ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 636

ลุงเผิงเป็นผู้ใหญ่ แต่พูดแล้วน้ำตาก็พลางไหลลงมา

“ท่านอ๋องอี้ ท่านดูครอบครัวใหญ่ของเราเถิดพ่ะย่ะค่ะ หากหางานดี ๆ มิได้แล้วจะเลี้ยงดูครอบครัวพวกเขาได้เยี่ยงไรเล่า!”

“หากทั้งครอบครัวแข็งแรงดีจะทนลำบากสักหน่อยก็หาได้เป็นไรไม่ แต่พ่อกระหม่อมทนมิไหวล้มป่วย เราใช้เงินรักษาเขาไปหมดแล้ว!”

“เผิงเอ้อร์ก็อยากไปช่วยคนขุดลอกคลอง แต่ไม่คาดคิดว่าโชคร้ายจะมาไม่หยุดหย่อน เขาไปได้ไม่นานก็ถูกหินหล่นลงมาทับจนได้รับบาดเจ็บที่ขา… นี่มิใช่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรือ?”

เมื่อเห็นสิ่งนี้แม่เผิงก็ช่วยพูดด้วย “ท่านอ๋องอี้ พวกผู้หญิงกับลุงป้าของหม่อมฉันรวมถึงหลานสาวคนโตทำงานเย็บปักถักร้อยได้ ก็อยากจะเย็บผ้า ปักผ้าและซักผ้าเพื่อเสริมรายได้ของครอบครัวเพคะ!”

“แต่เราไม่มีที่อยู่อาศัยที่แน่นอน ผู้ใดจะไว้ใจให้เราดูแลเสื้อผ้าเล่าเพคะ!”

ลูกชายของลุงเผิงก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเช่นกัน “แม้ว่าเราจะยากจน แต่เราไม่เคยทำเรื่องผิด ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”

“แค่เพียงเพราะเรายากจน พอเราเข้าใกล้บ้านคนรวยพวกนั้น เขากลับทำเหมือนเราเป็นขอทานแล้วกล่าวหาว่าเราขโมย! ถึงกับปล่อยสุนัขมากัดเราด้วยซ้ำ...”

อันเจ๋อหน้าแดง นึกถึงอคติของเขาที่มีต่อผู้ลี้ภัยเหล่านี้ก่อนหน้านี้ เขาก็รู้สึกละอายใจขึ้นมา

หลิงอวี๋พูดถูก ตนจะไปโยนความผิดให้พวกเขาทั้งหมดนี้เพียงเพราะมีคนที่ไม่ดีอยู่ในหมู่ผู้ลี้ภัยมิได้

“ท่านอ๋องอี้ โปรดให้ทางออกแก่พวกเราด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ! ท่านคงไม่รู้ว่าพวกเราไม่มีที่ไปจริง ๆ…”

ลุงเผิงชี้ไปที่ครอบครัวใหญ่ทั้งน้ำตา “ตอนที่เราออกจากบ้านเกิดมา ครอบครัวใหญ่มีกันเกือบยี่สิบคน!”

“ตอนออกมาท่านแม่กระหม่อมยังตั้งท้องอยู่ แต่ระหว่างทางเจอโจรปล้น ลูกมิได้คลอดออกมา แม่กับน้องชายกระหม่อมก็สิ้นใจเพราะเจ็บป่วยรักษามิได้พ่ะย่ะค่ะ!”

“กระหม่อมยังมีหลานสาวตัวน้อยอายุแค่สิบขวบที่พลัดหลงจากครอบครัวและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีก!”

“ปีนี้หลานสาวคนนี้จะอายุสิบห้าปีแล้ว กลัวว่าจะถูกคนร้ายพบเข้าระหว่างทาง แม่ของนางจึงตัดผมสั้นและให้นางแต่งตัวเหมือนเป็นผู้ชาย...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา