หลิงอวี๋เดินออกจากเรือนของเซียวหลินเทียน และยังรู้สึกแน่นหน้าอกเล็กน้อย นางไม่รู้ว่าตัวเองกำลังโมโหเรื่องอันใด
นางรีบรุดกลับเรือนบุหงา เนื่องรู้สึกว่าความโกรธของตัวเองช่างแปลกประหลาดนัก
“ท่านแม่ ผู้ใดแหย่ท่านโกรธขอรับ? หรือว่าเจ้าคนหลายใจนั่นตำหนิท่านอีกแล้ว?”
หลิงเยวี่ยมองมารดาเดินเข้ามาหน้าบึ้ง พลันเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
เจ้าคนหลายใจ?
จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกขบขันทันที คำนี้นางด่าเซียวหลินเทียนแล้วหลิงเยวี่ยได้ยินก็เรียนรู้แล้วเอามาพูด เมื่อได้เอ่ยแล้วก็รู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูก
เมื่อหลิงอวี๋เห็นดวงตากลมโตของหลิงเยวี่ยกะพริบ ความโกรธก็มลายหาย
นางบีบหน้าเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ยพลางยิ้มตอบว่า “เขามิได้ตำหนิแม่! และแม่ก็มิได้โกรธด้วย!”
“แต่ปากของท่านแม่เมื่อตะกี้เบะจนแขวนตะเกียงได้แล้วนะขอรับ!”
หลิงเยวี่ยกล่าวเสียงหวานไร้เดียงสา “มิใช่ว่าท่านแม่สอนเยวี่ยเยวี่ยห้ามพูดปดหรือ? ไม่เช่นนั้ยจมูกจะยาว!”
หลิงอวี๋หัวเราะฮ่าฮ่า นี่เป็นนิทานพินอคคิโอที่นางเล่าให้หลิงเยวี่ยฟังในคืนหนึ่ง คิดไม่ถึงเลยว่า หลิงเยวี่ยจะความจำดีขนาดนี้!
“ท่านแม่ไม่ได้โกหก! ดูสิ จมูกท่านไม่ได้ยาว! พิสูจน์ว่าท่านแม่พูดความจริง!”
หลิงอวี๋ก้มลงใช้จมูกแตะจมูกน้อย ๆ ของหลิงเยวี่ยพลางเบิกตากว้างกล่าวอย่างไร้ความผิด
“ดูสิ ยาวหรือไม่!”
หลิงเยวี่ยมองจมูกของหลิงอวี๋อย่างถี่ถ้วนจริง ๆ แล้วเอ่ยอย่างเคืองใจว่า “ไม่ยาวขอรับ! ท่านแม่มิได้พูดปด!”
หลิงอวี๋รู้สึกว่าหลิงเยวี่ยน่ารักยิ่ง ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเซียวหลินเทียนเจ้าคนหลายใจนั่นคิดอะไรอยู่
เด็กที่น่ารักน่าชังขนาดนี้ ไยใจดำผลักไสเขาครั้งแล้วครั้งเล่าได้ลงคอ!
“เยวี่ยเยวี่ย ได้เวลาบน้ำแล้วเจ้าค่ะ!” หลิงซินถือน้ำร้อนเข้ามาพลางร้องทัก
หลิงเยวี่ยส่งเสียงดีใจแล้ววิ่งตามหลิงซินเข้าห้อง
อย่างไรเสียก็เป็นเด็กชอบเล่นน้ำ เรื่องที่หลิงเยวี่ยมีความสุขที่สุดคือการอาบน้ำ
หลิงอวี๋ยิ้มพลางส่ายศีรษะ เพิ่งคิดเข้าห้องก็พบแม่นมลี่เดินมาจากข้างนอกในทันใด
“คุณหนู… บ่าวเพิ่งไปหาช่างเมื่อครู่ ก็ได้ยินข่าวหนึ่งมาเจ้าค่ะ...”
แม่นมลี่เดินมาท่าทีลึกลับ ก่อนจะกล่าวเสียงแผ่วว่า “พระชายาผิงหยางแขวนคอตายแล้วเจ้าค่ะ!”
“หา!” หลิงอวี๋ตะลึงครู่หนึ่งพลันรีบเอ่ยถาม “เกิดขึ้นเมื่อใด?”
“ได้ยินมาว่า ท่านอ๋องผิงหยางหย่ากับพระชายาผิงหยางเมื่อวาน พอหลังเสด็จออกวังหลวงก็ส่งพระชายาผิงหยางกลับเรือนฝ่ายหญิงเจ้าค่ะ!”
“วันนี้นางรับใช้เรือนฝ่ายหญิงยกน้ำมาให้ ครั้นเข้าประตูก็พบว่า นางห้อยอยู่บนคานเรือนแล้วเจ้าค่ะ!”
