ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 144

หลิงอวี๋คิดไปพลางเอ่ยอย่างทำเหมือนดีใจ "เช่นนั้นก็ดีเลย! เจ้ารีบส่งพวกแม่นมกับนางรับใช้ไปช่วยข้าตามหาสิ! หากเจอเยวี่ยเยวี่ย ข้าจะขอบคุณพวกเจ้ามาก ๆ เลย!"

เมื่อได้ยินหลิงอวี๋ใช้งานตนเองอย่างไม่เกรงใจ มุมปากของชิวเหวินซวงก็ยกยิ้มดูถูก แสร้งทำเป็นเอ่ยอย่างลำบากใจ

“พระชายา ข้าปากไวเอง! เรื่องที่เฮยจื่อหายตัวไปนั้น ท่านอ๋องโกรธมาก! เขาเพิ่งออกคำสั่งเมื่อเช้านี้ ว่าหากไม่ได้รับอนุญาตจากเขา คนรับใช้ในตำหนักจะไม่สามารถเข้าหรือออกจากตำหนักได้ตามอำเภอใจ!”

“หากท่านอ๋องอยู่ที่นี่ ก็ต้องได้รับอนุญาตจากเขาก่อน ข้าจึงจะสามารถช่วยท่านได้!”

"แต่ท่านอ๋องไม่อยู่ ข้าก็ไม่สามารถตัดสินใจส่งคนไปกับท่านโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ ข้าต้องขอโทษจริง ๆ!"

ปากว่าตาขยิบ!

ตอนนี้หลิงอวี๋มั่นใจมากกว่า

ชิวเหวินซวงแม่ดอกบัวขาวผู้นี้กำลังหยอกล้อตนเองอยู่!

หลิงอวี๋ยิ้มเรียบ ๆ จู่ ๆ ก็พุ่งเข้าไปหาชิวเหวินซวง และกัดฟันเอ่ยออกมาประโยคหนึ่ง

“ชิวเหวินซวง เจ้าเป็นคนส่งคนมาจับเยวี่ยเยวี่ยไปใช่หรือไม่?”

หลิงอวี๋พูดพลางมองตาของชิวเหวินซวงไปด้วย เมื่อเห็นแววตาของนางเคร่งเครียดขึ้นโดยไม่รู้ตัวตอนที่เอ่ยถึงการจับตัวไป หัวใจของหลิงอวี๋ก็เต้นเร็วขึ้น

ปากคนโกหกได้ แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวนั้นไม่สามารถหลอกใครได้!

หลิงอวี๋มั่นใจในการสันนิษฐานของตนแล้ว

เยวี่ยเยวี่ยจะต้องถูกชิวเหวินซวงจับตัวไปอย่างแน่นอน!

แต่ชิวเหวินซวงก็กลับมาเป็นปกติในชั่วพริบตา พลางเอ่ยอย่างคับข้องใจ "พระชายา ข้าเข้าใจว่าท่านร้อนใจที่เยวี่ยเยวี่ยหายตัวไป!"

“แต่ท่านก็ไม่สามารถกล่าวหาคนอื่นไปเรื่อยได้ใช่หรือไม่? เยวี่ยเยวี่ยกับข้ามิได้เป็นศัตรูคู่แค้นกัน เหตุใดข้าต้องจับตัวเขาไปด้วยเล่า?”

“พระชายาควรคิดให้ดี ๆ ว่าท่านไปทำให้ใครขุ่นเคืองหรือไม่! เขาจึงได้แค้นท่านแล้วจับตัวเยวี่ยเยวี่ยไป!”

“จริงสิ จะเป็นท่านอ๋องผิงหยางหรือไม่? วันนั้นท่านพูดในงานเลี้ยงวันเกิดว่าลูกชายของเขาเป็นลูกชู้ จนทำให้พระชายาผิงหยางต้องแขวนคอตาย! บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เขามาแก้แค้นนะเจ้าคะ?”

หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ "เจ้าอย่าได้แว้งกัดคนอื่นเลย! ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า! ข้าจะต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้ได้!"

ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่างเสียใจ "พระชายา เหวินซวงเพียงแค่มีใจอยากช่วยเหลือท่าน ท่านไม่เห็นค่าก็พอจะช่างมันไปได้ แต่ท่านก็ไม่สามารถใส่ร้ายข้าได้นี่เจ้าคะ?"

“ข้ารู้ว่าท่านไม่ชอบหน้าข้า แต่การหายตัวไปของเยวี่ยเยวี่ยมันเป็นเรื่องใหญ่ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะประชันขันแข่งกัน ท่านกับข้าควรทำงานร่วมกันเร่งตามหาเยวี่ยเยวี่ยนะเจ้าคะ”

“เอาเช่นนี้แล้วกัน! ข้าจะส่งคนไปตามหาท่านอ๋อง ท่านอ๋องจะต้องมีวิธีตามหาเยวี่ยเยวี่ยเป็นแน่!”

พูดจบ ชิวเหวินซวงก็เดินออกไปอย่างช้า ๆ

หลิงอวี๋ทั้งโกรธทั้งเกลียด แต่ก่อนที่นางจะพบหลิงเยวี่ย แม้ว่านางจะรู้ว่าเป็นชิวเหวินซวงที่เป็นคนทำ ก็ทำอะไรชิวเหวินซวงไม่ได้เลย!

นางกลัวว่าถ้าไปกดดันชิวเหวินซวงเกินไป พวกที่ร่วมมือกับชิวเหวินซวงจะทรมาน หรือแม้แต่ฆ่าหลิงเยวี่ยไปก็เป็นได้!

เมื่อนึกถึงหลิงเยวี่ยตกไปอยู่ในเงื้อมมือของพวกลักพาตัวผู้โหดร้าย ภาพเลวร้ายบางอย่างก็แวบขึ้นมาในหัวของหลิงอวี๋

เยวี่ยเยวี่ยยังเด็กมากถึงเพียงนั้น พวกลักพาตัวจะทำท่าทางดุร้ายให้เขาหวาดกลัวหรือไม่?

จะตีเขาหรือไม่?

จะตัดมือตัดเท้าเขา แล้วบังคับให้เป็นขอทานเหมือนพวกค้ามนุษย์ไร้ยางอายในยุคปัจจุบันหรือไม่?

หลิงอวี๋ส่ายหัวอย่างแรง หยุดความคิดเหลวไหลของตน เพื่อเลี่ยงไม่ให้ตนเองหวาดกลัว

นางจ้องมองทิศทางที่ชิวเหวินซวงเดินไปอย่างเกลียดชัง

ชิวเหวินซวง เจ้ารอข้าก่อนเถิด ข้าจะต้องช่วยเหลือเยวี่ยเยวี่ยออกมาให้ได้!

หากเจ้ากล้าแตะต้องแม้เส้นผมของลูกชายข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!

หลิงอวี๋นั่งอยู่บนบันไดหิน ในสมองของนางว้าวุ่นอยู่ตลอด หากจะแตะต้องชิวเหวินซวงก็ต้องไปโน้มน้าวเซียวหลินเทียน

มิฉะนั้นเซียวหลินเทียนจะปกป้องพี่น้องตระกูลชิว หากเขาลำเอียงไปทางชิวเหวินซวง ตนจะยิ่งทำอะไรชิวเหวินซวงไม่ได้!

หลังจากนั่งอยู่สักพัก ในที่สุดหลิงอวี๋ก็เห็นพวกของเซียวหลินเทียนปรากฏตัวที่สุดถนน

นางเห็นว่ารอบ ๆ ยังมีคนรับใช้บางส่วนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่ จึงหยุดความคิดและรีบก้าวเข้าไปหา

กระทั่งเซียวหลินเทียนมาถึงเรือนริมวารี หลิงอวี๋ถึงได้ก้าวเข้าไปพลางเอ่ย

“เซียวหลินเทียน ข้ามีเรื่องต้องการให้เจ้าช่วย! เราเข้าไปคุยกัน!”

