หลิงอวี๋คิดไปพลางเอ่ยอย่างทำเหมือนดีใจ "เช่นนั้นก็ดีเลย! เจ้ารีบส่งพวกแม่นมกับนางรับใช้ไปช่วยข้าตามหาสิ! หากเจอเยวี่ยเยวี่ย ข้าจะขอบคุณพวกเจ้ามาก ๆ เลย!"
เมื่อได้ยินหลิงอวี๋ใช้งานตนเองอย่างไม่เกรงใจ มุมปากของชิวเหวินซวงก็ยกยิ้มดูถูก แสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างลำบากใจ
“พระชายา ข้าปากไวเอง! เรื่องที่เฮยจื่อหายตัวไปนั้น ท่านอ๋องโกรธมาก! เขาเพิ่งออกคำสั่งเมื่อเช้านี้ ว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา คนรับใช้ในตำหนักจะไม่สามารถเข้าหรือออกจากตำหนักได้ตามอำเภอใจ!”
“หากท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อน ข้าจึงจะสามารถช่วยท่านได้!”
"แต่ท่านอ๋องไม่อยู่ ข้าก็ไม่สามารถตัดสินใจส่งคนไปกับท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ ข้าต้องขอโทษจริง ๆ!"
ปากว่าตาขยิบ!
ตอนนี้หลิงอวี๋มั่นใจมากกว่า
ชิวเหวินซวงแม่ดอกบัวขาวผู้นี้กำลังหยอกล้อตนเองอยู่!
หลิงอวี๋ยิ้มเรียบ ๆ จู่ ๆ ก็พุ่งเข้าไปหาชิวเหวินซวง และกัดฟันเอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง
“ชิวเหวินซวง เจ้าเป็นคนส่งคนมาจับเยวี่ยเยวี่ยไปใช่หรือไม่?”
หลิงอวี๋พูดพลางมองตาของชิวเหวินซวงไปด้วย เมื่อเห็นแววตาของนางเคร่งเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัวตอนที่เอ่ยถึงการจับตัวไป หัวใจของหลิงอวี๋ก็เต้นเร็วขึ้น
ปากคนโกหกได้ แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวนั้นไม่สามารถหลอกใครได้!
หลิงอวี๋มั่นใจในการสันนิษฐานของตนแล้ว
เยวี่ยเยวี่ยจะต้องถูกชิวเหวินซวงจับตัวไปอย่างแน่นอน!
แต่ชิวเหวินซวงก็กลับมาเป็นปกติในชั่วพริบตา พลางเอ่ยอย่างคับข้องใจ "พระชายา ข้าเข้าใจว่าท่านร้อนใจที่เยวี่ยเยวี่ยหายตัวไป!"
“แต่ท่านก็ไม่สามารถกล่าวหาคนอื่นไปเรื่อยได้ใช่หรือไม่? เยวี่ยเยวี่ยกับข้ามิได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน เหตุใดข้าต้องจับตัวเขาไปด้วยเล่า?”
“พระชายาควรคิดให้ดี ๆ ว่าท่านไปทำให้ใครขุ่นเคืองหรือไม่! เขาจึงได้แค้นท่านแล้วจับตัวเยวี่ยเยวี่ยไป!”
“จริงสิ จะเป็นท่านอ๋องผิงหยางหรือไม่? วันนั้นท่านพูดในงานเลี้ยงวันเกิดว่าลูกชายของเขาเป็นลูกชู้ จนทำให้พระชายาผิงหยางต้องแขวนคอตาย! บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เขามาแก้แค้นนะเจ้าคะ?”
หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ "เจ้าอย่าได้แว้งกัดคนอื่นเลย! ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า! ข้าจะต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้!"
ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่างเสียใจ "พระชายา เหวินซวงเพียงแค่มีใจอยากช่วยเหลือท่าน ท่านไม่เห็นค่าก็พอจะช่างมันไปได้ แต่ท่านก็ไม่สามารถใส่ร้ายข้าได้นี่เจ้าคะ?"
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบหน้าข้า แต่การหายตัวไปของเยวี่ยเยวี่ยมันเป็นเรื่องใหญ่ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะประชันขันแข่งกัน ท่านกับข้าควรทำงานร่วมกันเร่งตามหาเยวี่ยเยวี่ยนะเจ้าคะ”
“เอาเช่นนี้แล้วกัน! ข้าจะส่งคนไปตามหาท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องมีวิธีตามหาเยวี่ยเยวี่ยเป็นแน่!”