แม่นมลี่ได้ยินจากปากหลิงซินแล้ว เรื่องชายาผิงหยางเกือบทำให้หลิงอวี๋ถูกตัดหัวในงานเลี้ยงวังหลวง
นางส่งเสียงเฮอะอย่างแรงพลางกล่าวคำ “นี่นางสบายไปแล้วจริง ๆ ! ตายแล้วปัญหานับร้อยก็จบน่ะสิ!”
“แต่น้องสาวนางที่เพิ่งเป็นหญิงปักปิ่นก็ถูกนางพัวพันไปด้วยเจ้าค่ะ!”
“หมายความว่าอยางไร?” หลิงอวี๋แปลกใจ
แม่นมลี่ถอนหายใจพลางตอบว่า “บ่าวได้ยินมาว่า ท่านอ๋องผิงหยางเก็บบุตรนอกสมรสผู้นั้นไว้ แม้ว่าพระชายาผิงหยางจะทำผิดต่อเขา แต่เด็กก็เลี้ยงมาแล้วหลายปีเพียงนี้ ขนาดเลี้ยงสุนัขยังรู้สึกผูกพันนับประสาอะไรกับคน!”
“พระชายาผิงหยางใช้การตายมาขอโทษ ท่านอ๋องผิงหยางทรงเห็นแก่ความสัมพันธ์สามีภรรยานับหลายปีจึงเมตตาอภัยนาง ยินดีรับเลี้ยงลูกชายนางเป็นบุตรบุญธรรม!”
“ครอบครัวฝั่งพระชายาผิงหยางเพื่อขอบคุณพระคุณใหญ่หลวงของท่านอ๋องผิงหยางจึงยกลูกอนุออกเรือนกับท่านอ๋องผิงหยางเป็นสมรสใหม่!”
“เมื่อลูกอนุผู้นั้นได้ยินเรื่องแต่งงาน จึงถูกบังคับให้ถอนหมั้น!”
“อา ช่างสร้างเวรสร้างกรรมนัก! ออกเรือนกับท่านอ๋องผิงหยาง มิใช่ว่าพังไปชั่วชีวิตรึ?”
หลิงอวี๋ชะงักงัน นางไม่คิดเลยว่า ชายาผิงหยางจะผูกคอตาย!
หากตอนนั้นมิใช่เพราะชายาผิงหยางกัดตนไม่ปล่อยราวกับสุนัขบ้า นางคงไม่เอ่ยถึงเรื่องบุตรชายของชายาผิงหยางว่าเป็นลูกนอกสมรสหรอก
เวลานี้ชายาผิงหยางตายแล้ว ได้พัวพันถึงลูกอนุคนนั้นต้องถอนหมั้นการแต่งงานของตนเพื่อออกเรือนใหม่กับท่องอ๋องผิงหยาง นี่ไม่ถือว่าทำลายสตรีไร้ความผิดผู้หนึ่งทั้งชีวิตหรอกหรือ?
หลิงอวี๋แอบรู้สึกหนักใจประปราย นางรู้ว่าไม่ใช่ความผิดตน แต่กลับมิอาจปล่อยวางได้เสียอย่างนั้น
“คุณหนู นี่ไม่อาจโทษท่านได้นะเจ้าคะ! ท่านอย่าคิดมากเลย!”
ครั้นแม่นมลี่เห็นหลิงอวี๋ไม่สบายใจก็แอบตำหนิปากตัวเอง ก่อนนางจะพูดปลอบใจว่า
“การผูกคอตายของพระชายาผิงหยางหาใช่เพราะเรื่องหย่าร้างทั้งหมดไม่ เล่าลือว่านางขโมยเงินเก็บทั้งหมดของท่านอ๋องผิงหยางไปเล่นที่บ่อนพนัน เสียไปสองหมื่นตำลึงเจ้าค่ะ!”
“ก่อนหน้าพระชายาผิงหยางขโมยเงินท่านอ๋องผิงหยางซื้ออาภรณ์ ของกำนัลเพื่อเข้าร่วมงานเฉลิมฉลองพระราชสมภพในวังหลวง”
“เมื่อพระชายาผิงหยางหย่าร้างคราวนี้ เป็นท่านอ๋องผิงหยางบีบคั้นครอบครัวนางคืนเงิน เดาว่าความจริงนางจ่ายคืนไม่ไหวจึงสิ้นหนทางผูกคอตัวเองตาย!”
“มิฉะนั้น ด้วยนิสัยรักตัวกลัวตายประเภทนั้นของนาง ไยจะผูกคอตายได้เล่าเจ้าคะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...