พูดจบ หลิงอวี๋ก็เดินเข้าไปในห้องของเซียวหลินเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง

แต่ใครจะรู้ว่าเซียวหลินเทียนจะมองนางด้วยสีหน้าบึ้งตึง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ลู่หนาน เข็นข้าไปที่ห้องตำรา!"

ลู่หนานทำได้เพียงเปลี่ยนทิศทาง เข็นเซียวหลินเทียนไปที่ห้องตำรา

ขณะที่หลิงอวี๋คิดจะตามเข้าไป ก็ถูกลู่หนานขวางประตูไว้

“พระชายา กรุณารออยู่ข้างนอกขอรับ!”

หลิงอวี๋เข้าไปไม่ได้ นางจึงยืนอยู่ที่ประตูแล้วตะโกนอย่างร้อนใจ

“เซียวหลินเทียน เยวี่ยเยวี่ยหายตัวไป! ข้าสงสัย... ข้าอยากคุยกับเจ้าตามลำพัง!”

หลิงอวี๋เพิ่งพูดคำว่าสงสัยออกไป ก็เห็นชิวเหวินซวงเดินเข้ามา นางจึงทำได้เพียงเปลี่ยนคำพูดอย่างจนใจ

เซียวหลินเทียนไม่ได้พูดอะไร หลิงอวี๋มองไปเห็นเขานั่งอยู่บนโต๊ะกำลังเขียนอะไรบางอย่าง

นางกังวลมาก นี่มันเวลาไหนแล้ว เซียวหลินเทียนยังมีกะจิตกะใจที่จะเขียนอะไรอีก!

ขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เซียวหลินเทียนเข็นรถมาหา

“หลิงอวี๋ รับจดหมายหย่าร้างไป แล้วก่อนมืดก็พาคนของเจ้าไสหัวออกไปจากตำหนักอ๋องอี้เสีย!”

เซียวหลินเทียนไม่รอให้หลิงอวี๋ได้พูดอะไร ก็โยนจดหมายหย่าไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“การจะแยกทางกันต้องให้ท่านพ่ออนุญาต! แต่จดหมายหย่าร้างนั้นไม่ต้อง! วันนี้ข้าตัดสินใจจะหย่าร้างกับเจ้า… คนชั้นต่ำที่ใจง่ายเช่นนี้!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเย็นชา

หลิงอวี๋ตกตะลึงทันที หัวใจจมดิ่งลง

นางไม่รังเกียจที่จะแยกทางกับเซียวหลินเทียน ไม่ว่าจะแยกกันอยู่หรือหย่าร้างกัน สำหรับนางแล้วจะอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว

แต่จดหมายหย่าร้างที่เซียวหลินเทียนให้นางในเวลานี้ มันไม่มีทางที่จะไม่มีสาเหตุใด ๆ !

หรือว่า...

ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าเซียวหลินเทียนออกไปตามหาเฮยจื่อ!

หรือว่าเซียวหลินเทียนพบศพเฮยจื่อ?

มิฉะนั้นเซียวหลินเทียนไม่มีทางที่จะอารมณ์เสียมากถึงเพียงนี้!

“เซียวหลินเทียน… เฮยจื่อ… เฮยจื่อตายแล้วหรือ?”

หลิงอวี๋เอ่ยถามเสียงสั่นเทา เวลานี้นางนึกถึงหลิงเยวี่ย!

หากคนที่ลักพาตัวเฮยจื่อและหลิงเยวี่ยไปเป็นพวกเดียวกัน หากเฮยจื่อตายแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะปล่อยให้หลิงเยวี่ยมีชีวิตอยู่หรอก!