พูดจบ ชิวเหวินซวงก็เดินออกไปอย่างช้า ๆ
หลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งเกลียด แต่ก่อนที่นางจะพบหลิงเยวี่ย แม้ว่านางจะรู้ว่าเป็นชิวเหวินซวงที่เป็นคนทำ ก็ทำอะไรชิวเหวินซวงไม่ได้เลย!
นางกลัวว่าถ้าไปกดดันชิวเหวินซวงเกินไป พวกที่ร่วมมือกับชิวเหวินซวงจะทรมาน หรือแม้แต่ฆ่าหลิงเยวี่ยไปก็เป็นได้!
เมื่อนึกถึงหลิงเยวี่ยตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกลักพาตัวผู้โหดร้าย ภาพเลวร้ายบางอย่างก็แวบขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋
เยวี่ยเยวี่ยยังเด็กมากถึงเพียงนั้น พวกลักพาตัวจะทำท่าทางดุร้ายให้เขาหวาดกลัวหรือไม่?
จะตีเขาหรือไม่?
จะตัดมือตัดเท้าเขา แล้วบังคับให้เป็นขอทานเหมือนพวกค้ามนุษย์ไร้ยางอายในยุคปัจจุบันหรือไม่?
หลิงอวี๋ส่ายหัวอย่างแรง หยุดความคิดเหลวไหลของตน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตนเองหวาดกลัว
นางจ้องมองทิศทางที่ชิวเหวินซวงเดินไปอย่างเกลียดชัง
ชิวเหวินซวง เจ้ารอข้าก่อนเถิด ข้าจะต้องช่วยเหลือเยวี่ยเยวี่ยออกมาให้ได้!
หากเจ้ากล้าแตะต้องแม้เส้นผมของลูกชายข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!
หลิงอวี๋นั่งอยู่บนบันไดหิน ในสมองของนางว้าวุ่นอยู่ตลอด หากจะแตะต้องชิวเหวินซวงก็ต้องไปโน้มน้าวเซียวหลินเทียน
มิฉะนั้นเซียวหลินเทียนจะปกป้องพี่น้องตระกูลชิว หากเขาลำเอียงไปทางชิวเหวินซวง ตนจะยิ่งทำอะไรชิวเหวินซวงไม่ได้!
หลังจากนั่งอยู่สักพัก ในที่สุดหลิงอวี๋ก็เห็นพวกของเซียวหลินเทียนปรากฏตัวที่สุดถนน
นางเห็นว่ารอบ ๆ ยังมีคนรับใช้บางส่วนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ จึงหยุดความคิดและรีบก้าวเข้าไปหา
กระทั่งเซียวหลินเทียนมาถึงเรือนริมวารี หลิงอวี๋ถึงได้ก้าวเข้าไปพลางเอ่ย
“เซียวหลินเทียน ข้ามีเรื่องต้องการให้เจ้าช่วย! เราเข้าไปคุยกัน!”
พูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินเข้าไปในห้องของเซียวหลินเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง
แต่ใครจะรู้ว่าเซียวหลินเทียนจะมองนางด้วยสีหน้าบึ้งตึง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ลู่หนาน เข็นข้าไปที่ห้องตำรา!"
ลู่หนานทำได้เพียงเปลี่ยนทิศทาง เข็นเซียวหลินเทียนไปที่ห้องตำรา
ขณะที่หลิงอวี๋คิดจะตามเข้าไป ก็ถูกลู่หนานขวางประตูไว้
“พระชายา กรุณารออยู่ข้างนอกขอรับ!”
หลิงอวี๋เข้าไปไม่ได้ นางจึงยืนอยู่ที่ประตูแล้วตะโกนอย่างร้อนใจ
“เซียวหลินเทียน เยวี่ยเยวี่ยหายตัวไป! ข้าสงสัย... ข้าอยากคุยกับเจ้าตามลำพัง!”
หลิงอวี๋เพิ่งพูดคำว่าสงสัยออกไป ก็เห็นชิวเหวินซวงเดินเข้ามา นางจึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูดอย่างจนใจ
เซียวหลินเทียนไม่ได้พูดอะไร หลิงอวี๋มองไปเห็นเขานั่งอยู่บนโต๊ะกำลังเขียนอะไรบางอย่าง
นางกังวลมาก นี่มันเวลาไหนแล้ว เซียวหลินเทียนยังมีกะจิตกะใจที่จะเขียนอะไรอีก!
ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เซียวหลินเทียนเข็นรถมาหา
“หลิงอวี๋ รับจดหมายหย่าร้างไป แล้วก่อนมืดก็พาคนของเจ้าไสหัวออกไปจากตำหนักอ๋องอี้เสีย!”
