช้ในระหว่างการแข่งขัน ก็จะถูกอีกสามแคว้นลอกเลียนแบบเอาได้ ในภายหน้าหากเกิดสงครามขึ้นจริง ๆ ก็จะเสียเปรียบ

แต่หลิงอวี๋บอกว่า หากการต่อสู้จริงสามารถไปถึงจุดนั้นได้ก็คงเป็นทางเลือกสุดท้าย

การล้อมเมืองอาศัยการซ้อนทับของศพทหารเพื่อคว้าชัยชนะ โดยทั่วไปแล้วแม่ทัพที่นำทัพไปรบจะมิใช้กลยุทธ์นี้ หากมิได้ถูกบังคับจนอับจนหนทางจริง ๆ!

เซียวหลินเทียนคิดแล้วก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผลดี ในช่วงมิกี่ปีที่ผ่านมาที่เขานำทัพ เมื่อพูดถึงการล้อมเมืองแล้วมันน้อยมาก ส่วนใหญ่ใช้กลยุทธ์ล้อมทำลายศัตรูเสียมากกว่า

เมื่อคำนวณเช่นนี้ แม้ว่าการออกแบบของบันไดจะถูกอีกสามแคว้นลอกเลียนแบบ แต่ก็มิเป็นภัยต่อตนเองนัก

เพราะว่ากระดานไม้สำหรับข้ามแม่น้ำพัง การแข่งขันสร้างบันไดครั้งนี้ เซียวหลินเทียนกับอันเจ๋อจึงตรวจสอบไม้ทุกชิ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ส่วนเกวียนบรรทุกบันได เซียวหลินเทียนกับท่านจินต้าก็ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว

เพื่อป้องกันเหตุมิคาดฝัน เซียวหลินเทียนยังให้จ้าวซวนกับคนสนิทอีกสองสามคนเฝ้าไว้ด้วยตนเองด้วย

กระทั่งการแข่งขันเริ่มต้นขึ้น ทั้งสี่แคว้นก็ดันเกวียนบรรทุกบันไดของตนเองออกมา

จักรพรรดิอู่อันที่อยู่ด้านบนเห็นว่าบันไดแปลก ๆ ของเซียวหลินเทียนมิใช่สิ่งที่ตนเห็นอยู่บ่อย ๆ จึงศึกษาประโยชน์ของโครงแปลก ๆ อย่างสงสัยใคร่รู้

องค์ชายเว่ยที่อยู่ด้านข้างเอ่ยเปรย ๆ ขึ้นมา “เสด็จพ่อ เสด็จพ่อเองก็มิเคยเห็นบันไดเช่นนี้มาก่อนหรือพ่ะย่ะค่ะ? สิ่งที่ของน้องสี่ศึกษามามีประโยชน์อันใดกัน?”

“สิ่งนี้จะสามารถเอาชนะได้หรือไม่กันแน่ เขามิได้บอกหรือ? หากมันล้ำหน้ามากก็ควรจะให้กรมกลาโหมสร้างมันให้มากกว่านี้ ในภายภาคหน้าเมื่อมีสงครามจะได้ใช้ได้!”

เมื่อหลี่ว์เซียงได้ยินสิ่งนี้ก็รู้เลยว่าองค์ชายเว่ยกำลังหย่อนปัญหาให้ท่านอ๋องอี้ต่อหน้าองค์จักรพรรดิ!

อยากจะหว่านความขัดแย้งให้จักรพรรดิอู่อันสงสัยว่าเซียวหลินเทียนมีเจตนาอื่นซ้อนเร้นอยู่

“ฝ่าบาท นี่คงจะเป็นสิ่งที่ท่านอ๋องอี้คิดขึ้นมาในช่วงสองวันนี้กระมังพ่ะย่ะค่ะ!”

“เมื่อคืนตอนที่กระหม่อมผ่านค่ายทหารของพวกเขา กระหม่อมเห็นพวกเขาสองสามคนกำลังหารือกันว่าจะปรับเปลี่ยนอย่างไรดี คาดว่ายังมิทันได้ตรวจสอบว่าได้ผลหรือไม่ จึงมิทันได้รายงานต่อฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!”

เมื่อองค์ชายเว่ยได้ยินว่าหลี่ว์เซียงกำลังช่วยพูดให้เซียวหลินเทียน เขาก็โกรธมาก

ตาเฒ่าผู้นี้ ต่อต้านตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า เขาคงคิดว่าชีวิตยืนยาวเกินไปจริง ๆ กระมัง!