แม่นมเว่ยที่ตามมาติด ๆ วิ่งมาอย่างกระหืดกระหอบ เมื่อได้ยินประโยคนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ
“ราชองครักษ์ผาง… เมื่อครู่ซุ่ยเอ๋อร์บอกเรื่องข่าวลือกับข้าแล้ว ข้าถึงได้รู้ว่ามีคนกุข่าวลือเช่นนี้...”
“เทียบเชิญนี้เป็นของจริง...ไทเฮาทรงพระอักษรมันด้วยพระองค์เอง!”
“ข้ากลัวว่าราชองครักษ์ผางจะฟังข่าวลือนั้นแล้วทำให้พระชายาอ๋องอี้ลำบาก ถึงได้รีบออกมาต้อนรับ...”
“ยังดี… ยังดีที่ไม่ได้มาช้าไป!”
“คิดไม่ถึงเลยว่าไทเฮาจะทรงเชิญพระชายาอ๋องอี้ด้วยพระองค์เอง?”
ราชองครักษ์ผางยากที่จะเชื่อ เขารับหน้าที่ผู้บัญชาการทหารองครักษ์มาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นไทเฮาเขียนเทียบเชิญแขกด้วยพระองค์เอง
“ใช่! วันนี้ข้ายังเป็นคนที่ส่งเทียบเชิญให้ขันทีด้วยตัวข้าเอง ให้เขาไปเชิญ!”
แม่นมเว่ยมองขันทีเซี่ยอย่างตำหนิ
ขันทีเซี่ยก็เอ่ยขึ้นมาอย่างโหดเหี้ยม “ผู้นั้นอ้างว่าตนเป็นแม่นมของพระชายาผิงหยาง บอกว่าพระชายาผิงหยางกำลังรับประทานอาหารกับพระชายาอ๋องอี้ ตอนนั้นข้ารีบกลับวัง จึงให้นางไปโดยไม่ได้ถามให้ละเอียด...”
“ไฉนเลยจะคิดว่าข่าวลือเรื่องเทียบเชิญปลอมจะแพร่สะพัดออกไป! รอให้จบเรื่องก่อนแล้วข้าค่อยถามอีกทีว่าใครที่ใส่ร้ายข้าเช่นนี้ จนเกือบจะเข้าใจเจตนาที่ดีของไทเฮาผิดไปเสียแล้ว!”
“พระชายาอ๋องอี้ เป็นความผิดของข้าเอง ข้าขออภัยขอรับ!”
ขันทีเซี่ยโค้งคำนับหลิงอวี๋
หลิงอวี๋รีบห้ามไว้แล้วพูด “ขันทีเซี่ย เรื่องนี้โทษท่านมิได้หรอก! ใครเล่าจะรู้ว่า จะมีคนมีเจตนาร้ายแฝงทำเรื่องเช่นนี้ได้! หลิงอวี๋ไม่กล้ารับคำขอโทษของขันทีเซี่ยหรอก!”
ขันทีเซี่ยยังคงทำความเคารพอยู่ แล้วถึงได้ยืดตัวขึ้นพลางเอ่ย “วันหลังหากแน่ชัดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ข้าจะไปขอโทษถึงที่ขอรับ! พระชายา เชิญขอรับ!”
แม่นมเว่ยก็รีบเอ่ย “เข้าไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ! พระชายา หากเรื่องนี้พ้นไป ไทเฮาย่อมต้องให้ความเป็นธรรมกับพระชายาแร่อยู่แล้วเจ้าค่ะ!”
แม่นมเว่ยกวาดสายตามองคนที่มาดูความสนุกเหล่านั้น แล้วเดินนำทางไป
“ข้าเตรียมเกี้ยวไว้ให้พวกท่านแล้ว อยู่ตรงข้างหน้านี่เอง! นั่งเกี้ยวเข้าวัง นี่เป็นการปฏิบัติที่แม้แต่ท่านอ๋องอี้ก็ไม่สามารถสัมผัสมันได้เพคะ!”
แม่นมเว่ยพูดอย่างเอาใจใส่
หลิงซินถูกหลิงเยวี่ยลากไป นางยังคงงุนงงอยู่เลย เหตุใดแม่นมผู้นี้ถึงอยู่ในวัง!
นางไม่ใช่คนของจวนเหลียงหรือ?