เซียวหลินเทียนไม่รอให้หลิงอวี๋ได้พูดอะไร ก็โยนจดหมายหย่าไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“การจะแยกทางกันต้องให้ท่านพ่ออนุญาต! แต่จดหมายหย่าร้างนั้นไม่ต้อง! วันนี้ข้าตัดสินใจจะหย่าร้างกับเจ้า… คนชั้นต่ำที่ใจง่ายเช่นนี้!”
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา
หลิงอวี๋ตกตะลึงทันที หัวใจจมดิ่งลง
นางไม่รังเกียจที่จะแยกทางกับเซียวหลินเทียน ไม่ว่าจะแยกกันอยู่หรือหย่าร้างกัน สำหรับนางแล้วจะอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว
แต่จดหมายหย่าร้างที่เซียวหลินเทียนให้นางในเวลานี้ มันไม่มีทางที่จะไม่มีสาเหตุใด ๆ !
หรือว่า...
ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าเซียวหลินเทียนออกไปตามหาเฮยจื่อ!
หรือว่าเซียวหลินเทียนพบศพเฮยจื่อ?
มิฉะนั้นเซียวหลินเทียนไม่มีทางที่จะอารมณ์เสียมากถึงเพียงนี้!
“เซียวหลินเทียน… เฮยจื่อ… เฮยจื่อตายแล้วหรือ?”
หลิงอวี๋เอ่ยถามเสียงสั่นเทา เวลานี้นางนึกถึงหลิงเยวี่ย!
หากคนที่ลักพาตัวเฮยจื่อและหลิงเยวี่ยไปเป็นพวกเดียวกัน หากเฮยจื่อตายแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลิงเยวี่ยมีชีวิตอยู่หรอก!
“หลิงอวี๋ เจ้าออกไปเสีย! หากเจ้ายังกล้าสาปแช่งเฮยจื่ออีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
เซียวหลินเทียนตามหาทั้งวันก็ไม่พบเฮยจื่อ เขากังวลยิ่ง
เฮยจื่อหายตัวไป หลิงอวี๋ไม่ช่วยเขาตามหาก็ช่าง แต่ยังจะมีอารมณ์ออกไปนัดพับกับฉินซานอีก
ตอนนี้กลับมาสาปแช่งเฮยจื่อให้ตายอย่างโหดร้ายอีก!
เซียวหลินเทียนใจเย็นไม่ได้อีกต่อไป และไม่สามารถควบคุมความโกรธของตนเองได้อีก
เขาชี้ไปที่ประตู พลางตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว "หลิงอวี๋ ผู้หญิงร้ายกาจเยี่ยงเจ้า หากไม่อยากให้ข้าไล่เจ้าออกไป ก็ออกไปเองเสีย!"
“เซียวหลินเทียน เฮยจื่อยังไม่ตายใช่หรือไม่?”
หลิงอวี๋จับประเด็นสำคัญในคำพูดของเซียวหลินเทียน แล้วดวงตาเป็นประกาย พลางเอ่ยเสียงดัง
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้าใจผิดอะไร! เซียวหลินเทียน เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดเมื่อครู่หรือ? หลิงเยวี่ยก็หายตัวไปเช่นกัน!”
“เซียวหลินเทียน ลองคิดดูให้ดี ๆ หลิงเยวี่ยคือลูกชายของข้า หากข้าเป็นคนลักพาตัวเฮยจื่อไปจริง ๆ เหตุใดข้าถึงต้องเอาตัวลูกชายของตัวเองไปด้วยเล่า?”
“หากไม่ใช่ข้าที่เป็นคนทำ เช่นนั้นแสดงว่ามันเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่ทำ! ขอเพียงเราหาเยวี่ยเยวี่ยพบ เราก็จะพบเฮยจื่อด้วย!”
เมื่อครู่เซียวหลินเทียนโกรธมากจนไม่ได้ยินสิ่งที่หลิงอวี๋พูด ตอนนี้ได้ยินเข้า ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเยวี่ยก็หายตัวไปด้วยหรือ?
“เซียวหลินเทียน เจ้าคิดดูสิ ใครกันที่จะลักพาตัวเยวี่ยเยวี่ยและเฮยจื่อไปในเวลาเดียวกัน ผู้นั้นต้องการผลประโยชน์อันใด?”
หลิงอวี๋พูดไปก็มองไปที่ชิวเหวินซวงไปด้วย
แต่ชิวเหวินซวงกลับเอ่ยอย่างเรียบเฉย "ท่านอ๋อง พระชายาพูดถูกเพคะ บางทีศัตรูของพวกท่านอาจลักพาตัวเด็กทั้งสองไปก็ได้!"
