เดิมทีเป็นร้านของตระกูลกวน มิแปลกใจเลยที่ลำพองขนาดนี้!
แม่ทัพเฉินมองไฟไหม้มากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ปล่อยคนลี้ภัยเหล่านี้อีก เขาก็มิกล้าจินตนาการถึงความสูญเสียทั้งมวล
แม่ทัพเฉินกระทืบเท้าร้อนรน มองทางเซียวหลินเทียน
“ท่านอ๋อง ควรทำเช่นไรดี หากไม่อพยพฝูงชนอีก คนพวกนั้นจักตายกันหมดพ่ะย่ะค่ะ!”
หลิงอวี๋มองทางเซียวหลินเทียนร้อนใจเช่นกัน
เซียวหลินเทียนหน้ามืดลง ตะโกนเดือดดาล
“แม่ทัพเฉิน ส่งทหารไปบังคับรถม้าไปแล้วกล่าวว่าเป็นคำสั่งของตัวข้า!”
“หากเอะอะโวยวายก็ให้พวกเขาว่ากันทีหลัง! ผู้ใดกล้าขัดขวาง ฆ่าอย่างไร้ปรานี!”
เมื่อแม่ทัพเฉินได้ยินก็มีเสาหลักแล้วพลางพาทหารกลับสู่การสู้รบทันที
“จ้าวซวน เจ้าไปช่วยเสีย!”
จ้าวซวนรีบพาองครักษ์หลายคนทะยานไป
หลิงอวี๋พลันเห็นทหารเหล่านั้นพุ่งไป ไม่สนการกีดกันข้ารับใช้ของร้านหวางต้าหู้พลางบังคับรถม้าไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าใช้รถม้าแบกน้ำหนักเกินไปหรือไม่ มีรถม้าคันหนึ่งเพิ่งแล่นไปมิไกลก็พังทลายลง
เงินทองอาภรณ์จำนวนมากกลิ้งออกจากรถม้า เมื่อคนลี้ภัยด้านหลังเหล่านั้นเห็นก็เข้ามารุมรีบเก็บทรัพย์สมบัติโกลาหล
เมื่อจ้าวซวนเห็นว่าทางแยกที่ถูกขจัดอย่างยากลำบากได้ตันอีกครั้ง ก็โกรธจนสะบัดแส้พุ่งไป
“ทุกคนวิ่งไปข้างหน้า ผู้ใดขวางทางแยกอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
จ้าวซนดุดัน สะบัดแส้ใส่มิสนใครหน้าไหนพยายามกู้เก็บสมบัติ
คนลี้ภัยเหล่านั้นหวั่นถูกแส้หวดจึงเก็บของชิ้นสองชิ้นพลันวิ่งต่อ
บางคนแม้ถูกหวดก็ยังกู้เก็บต่อ
หลิงอวี๋มองแล้วพูดไม่ออกถึงเวลานี้แล้วยังเห็นแก่เงินไม่เห็นแก่ชีวิต!
เมื่อจ้าวซวนเห็นยิ่งรู้สึกโกรธเคืองดูคนมิน้อยยังขวางด้านหลัง พลางร้อนใจดุจเพลิงลงมือรุนแรงยิ่งขึ้น
ผู้ลี้ภัยคนหนึ่งที่กำลังรีบเก็บทรัพย์โดนแส้จ้าวซวนฟาดบนต้นคอ ทันใดนั้นหนังเปิดเนื้อปริโลหิตสดไหลริน
คนเหล่านั้นเมื่อเห็นจ้าวซวนโกรธจริงจึงลุกรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างพรั่นพรึง
หลิงหว่านทนดูมิได้ กระซิบว่า “หวดเช่นนี้มิได้หนา คนพวกนั้นคือคนยากคนจน…”
หลิงอวี๋พูดไม่เกรงใจ “มิควรใช้กำลังปรามจลาจล! แต่ในเวลาพิเศษใช้มาตรการพิเศษได้!”
“หว่านเอ๋อร์ เจ้าดูท่าทางละโมบของพวกเขาสิ แล้วดูสถานการณ์เพลิงที่ด้านหลัง!”
“สถานการณ์นี้ใช่เวลาชี้แจงเหตุผลกับพวกเขาหรือ?”
“พวกเขาเก็บทรัพย์ได้ แต่ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นที่ถูกขวางด้านหลังไร้ทางหนีอาจเสียโอกาสหนีเอาชีวิตรอด!”
หลิงหว่านเห็นเพลิงรุนแรงเหมือนมังกรไฟตัวหนึ่งโผมาเขมือบบ้านเรือนตรงนี้อย่างละโมบ ผู้ลี้ภัยที่ด้านหลังเหล่านั้นเจียนโดนเผา
ถึงจุดนี้ความเห็นใจเมตตาของนางพลันหายไปไร้เงาสิ้นรอย พี่หลิงหลิงพูดถูก ชีวิตสำคัญยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติเบื้องหน้า
“ท่านอ๋องอี้ เป็นท่านบงการโจรพวกนี้ปล้นทรัพย์เจ้านายกระหม่อม กระหม่อมจะไปรายงานคุณชายแน่และไปทูลจักรพรรดิว่าท่าน…”
ชายผิวมันวัยกลางคนคนหนึ่งถูกข้ารับใช้หลายคนรุดมาป้อง เขาตวาดใส่เซียวหลินเทียนอย่างลนลาน
นั่นเป็นหวางต้าหู้!
หลิงอวี๋แค่ชายมองเขาพลันจ้องไปข้างหน้าอย่างกังวลต่อ
เซียวหลินเทียนไม่ยี่หระหวางต้าหู้อย่างสิ้นเชิง!
แค่มองการหวดแส้อันดุเดือดของจ้าวซวน ในที่สุดทางแยกก็ขจัดแล้ว ผู้ลี้ภัยนับไม่ถ้วนพลันวิ่งเร็วรี่ออกมา
พวกเขาเพิ่งวิ่งผ่านทางแยก แถวเรือนด้านหลังก็รับความรุนแรงของมังกรไฟมิไหวเช่นกันถล่มลงตู้ม
ร้านค้าตระกูลกวนก็ถูกเรือนข้าง ๆ ทับถล่มลงเหมือนกัน ไฟหนาแน่นสีชาดเขมือบคฤหาสน์ทั้งหลัง
ผู้คุ้มกันกับข้ารับใช้หลายคนช่วยกู้เก็บทรัพย์สมบัติต่อตามคำสั่งของหวางต้าหู้ พลันโดนไฟหนาแน่นกลืนกินในพริบตา
พวกหลิงอวี๋ยืนอยู่ห่าง ๆ ต่างได้ยินเสียงโหยหวนอันสังเวชเหล่าผู้คุ้มกันกับข้ารับใช้นั้นถูกแผดเผา
หวางต้าหู้กลัวจนเกือบปัสสาวะจะราด
หากยังอยู่ในร้าน เช่นนั้นบัดนี้พวกเขาทุกคนคงร่างจมทะเลเพลิงไปแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...