“หลิงอวี๋ เจ้าออกไปเสีย! หากเจ้ายังกล้าสาปแช่งเฮยจื่ออีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”

เซียวหลินเทียนตามหาทั้งวันก็ไม่พบเฮยจื่อ เขากังวลยิ่ง

เฮยจื่อหายตัวไป หลิงอวี๋ไม่ช่วยเขาตามหาก็ช่าง แต่ยังจะมีอารมณ์ออกไปนัดพับกับฉินซานอีก

ตอนนี้กลับมาสาปแช่งเฮยจื่อให้ตายอย่างโหดร้ายอีก!

เซียวหลินเทียนใจเย็นไม่ได้อีกต่อไป และไม่สามารถควบคุมความโกรธของตนเองได้อีก

เขาชี้ไปที่ประตู พลางตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว "หลิงอวี๋ ผู้หญิงร้ายกาจเยี่ยงเจ้า หากไม่อยากให้ข้าไล่เจ้าออกไป ก็ออกไปเองเสีย!"

“เซียวหลินเทียน เฮยจื่อยังไม่ตายใช่หรือไม่?”

หลิงอวี๋จับประเด็นสำคัญในคำพูดของเซียวหลินเทียน แล้วดวงตาเป็นประกาย พลางเอ่ยเสียงดัง

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเข้าใจผิดอะไร! เซียวหลินเทียน เจ้าไม่ได้ยินที่ข้าพูดเมื่อครู่หรือ? หลิงเยวี่ยก็หายตัวไปเช่นกัน!”

“เซียวหลินเทียน ลองคิดดูให้ดี ๆ หลิงเยวี่ยคือลูกชายของข้า หากข้าเป็นคนลักพาตัวเฮยจื่อไปจริง ๆ เหตุใดข้าถึงต้องเอาตัวลูกชายของตัวเองไปด้วยเล่า?”

“หากไม่ใช่ข้าที่เป็นคนทำ เช่นนั้นแสดงว่ามันเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่ทำ! ขอเพียงเราหาเยวี่ยเยวี่ยพบ เราก็จะพบเฮยจื่อด้วย!”

เมื่อครู่เซียวหลินเทียนโกรธมากจนไม่ได้ยินสิ่งที่หลิงอวี๋พูด ตอนนี้ได้ยินเข้า ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลิงเยวี่ยก็หายตัวไปด้วยหรือ?

“เซียวหลินเทียน เจ้าคิดดูสิ ใครกันที่จะลักพาตัวเยวี่ยเยวี่ยและเฮยจื่อไปในเวลาเดียวกัน ผู้นั้นต้องการผลประโยชน์อันใด?”

หลิงอวี๋พูดไปก็มองไปที่ชิวเหวินซวงไปด้วย

แต่ชิวเหวินซวงกลับเอ่ยอย่างเรียบเฉย "ท่านอ๋อง พระชายาพูดถูกเพคะ บางทีศัตรูของพวกท่านอาจลักพาตัวเด็กทั้งสองไปก็ได้!"

“ท่านอ๋อง รีบส่งคนไปค้นหาให้ทั่วเถิดเพคะะ ส่งคนไปสกัดกั้นที่ประตูเมืองไว้ด้วย อย่าปล่อยให้พวกเขาส่งตัวเยวี่ยเยวี่ยกับเฮยจื่อออกจากเมืองไป เช่นนั้นมันจะยากที่จะพบพวกเขานะเพคะ!”

“เซียวหลินเทียน ฉินซานส่งคนไปสกัดกั้นประตูเมืองแล้ว! เจ้าคุ้นเคยกับคนจากทางการ เจ้าช่วยส่งคนไปขอให้คนจากทางการให้ช่วยออกหน้าค้นหาในเมืองหลวงได้หรือไม่?”

