หลิงอวี๋ได้ยินเซียวหลินเทียนพูดเช่นนี้ก็โล่งอก นางนึกถึงนิทานสุภาษิตเรื่องน้ำอุ่นต้มกบขึ้นมาได้จึงเล่าให้เซียวหลินเทียนฟัง
เซียวหลินเทียนฟังจบก็หัวเราะออกมา “นิทานสุภาษิตเรื่องนี้ดีนะ ข้าจะใช้นิทานสุภาษิตที่เจ้าเล่าให้ฟังนี้ทำให้พวกเขาเป็นเหมือนกบต้มไปเสีย!”
สายตาของเซียวหลินเทียนเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น จะเป็นการค่อย ๆ ให้มันเป็นไปโดยมิทันรู้ตัวก็ดี หรือจะใช้ไม้แข็งควบคุมก็ดี เขาจะต้องเป็นจักรพรรดิที่ปรีชาชาญ มิกลัวความท้าทายและภัยคุกคามเหล่านี้
หลิงอวี๋พูดแค่ถึงจุดนี้ก็มิสนใจในเรื่องนี้แล้ว
ส่วนเซียวหลินเทียนเมื่อถูกหลิงอวี๋พูดอย่างจริงใจเช่นนี้ก็พบว่าตนยังขาดความรู้อีกมาก
หลังจากผ่านช่วงปีใหม่มาก็ใกล้จะเป็นช่วงวสันตฤดูแล้ว เขาต้องรีบทำให้แผนการเปลี่ยนแปลงที่ดินเป็นจริงก่อนวสันตฤดู แม้ว่าจะสามารถดำเนินการให้เป็นจริงได้ทั้งแคว้น แต่ก็ต้องทำให้ที่ดินสองในสามของแคว้นสามารถเพาะปลูกพืชผลให้ได้ในช่วงวสันตฤดู
เซียวหลินเทียนมิได้รีบร้อนเอ่ยเรื่องนี้ เขากำลังรอโอกาสอยู่
ผ่านไปสองสามวัน รายงานด่วนฉบับแรกของอันเจ๋อก็ส่งกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว
เซียวหลินเทียนเปิดอ่านจนจบสีหน้าก็อึมครึม
อันเจ๋อส่งสายลับสองสามคนไปที่ตรวจสอบเรื่องการจลาจลก่อน
สายลับสองสามคนนั้นแยกทางกันไป แบ่งเป็นมุ่งหน้าไปสืบข่าวที่เจิ้งโจว สิงหยางและอีกสองสามเมืองที่ถูกพวกอันธพานยึดครองไว้
ผลก็คือ ยืนยันแล้วว่าพวกอันธพาลเหล่านี้เดิมทีมิใช่โจรพเนจร แต่เป็นราษฎรและเกษตรกรผู้เช่าที่อยู่เขตใกล้ ๆ
ผู้ที่เป็นผู้นำในการก่อเรื่องในตอนแรกคือเฉาเฉียงเกตรกรผู้เช่าของเกาต้าหู้ที่เขตสิงหยาง
ปีนี้เฉาเฉียงอายุสามสิบ เป็นชายกำยำ ออกมาจากกองทัพสิบกว่าปีแล้ว ทำไปจนถึงตำแหน่งนายทหาร แต่เพราะนิสัยที่ชื่อตรงถูกเจ้านายละเว้น จึงมิสามารถเลื่อนขั้นสูงขึ้นได้อีก
สองสามปีก่อนเฉาเฉียงไปรบและถูกศัตรูทำร้ายจนตาบอดข้างหนึ่งจึงได้ปลดประจำการแล้วกลับบ้านเกิดไปทำงานเพาะปลูก
ว่ากันตามเหตุผลแล้วเฉาเฉียงมีร่างกายแข็งที่แกร่ง แม้ว่าจะตาบอดไปข้างหนึ่งแต่ก็สามารถใช้กำลังของตนมาหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวได้
แต่ตระกูลเฉามีสมาชิกอยู่เป็นจำนวนมาก ที่เพาะปลูกที่ได้รับการแบ่งมาก็มิเพียงพอต่อการเลี้ยงชีพ
เขาตามไปที่บ้านของเกาต้าหู้ ผลปรากฏว่าเกาต้าหู้โยนศพของน้องสาวที่ถูกทรมานจนตายทิ้งไปแล้ว
เฉาเฉียงมิยอมจึงไปฟ้องร้องที่จวนขุนนาง
ภรรยาของหวางหมิงที่เป็นผู้ว่าการอำเภอเขตสิงหยางเป็นลูกสาวตระกูลเกา เฉาเฉียงจึงฟ้องร้องมิชนะ ทั้งยังถูกหวางหมิงคุมตัวในความผิดที่ไม่มีมูลรอการลงโทษประหาร
เฉาเฉียงอยู่ในคุกก็ยังคงขอร้องคนนั้นคนนี้ไปทั่วให้ช่วยฟ้องร้องให้ตน ไหนเลยจะคิดว่า เกาต้าหู้จะสั่งให้คนไปเอาศพของน้องสาวกลับไปที่ตระกูลเฉา ทั้งยังข่มขู่พ่อเฉาว่าหากมิดูแลลูกชายที่เหลือให้ดี ทั้งตระกูลจะต้องมีจุดจบเช่นนี้
แม่เฉาเห็นศพของลูกสาวถูกทำร้ายก็โกรธจนสิ้นใจในคืนนั้น
พ่อเฉาเห็นว่าภรรยาและลูกสาวตายไปหมดแล้ว ลูกชายก็จะต้องถูกประหารเช่นกัน เลือดจึงพลุ่งพล่านไปรวบรวมชาวบ้านที่ถูกเกาต้าหู้กดขี่แล้วบุกไปที่ว่าการอำเภอ
พวกเขาใช้โอกาสกลางดึกที่เงียบสงัดสังหารนักการที่เฝ้ายามอยู่แล้วช่วยเฉาเฉียงออกมา
พวกเฉาเฉียงสังหารนักการไปก็รู้ตัวว่ายากที่จะหนีพ้นจากความตายจึงขึ้นเขาไปเป็นโจรพเนจร...

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...