เมื่อครู่พวกนางเกือบจะถูกฆ่าแล้ว แต่ตอนนี้กลับถูกปฏิบัติราวกับแขกพิเศษ สามารถนั่งเกี้ยวเข้าวังได้ด้วยหรือ?
นี่… นางกำลังฝันหรือไม่!
“แม่นม ไม่ต้องสุภาพหรอก! ทักทายข้าเหมือนแขกทั่ว ๆ ไปเถิด!”
หลิงอวี๋ปฏิเสธเล็กน้อยพลางยิ้ม “ไทเฮาเชิญหลิงอวี๋เข้าวังก็นับว่าเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างยิ่งแล้ว! หลิงอวี๋ทำให้ไทเฮาลำบากมิได้หรอก!”
“แม่นม หลิงอวี๋เข้าวังครั้งแรก อยากจะค่อย ๆ เดินเข้าไป จะได้ชื่นชมทิวทัศน์งดงามของวังหลวงไปด้วย! วันนี้แม่นมมีสิ่งที่ต้องทำมากมาย ไปทำก่อนเถิด!”
หลิงอวี๋รู้ดีว่า หากนางนั่งเกี้ยวนี้เข้าไปในวังจริง ๆ เช่นนั้นจะกลายเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน!
แม้ว่านี่จะเป็นพระกรุณาจากไทเฮา แต่จะรู้ได้เยี่ยงไรว่าไม่ใช่การหยั่งเชิงของไทเฮา?
ไทเฮารู้ข่าวลือเกี่ยวกับนาง การยกย่องนางเช่นนี้ บางทีอาจจะอยากดูว่านางได้รับการตามใจแล้วจะเอาแต่ใจหรือไม่!
หลิงอวี๋พูดจบ ในแววตาของแม่นมเว่ยก็เป็นประกายชื่นชมทันที
เป็นดังที่คิด ไทเฮามิได้มองคนผิด
พระชายาผู้นี้ มิได้โง่เง่าดังในข่าวลือ
ทำอะไรก็มีระยะในการก้าวและการถอย!
แม่นมเว่ยพยักหน้า พลางเอ่ยอย่างเกรงใจ
“ขอบคุณพระชายาที่เข้าใจเจ้าค่ะ วันนี้ข้ามีสิ่งที่ต้องทำล้นหลามจริง ๆ ! ในเมื่อพระชายาพูดเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นข้าต้องขอไปจัดการงานก่อนนะเจ้าค่ะ!”
“พระชายา ค่อย ๆ พาบุตรีเดินเล่นเถิดเพคะ เมื่อถึงเวลามงคลให้รีบไปที่ศาลาในสวน! อีกเดี๋ยวข้าจะส่งนางรับใช้ในวังมานำทางพระชายาเจ้าค่ะ!”
แม่นมเว่ยพูดจบ ก็โค้งคำนับแล้วเดินไป
ผู้คนที่เฝ้าดูความสนุกอยู่นอกประตูอยู่ห่างไกลออกไป ไม่ได้ยินสิ่งที่แม่นมเว่ยกับขันทีเซี่ยพูด เห็นเพียงสองคนปรากฏตัว หลังจากพูดกับราชองครักษ์ผางไม่กี่ประโยค หลิงอวี๋ก็ถูกปล่อยให้เข้าไป
“ไยถึงเป็นเยี่ยงนี้? เหตุใดนางจึงเข้าไปได้? ขันทีเซี่ยกับแม่นมเว่ยพูดอะไรกับราชองครักษ์ผางกันแน่!”
เสิ่นจวนประหลาดใจ
พระชายาผิงหยางโกรธจนใบหน้าบิดเบี้ยว แล้วเอ่ย “ข้าไม่สนว่าพวกเขาพูดอะไร! พวกเขาทำให้ข้าแพ้พนันเสียเงินไปสองหมื่น… สองหมื่นเชียวนะ! ข้าไม่จบกับพวกเขาแน่...”
“หา… เช่นนั้นสองร้อยตำลึงของข้ากับปิ่นปักผมทองคำก็เสียไปเลยสิ?”
เจิงจื่ออวี้สีหน้าเปลี่ยนทันที โกรธจนกระทืบเท้า
“ข้าต้องใช้เวลาตั้งนานเท่าไหร่ถึงจะเก็บเงินได้สองร้อยตำลึง... หลิงอวี๋ เจ้าทำให้ข้าเสียเงิน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...