“ท่านอ๋อง รีบส่งคนไปค้นหาให้ทั่วเถิดเพคะะ ส่งคนไปสกัดกั้นที่ประตูเมืองไว้ด้วย อย่าปล่อยให้พวกเขาส่งตัวเยวี่ยเยวี่ยกับเฮยจื่อออกจากเมืองไป เช่นนั้นมันจะยากที่จะพบพวกเขานะเพคะ!”
“เซียวหลินเทียน ฉินซานส่งคนไปสกัดกั้นประตูเมืองแล้ว! เจ้าคุ้นเคยกับคนจากทางการ เจ้าช่วยส่งคนไปขอให้คนจากทางการให้ช่วยออกหน้าค้นหาในเมืองหลวงได้หรือไม่?”
“หรือขอให้ทางการประกาศเสนอรางวัลก้อนโต ข้าจะเสนอรางวัลห้าหมื่น ระดมทุกคนมาช่วยตามหาเยวี่ยเยวี่ย!”
หลิงอวี๋พูดได้อย่างคล่องปาก ลืมไปว่าเซียวหลินเทียนยังคงสงสัยในตัวตนของหลิงเยวี่ยอยู่ จึงพูดถึงฉินซานอย่างเผลอตัว
คำว่าฉินซานทำให้เซียวหลินเทียนนึกถึงเรื่องที่เขาเห็นหลิงอวี๋กับฉินซานเข้าไปในตรอกอย่างใกล้ชิดกับตาของตัวเอง ความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นอย่างแปลกประหลาด
ร่องรอยของความสงสัยเข้ามาในใจ ฉินซานกระตือรือร้นในการช่วยหลิงอวี๋ตามหาลูกถึงเพียงนั้น หรือว่าหลิงเยวี่ยจะเป็นลูกชายของฉินซานจริง ๆ?
หลิงอวี๋ยังเป็นหนี้เงินกู้อยู่ นางจะไปเอารางวัลห้าหมื่นมาจากที่ใดกัน?
หรือว่าเงินจำนวนนี้ฉินซานเป็นคนให้?
“เช่นนั้นความเป็นความตายของลูกชู้นั่นเกี่ยวอันใดกับข้า? หลิงอวี๋ ข้าจะไม่มีทางส่งคนไปช่วยเจ้า!”
ยิ่งเซียวหลินเทียนคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าการคาดเดาของตนเองถูกต้อง มองไปที่หลิงอวี๋ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา จึงตะคอกไปโดยไม่คิด
“ไสหัวไป! อย่าให้ข้าเห็นเจ้าอีก!”
ลูกชู้?
คำพูดทั้งหมดของหลิงอวี๋ถูกปิดกั้นด้วยคำนี้ นางจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างยากที่จะเชื่อ
มาถึงตอนนี้แล้ว เซียวหลินเทียนก็ยังคงสงสัยในตัวตนของหลิงเยวี่ยอีกหรือ?
เขารู้หรือไม่ว่าตัวเองกำลังพูดสิ่งใด?
ความโกรธของหลิงอวี๋ปะทุขึ้นทันที นางถูกหลิงเยี่ยนปฏิเสธและทำให้อับอาย นางไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ!
แต่การปฏิเสธของเซียวหลินเทียนกลับทำให้หลิงอวี๋ทนไม่ไหว
นางนึกขึ้นได้ทันทีว่าในระหว่างงานฉลองในวังหลวง ตอนที่นางกับหลิงเยวี่ยถูกผลักออกไปตัดสินประหารชีวิต เซียวหลินเทียนก็เฉยเมยไม่สนใจเช่นกัน!
หลิงอวี๋รู้สึกตัวชาอย่าถึงที่สุด แล้วตะคอกด้วยความโกรธ
“เซียวหลินเทียน ไอ้กีบเท้าหมู เจ้ามันเกินเยียวยาแล้ว!”
“คนไร้น้ำใจไร้คุณธรรมเช่นเจ้าไม่สมควรมีลูก! ข้าเสียใจที่ให้ตำรับยาเจ้าไป! คนเยี่ยงเจ้ามันควรที่จะสูญพันธ์ุไปเสีย!”
“ได้ หากเจ้าไม่ช่วยข้าตามหาเยวี่ยเยวี่ย ข้าจะทำเอง!”
“เซียวหลินเทียน ขอภาวนาขออย่าให้ชีวิตนี้เจ้ามีอะไรต้องมาขอร้องข้าเถอะ! ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้!”
พูดจบ หลิงอวี๋ก็หันหลังจากไปด้วยความโกรธ ลืมเอาจดหมายหย่าร้างไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...