ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 143

“เพียะ!”

หลิงอวี๋ตบนางอย่างแรงอีกครั้งแบบไม่เกรงใจ และเตะเพิ่มอีกครั้งด้วย

การเตะครั้งนี้ทำให้นางรับใช้ตกบันไดไปอยู่ตรงหน้าเงินที่นางโยนลงไปพอดี

“เจ้านับว่าเป็นสิ่งใดกัน กล้ามาพูดจาเอ็ดตะโรกับข้า! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”

หลิงอวี๋มองต่ำลงไปอย่างเย่อหยิ่งพลางเอ่ย “เอาเงินไปเสีย ข้าให้รางวัลเจ้า! เอาไปซื้อยาเถิดไป!”

“หลิงอวี๋ เจ้ากล้าตบนางรับใช้ของข้าหรือ!?”

หลิงเยี่ยนเห็นเข้า ก็โวยวายขึ้นมาอย่างโมโห “ใครก็ได้ จับตัวนางไว้ที วันนี้ข้าจะสั่งสอนนังคนไม่รู้จักอับอายผู้นี้!”

นางรับใช้หลายคนกับคนเฝ้าประตูเข้าไปล้อมหลิงอวี๋เอาไว้ หลิงอวี๋ไม่อยากให้ท่านอดีตเสนาบดีคิดว่าตนเองมาก่อเรื่องที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วน จึงเจรจาด้วยเหตุผลก่อน

“ข้ามีเรื่องด่วนมาหาท่านอดีตเสนาบดีหากพวกเจ้ายังกล้ามาขัดขวางข้าอีก ก็อย่ามาโทษว่าข้าลงไม้ลงมือ!”

พวกนางรับใช้หลายคนไม่ฟังคำพูดนาง ต่างเข้ามาจับหลิงอวี๋ไว้คนละไม้คนละมือ

ขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดจะลงมือ ก็มีมือหนึ่งยื่นเข้ามาแล้วดึงนางออกจากวงล้อมของพวกนางรับใช้

“เมื่อวันก่อนท่านอดีตเสนาบดีออกจากเมืองหลวงไปฝึกทหารที่นอกเมือง!”

เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้น จิตใจของนางก็จมดิ่งลง

ท่านอดีตเสนาบดีไปฝึกทหารนอกสถานที่ เช่นนั้นจะยังมีใครที่สามารถช่วยตนเองตามหาเยวี่ยเยวี่ยได้อีกเล่า?

นางเงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง เห็นชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าตนเอง

ชายคนนั้นมีผมสีดำตาสีดำ ใบหน้ามีมิติ รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง แต่งกายด้วยชุดสีเขียว มีบุคลิกเย็นชา และความจริงจังตรงระหว่างคิ้วของเขา

หลิงอวี๋รู้สึกว่าคุ้นหน้า ยังไม่ทันจะนึกออกว่าเขาเป็นใคร นางก็ได้ยินเสียงตะคอกของหลิงเยี่ยนก่อน

“ฉินซาน เจ้าอย่ามายุ่งวุ่นวาย! หลิงอวี๋ตบนางรับใช้ของข้า วันนี้ข้ากับนางไม่จบง่าย ๆ แน่!”

ฉินซานหรือ?

นี่คือฉินซานที่ก่อนหน้านี้หลิงหลานบอกว่าหลงรักหลิงอวี๋ผู้นั้นหรือ?

ดวงตาของหลิงอวี๋เป็นประกายขึ้นทันใด นางลากฉินซานแล้ววิ่งออกไป

การตามหาเยวี่ยเยวี่ยเป็นสิ่งสำคัญ เรื่องวันนี้ที่หลิงเยี่ยนทำให้อับอายไว้ค่อยชำระแค้นกับนางวันอื่น

นางไม่สนใจคำดุด่าด้วยความโกรธของหลิงเยี่ยนที่ไล่หลังมา ลากฉินซานวิ่งไปที่ตรอกแถว ๆ นั้นแล้วจึงหยุด

หลิงอวี๋ไม่เห็นว่าตอนพวกเขาวิ่งเข้าไปในตรอก อันเจ๋อและเซียวหลินเทียนกำลังเดินตามหาเฮยจื่ออยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้าม

ทันทีที่เซียวหลินเทียนเห็นหลิงอวี๋ดึงฉินซานเข้าไปในตรอกนั้น สีหน้าของเขาก็บึ้งตึงไปทันที

หลิงอวี๋ยังจะกล้าพูดว่านางไม่ได้ติดต่อกับฉินซานอีกหรือ เช่นนั้นสิ่งที่เขาเห็นกับสายตาตัวเองอยู่นี่คือสิ่งใดกันเล่า?

เขาโกรธมากจนมีความคิดชั่ววูบว่าอยากจะวิ่งไปจับชายหญิงคบชู้คู่นี้ไว้!

แต่เมื่อเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาอยู่รอบ ๆ เซียวหลินเทียนก็อดทนไว้ แล้วไปต่อด้วยใบหน้าบูดบึ้ง

การตามหาเฮยจื่อเป็นสิ่งสำคัญ เขาไม่สามารถเสียเวลาเพราะเรื่องนี้ได้ รอกลับไปที่ตำหนักก่อน เขาจะต้องขับไล่หลิงอวี๋ออกจากตำหนักอ๋องอี้ให้ได้

“อาอวี๋ เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเจ้าจึงอยากพบท่านอดีตเสนาบดี?”

ฉินซานยืนอย่างมั่นคง แล้วถามอย่างเป็นห่วง

“ฉินซาน… ท่านปู่ของข้าไม่อยู่ เจ้าต้องช่วยข้า! เยวี่ยเยวี่ยลูกชายของข้าถูกลักพาตัวไป ข้าหาใครช่วยไม่ได้เลย!”

เมื่อเห็นสายตาเป็นห่วงของฉินซาน หลิงอวี๋ก็จับฉินซานไว้พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ

นี่เป็นความหวังเดียวของนางในตอนนี้ นางกลัวเหลือเกินว่าฉินซานจะปฏิเสธ!

ฉินซานขมวดคิ้ว ไม่พูดอะไร

หลิงอวี๋สังเกตสีหน้าเขา นึกถึงเรื่องที่นางไม่ยอมแต่งงานกับฉินซานในตอนแรก ฉินซานจะต้องยังโกรธเรื่องนี้อยู่แน่นอน

นางจึงปล่อยเขา พลางเอ่ยอย่างผิดหวัง

“ข้าเองก็ไม่มีหนทางแล้วถึงได้มาขอร้องเจ้า! หากเจ้ายังคงโกรธข้าอยู่และไม่อยากช่วยก็ลืมมันเสียเถิด! ข้าจะไปหาคนอื่น!”

พอพูดจบนางก็หันหลังไป

ฉินซานคว้าแขนของนางไว้ พลางเอ่ยอย่างจนใจ

“ไม่ได้เจอกันมาสี่ปี เหตุใดเจ้าถึงยังใจร้อนเหมือนเมื่อก่อนเลยเล่า! ข้าเองก็นับว่าเป็นพี่ชายของเจ้าเช่นกัน ลูกชายของเจ้าก็นับเป็นหลานชายของข้าด้วย เขากำลังลำบาก คนเป็นลุงจะนั่งเฉยไม่สนใจได้เยี่ยงไรกัน?"

น้ำเสียงของฉินซานขมขื่นเล็กน้อย แต่หลิงอวี๋ไม่ได้สังเกต ทันทีที่ได้ยินว่าฉินซานยินดีช่วยเหลือก็ดีใจมาก

“ขอบคุณ! ข้าจะขอบคุณมากสำหรับความช่วยเหลือของเจ้า! ฉินซาน ข้าไม่คุ้นเคยกับเมืองหลวงเลย เจ้าคิดว่าข้าควรเริ่มตามหาจากที่ใดดี?”

ฉินซานเอ่ยปลอบใจ "อย่าเพิ่งรีบร้อน เจ้าบอกลักษณะภายนอก เสื้อผ้า และสาเหตุที่เขาหายไปให้ข้าฟัง! ข้าจะช่วยเจ้าคิดหาหนทางเอง!"

หลิงอวี๋รีบบอกฉินซานเกี่ยวกับเสื้อผ้า รูปร่างหน้าตา และการหายตัวไปของหลิงเยวี่ย

ฉินซานได้ยินว่าเด็กชื่อว่าหลิงเยวี่ย ดวงตาก็เป็นประกาย แต่ไม่ได้ถามต่อว่าเหตุใดจึงแซ่หลิง

เขาฟังการอธิบายของหลิงอวี๋อย่างอดทน แล้วก็เอ่ยถาม "เจ้ามีความแค้นกับใครหรือไม่?"

หลิงอวี๋ยิ้มขมขื่น "หากเจ้าถามเช่นนี้ข้าก็ไม่รู้ว่าจะตอบเยี่ยงไร ดูเหมือนข้าจะไม่มีความแค้นกับใครเลย แต่คนมากมายที่ข้าพบเจอดูเหมือนจะมีความแค้นกับข้ากันหมด!"

พระชายาผิงหยาง ท่านลุง เสิ่นจวน และชิวเหวินซวง คนเหล่านี้คือคนที่หากมีโอกาสก็จะทำให้ตนเองอับอายแน่นอน!

หลิงอวี๋ไม่รู้ว่าควรจะสงสัยใคร!

นางเล่าความโกรธแค้นที่มีกับผู้คนเหล่านี้ให้ฉินซานฟังคร่าว ๆ

หลังจากฟังที่หลิงอวี๋เล่าจบแล้ว ฉินซานก็มองหลิงอวี๋อย่างจนใจ หญิงสาวผู้นี้ยังคงมีนิสัยใจร้อนทำให้คนไม่ชอบใจเหมือนเช่นเมื่อก่อนเลย!

เขาลูบหัวของหลิงอวี๋ตามความเคยชิน พลางเอ่ยปลอบโยนนาง

“เจ้ากลับไปรอฟังข่าวที่ตำหนักอ๋องอี้ก่อนเถิด คิดดูดี ๆ อีกทีว่ามีที่ใดที่ละเลยไปหรือไม่!”

“ข้าจะไปหาคนมาช่วย จะตามหาเขาในเมืองนี้อีก! ขอเพียงเยวี่ยเยวี่ยยังอยู่ในเมือง ข้าจะช่วยเจ้าตามหาเขาให้เจอให้ได้!”

“ตกลง ข้าจะกลับไปคิดดูให้ดี! ฉินซาน หากมีข่าวก็ส่งคนไปบอกข้าที่ตำหนักอ๋องอี้เถิด!”

หลิงอวี๋ทำความเคารพเขา "เรื่องเยวี่ยเยวี่ยข้าต้องขอร้องเจ้าด้วย!"

ฉินซานยิ้มอย่างขมขื่น "ไม่จำเป็นต้องเกรงอกเกรงใจข้า หากช่วยได้ข้าช่วยแน่นอนอยู่แล้ว!"

ทั้งสองแยกทางกันไปตามหา

หลิงอวี๋เองก็ไม่รอช้า และวิ่งกลับไปที่ตำหนักอ๋องอี้

หลิงอวี๋ไม่สนใจเรื่องพักผ่อน ไม่มีเวลาตรวจเท้าที่แพลงของตนเองด้วย นางทนความเจ็บปวดที่ข้อเท้าและรีบตรงไปที่เรือนริมวารีทันที

หลู่ชิ่งยังไม่กลับมา หลิงอวี๋เห็นองครักษ์อีกคนจึงเอ่ยถามอย่างร้อนใจ "ท่านอ๋องกลับมาแล้วหรือยัง?"

“ยังขอรับ!”

เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินดังนั้นก็นั่งลงบนบันไดหินอย่างผิดหวัง นางไม่มีเรี่ยวแรงวิ่งไปวิ่งมาแล้ว นางต้องพักสักหน่อย

“พระชายา ท่านตามหาท่านอ๋องหรือ? ท่านอ๋องออกไปตามหาเฮยจื่อแล้ว! ท่านมีเรื่องด่วนอันใดหรือ? บอกข้าได้ บางทีข้าอาจจะช่วยได้นะ?”

หลิงอวี๋ยังไม่ทันจะปรับการหายใจให้คงที่ ก็เห็นชิวเหวินซวงเดินออกมา

หลิงอวี๋ไม่อยากสนใจนาง แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่ฉินซานพูด หัวใจของหลิงอวี๋ก็สั่นไหว ยิ้มขมขื่นพลางเอ่ย

“เยวี่ยเยวี่ยหายตัวไป! ข้ากับพวกหลิงซินหาทั่วทุกที่ก็ไม่พบ ดังนั้นจึงมาขอให้ท่านอ๋องช่วยตามหา!”

“หา? เยวี่ยเยวี่ยก็หายไปด้วย? เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อใดกัน? มีอะไรผิดพลาดไปหรือไม่?”

ชิวเหวินซวงเอ่ยอย่ากังวล "บางทีเยวี่ยเยวี่ยอาจจะห่วงเล่นเกินไป แล้ววิ่งไปซ่อนที่ใดสักแห่งไม่ยอมออกมาก็ได้กระมัง?"

“เยวี่ยเยวี่ยไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้น!”

หลิงอวี๋จ้องมองชิวเหวินซวง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา "เขาเป็นเด็กรู้ความว่านอนสอนง่าย ไม่มีทางจงใจทำให้คนอื่นเป็นห่วงเด็ดขาด!"

ชิวเหวินซวงยิ้มเล็กน้อย พยักหน้าพลางเอ่ย "ที่ท่านพูดก็ถูก แม้ว่าเยวี่ยเยวี่ยจะยังเด็ก แต่ว่านอนสอนง่ายมาก! ข้าเองก็ชอบเขามากเช่นกัน!"

“แต่จะทำเยี่ยงไรดีเล่า? ไม่รู้ว่าท่านอ๋องจะกลับมาเมื่อใด! เช่นนั้น ข้าไปให้พวกแม่นมและนางรับใช้ในตำหนักออกไปช่วยท่านตามหาดีหรือไม่?”

หลิงอวี๋เห็นว่าแม้สีหน้าชิวเหวินซวงจะดูกังวล แต่ในแววตาก็แฝงความเยาะเย้ยอยู่ ราวกับว่ากำลังหัวเราะเยาะตนเองอยู่

จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็มีลางสังหรณ์ว่าการหายตัวไปของหลิงเยวี่ยนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับหญิงผู้นี้!

หากจุดประสงค์ของชิวเหวินซวงคือการใส่ร้ายตนเองและทำให้เซียวหลินเทียนเกลียดตนเอง!

เช่นนั้นจุดประสงค์ของการลักพาตัวเฮยจื่อไปของนางก็บรรลุแล้ว!

เหตุใดยังจะลักพาตัวหลิงเยวี่ยอีก?

ตนเองละเลยสิ่งใดไปหรือไม่นะ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา