เมื่อมีท่าทีเล็ก ๆ นี้ หลิงอวี๋จึงยิ่งระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ย
มิเพียงแต่ของที่ตนกินดื่ม แม้แต่ของที่ไทฮองไทเฮากินและดื่ม หลิงอวี๋ก็จะระวังจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาก
แต่ท่าทีที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสดงออกมานั้นปกติมาก มิได้แตะต้องของกินของทั้งสองคน
แต่แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ หลิงอวี๋ก็ยังมิอาจวางใจได้
นางรู้สึกว่าจ้าวหรุ่ยหรุ่ยลึกลับมาก ยอดฝีมือในดินแดนที่หก หากจะลงมือต้องมิทันได้รู้ตัวอย่างแน่นอน นางมิอยากให้ตนตายไปแบบมิรู้เรื่องใด
ที่จริงแล้วสตรีทั้งสี่ก็มิได้มีสิ่งใดให้พูดคุยกัน ภายนอกพวกนางคือครอบครัวเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นศัตรู เมื่อถอดหน้ากากความเป็นครอบครัวออกก็ล้วนเกลียดกันจนมิใครก็มิใครต้องตาย
หลังจากคุยกันไปสักพัก และรับประทานอาหารเสร็จ ไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็ขอตัวลา
หลิงอวี๋รอให้พวกนางไป แล้วให้หลิงซวนกับแม่นมเว่ยรีบตรวจสอบในจุดที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยกับไท่เฟยเส้าแตะต้องอย่างละเอียดทันที
ไทฮองไทเฮาเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “อาอวี๋ เจ้ากังวลมากเกินไปหรือไม่? พวกนางสองคนมิได้ไปที่อื่นเลยนอกจากโถงใหญ่ ในโถงใหญ่เองก็มีทุกคนจับตามองอยู่ พวกนางจะทำสิ่งใดได้!”
หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ไทฮองไทเฮา จ้าวหรุ่ยหรุ่ยผู้นี้มิอาจประมาทได้เพคะ! วิธีการของนางเหนือกว่าจ้าวเจินเจินไปมาก ระวังสักหน่อยก็มิผิด!”
จักรพรรดิอู่อันตายไปโดยมิรู้แน่ชัด จนตอนนี้หลิงอวี๋ก็ยังตรวจสอบสาเหตุการตายมิได้ นางมิอยากให้ไทฮองไทเฮาตายไปโดยมิรู้สาเหตุแน่ชัดอีกคน
ที่วังหลังนี้ไทฮองไทเฮามีอิทธิพลมากกว่าตนเสียอีก เป็นที่พึ่งของตนกับเซียวหลินเทียน
หลิงอวี๋กังวลว่าไท่เฟยเส้ากับจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิสามารถลงมือกับตนได้แล้วจะเปลี่ยนเป็นลงมือกับไทฮองไทเฮาแทน
ไทฮองไทเฮาเห็นว่าหลิงอวี๋กังวลเกี่ยวกับตนเช่นนี้ก็ปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่แม่นมเว่ยกับหลิงซวนและพวกนางรับใช้ไปตรวจสอบโถงใหญ่รอบหนึ่งแล้วก็มิพบสิ่งผิดปกติใด
ไทฮองไทเฮากลัวว่าหลิงอวี๋จะวางมิลง จึงยิ้มพลางเอ่ยปลอบใจ “ตรวจสอบรอบหนึ่งแล้วก็มิได้มีเรื่องที่มิดี อย่างน้อยข้าก็วางใจขึ้นแล้ว!”
“เซียวหลินเทียน ตอนนั้นหม่อมฉันเห็นท่านมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแล้วตกตะลึง ในขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงกระแสพลังวิญญาณด้วย ท่านมิรู้สึกหรือ?”
หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างสงสัย “หากไม่มีสาเหตุ แล้วเหตุใดจ้าวหรุ่ยหรุ่ยจึงปล่อยพลังวิญญาณ?”
เซียวหลินเทียนลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไปแล้ว เขาจำมิได้ว่าตนเคยเห็นแสงหลากสี เขาคิดว่าความงามของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยทำให้หลิงอวี๋เข้าใจผิดไป
จึงยิ้มแล้วเอ่ยอย่างปลอบโยน “นางงดงามมากก็จริง แต่มิได้งดงามเท่ากับเจ้า… ในใจของข้าเจ้างเงามที่สุด!”
หลิงอวี๋มองค้อนเซียวหลินเทียน พลางเอ่ยอย่างอดทน “เซียวหลินเทียน หม่อมฉันมิได้หึงหวงนะเพคะ! และมิได้อิจฉาที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจะงดงามกว่าหม่อมฉันด้วย… หม่อมฉันกังวลว่านางจะลอบวางแผนอะไรใส่เราโดยมิทันรู้ตัว!”
“ข้ามิได้ถูกทำอะไรใส่ เจ้าวางใจเถิด!”
เซียวหลินเทียนเอ่ยปลอบใจ “เจ้าดูสิตอนนี้ข้ามิได้มีสิ่งใดผิดปกติเลย ที่เจ้ารู้สึกถึงกระแสพลังวิญญาณ บางทีอาจจะเพราะจ้าวหรุ่ยหรุ่ยพบว่าข้าเองก็เป็นผู้บำเพ็ญตนเช่นกัน จึงกำลังหยั่งเชิงข้า!”
“อาอวี๋ ตอนนี้ข้าอยู่ที่ดินแดนที่สี่แล้ว แม้ว่าการฝึกฝนพลังวิญญาณของนางจะสูงกว่าข้า แต่หากคิดจะลอบวางแผนใส่ข้าก็ไม่มีทำได้โดยที่ข้ามิทันสังเกตหรอก!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
สนุกมาค่ะ มาต่ออีก...
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...