“หรือขอให้ทางการประกาศเสนอรางวัลก้อนโต ข้าจะเสนอรางวัลห้าหมื่น ระดมทุกคนมาช่วยตามหาเยวี่ยเยวี่ย!”

หลิงอวี๋พูดได้อย่างคล่องปาก ลืมไปว่าเซียวหลินเทียนยังคงสงสัยในตัวตนของหลิงเยวี่ยอยู่ จึงพูดถึงฉินซานอย่างเผลอตัว

คำว่าฉินซานทำให้เซียวหลินเทียนนึกถึงเรื่องที่เขาเห็นหลิงอวี๋กับฉินซานเข้าไปในตรอกอย่างใกล้ชิดกับตาของตัวเอง ความโกรธของเขาก็ปะทุขึ้นอย่างแปลกประหลาด

ร่องรอยของความสงสัยเข้ามาในใจ ฉินซานกระตือรือร้นในการช่วยหลิงอวี๋ตามหาลูกถึงเพียงนั้น หรือว่าหลิงเยวี่ยจะเป็นลูกชายของฉินซานจริง ๆ?

หลิงอวี๋ยังเป็นหนี้เงินกู้อยู่ นางจะไปเอารางวัลห้าหมื่นมาจากที่ใดกัน?

หรือว่าเงินจำนวนนี้ฉินซานเป็นคนให้?

“เช่นนั้นความเป็นความตายของลูกชู้นั่นเกี่ยวอันใดกับข้า? หลิงอวี๋ ข้าจะไม่มีทางส่งคนไปช่วยเจ้า!”

ยิ่งเซียวหลินเทียนคิดเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าการคาดเดาของตนเองถูกต้อง มองไปที่หลิงอวี๋ก็ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตา จึงตะคอกไปโดยไม่คิด

“ไสหัวไป! อย่าให้ข้าเห็นเจ้าอีก!”

ลูกชู้?

คำพูดทั้งหมดของหลิงอวี๋ถูกปิดกั้นด้วยคำนี้ นางจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างยากที่จะเชื่อ

มาถึงตอนนี้แล้ว เซียวหลินเทียนก็ยังคงสงสัยในตัวตนของหลิงเยวี่ยอีกหรือ?

เขารู้หรือไม่ว่าตัวเองกำลังพูดสิ่งใด?

ความโกรธของหลิงอวี๋ปะทุขึ้นทันที นางถูกหลิงเยี่ยนปฏิเสธและทำให้อับอาย นางไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ!

แต่การปฏิเสธของเซียวหลินเทียนกลับทำให้หลิงอวี๋ทนไม่ไหว

นางนึกขึ้นได้ทันทีว่าในระหว่างงานฉลองในวังหลวง ตอนที่นางกับหลิงเยวี่ยถูกผลักออกไปตัดสินประหารชีวิต เซียวหลินเทียนก็เฉยเมยไม่สนใจเช่นกัน!

หลิงอวี๋รู้สึกตัวชาอย่าถึงที่สุด แล้วตะคอกด้วยความโกรธ

“เซียวหลินเทียน ไอ้กีบเท้าหมู เจ้ามันเกินเยียวยาแล้ว!”

“คนไร้น้ำใจไร้คุณธรรมเช่นเจ้าไม่สมควรมีลูก! ข้าเสียใจที่ให้ตำรับยาเจ้าไป! คนเยี่ยงเจ้ามันควรที่จะสูญพันธ์ุไปเสีย!”

“ได้ หากเจ้าไม่ช่วยข้าตามหาเยวี่ยเยวี่ย ข้าจะทำเอง!”

“เซียวหลินเทียน ขอภาวนาขออย่าให้ชีวิตนี้เจ้ามีอะไรต้องมาขอร้องข้าเถอะ! ไม่เช่นนั้น ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้!”

พูดจบ หลิงอวี๋ก็หันหลังจากไปด้วยความโกรธ ลืมเอาจดหมายหย่าร้างไปด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา