ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1510

นับวันจ้าวฮุยก็ยิ่งมิชอบองค์ชายคัง รู้สึกว่าองค์ชายคังมิได้มีความสามารถอะไร

ช่วงนี้เขาสนับสนุนองค์ชายคังก็มิได้มีความเชื่อมั่นในใจแล้ว

แต่ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของจ้าวฮุยก็คือไม่มีลูกชาย ฮูหยินจ้าวมีแต่ลูกสาวให้ตนทั้งสองคน

เหล่าอนุภรรยาก็มีลูกสาว

อดีตจ้าวฮุยไปหาปรมาจารย์ให้ดูดวงให้ เขาบอกว่าชีวิตของตนถูกลิขิตมาว่าจะไม่มีลูกชาย

เขาเองก็เคยหวั่นใจ คิดจะหาเด็กชายในตระกูล แต่เด็กที่เฉลียวฉลาดในตระกูลมีมิมาก ดูไปดูมาก็ยังสู้ลูกสาวสองคนของตนมิได้

จ้าวฮุยมิอยากให้ชื่อเสียงของตนถูกทำลายไปชั่วชีวิตจึงตัดความคิดนี้ไป

การตายของจ้าวเจินเจินคราวนี้ยิ่งทำให้จ้าวฮุยมองเห็นถึงความเย็นชาขององค์ชายคังกับไท่เฟยเส้า

แม้ว่าเขาจะเรียกลูกสาวของตนกลับมา แต่มิได้วางแผนที่จะให้นางอุทิศตนให้องค์ชายคังอย่างมิเห็นแก่ตัวดังเช่นจ้าวเจินเจินอีก

การให้ค่าตอบแทนเท่าเทียมกันของขุนนางชายหญิงที่หลิงอวี๋ผลักดัน ทำให้จ้าวฮุยหวั่นใจ

บุรุษสามารถเป็นจักรพรรดิได้ สตรีก็เป็นได้เช่นกัน

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยลูกสาวของตนเหนือกว่าองค์ชายคังมากทั้งทักษะและปัญญา เช่นนั้นเหตุใดจะมิสามารถแทนที่ได้เล่า!

ดังนั้น จ้าวฮุยเพียงคิดว่าจะช่วยองค์ชายคังให้ได้บัลลังก์มังกร แล้วรอให้องค์ชายคังนั่งอย่างมั่นคง จากนั้นจะให้เขาเป็นเหมือนหุ่นเชิดแล้วสนับสนุนให้ลูกสาวของตนขึ้นไปนั่งบัลลังก์มังกรแทน

เช่นนี้แล้ว ต่อไปองค์ชายที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยให้กำเนิดมาก็จะสกุลจ้าว และสามารถสืบทอดตระกูลจ้าวได้เช่นกัน

เมื่อนึกถึงตอนหลังจากที่ตนอายุร้อยปีแล้ว แผ่นดินฉินตะวันตกเปลี่ยนเป็นสกุลจ้าว เช่นนั้นตนก็สามารถไปพบบรรพบุรุษตระกูลจ้าวได้อย่างมิละอายแล้วมิใช่หรือ

เมื่อจ้าวฮุยส่งเสริม จ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่เดิมทีคิดแค่ว่าจะกลับมาจัดการก็ถูกกระตุ้นในทันที

โดยเฉพาะในเวลานี้ เมื่อเห็นท่าทางยิ่งใหญ่ที่หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนถูกให้ความเคารพในการมาเข้าร่วมพิธีแต่งงานของตน ความทะเยอทะยานของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ยิ่งถูกกระตุ้นขึ้นมา

นางก็อยากเป็นเช่นเซียวหลินเทียนที่มีคนนับหมื่นมาให้ความเคารพ

ตระกูลจ้าวมีลูกสาวที่มีระดับพลังถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?

บางทีนี่อาจจะเป็นศัตรูที่ไท่เฟยเส้ากับเก๋อเทียนซือหามาแฝงตัวอยู่ข้างกายพวกเขาโดยอาศัยตัวตนของตระกูลจ้าวปิดบังไว้ก็ได้!

หลิงอวี๋มิกล้าชะล่าใจแม้แต่น้อย

ตอนนั้นที่จัดการเก๋อเทียนซือก็เกือบจะเอาชีวิตตนไปกึ่งหนึ่งแล้ว หากข้างกายมีศัตรูแฝงตัวเข้ามาและมีการฝึกฝนพลังวิญญาณที่ล้ำลึกอีก ตนกับเซียวหลินเทียนคงมิใช่คู่ต่อสู้ของเขาเป็นแน่

การสำรวจของหลิงอวี๋ระมัดระวังมาก แต่ดูเหมือนว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะสัมผัสได้ นางจึงหันไปทางหลิงอวี๋โดยมิรู้ตัว

คนนอกยังคิดว่านางมิรู้ตัว แต่มีเพียงหลิงอวี๋เท่านั้นที่รู้ว่าดวงตาที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยกำลังมองมาที่ตน

ผ้าคลุมหน้าสีแดงโปร่ง นางคงจะมองเห็นตนมิชัดเจน แต่พลังที่แข็งแกร่งเช่นนั้นกลับพุ่งมาทางหลิงอวี๋...

หลิงอวี๋ยังคงมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพร้อมรอยยิ้ม ดูเหมือนว่ากำลังอวยพรต่อบ่าวสาว

ในความเป็นจริง มือที่อยู่ภายใต้แขนเสื้อใหญ่ของหลิงอวี๋กำหมัดแน่น เตรียมพร้อมรอรับมือ...