ดาบส่องประกายเจิดจ้า
เมฆดำอึมครึมเข้าปกคลุมทั้งเมือง...
เพียงชั่วพริบตา คนที่รอคอยดูเรื่องสนุกอยู่ด้านนอกวังต่างก็ตกใจจนกลั้นหายใจกันหมด...
แม้ว่าจะคาดเดาไว้แล้วว่าหลิงอวี๋จะต้องถูกสกัดเอาไว้ หรืออาจจะถึงขั้นถูกแทงเลยด้วย!
แต่พอเห็นภาพนี้กับตา คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ตกใจจนตัวสั่น
อันเจ๋อเองก็ตกใจจนกำมือทั้งสองข้างแน่นเช่นกัน ใจเด้งขึ้นมาถึงลำคอ รู้สึกว่าใจของตนเต้นตุบ ๆๆๆ...
ไกลออกไป เซียวหลินเทียนเองก็ชะโงกหน้าอยู่บนรถเข็นไปดูโดยไม่รู้ตัว พลันใจก็เต้น
ลู่หนานก็ตกใจจนจับตรงที่จับรถเข็นเซียวหลินเทียนแน่นเช่นกัน มือที่กำแน่นนั้นเส้นเลือดแทบจะพุ่งออกมา...
มีเพียงชิวเหวินซวงที่ยิ้มอย่างเย็นชา
หลิงอวี๋ ครั้งนี้ดูสิว่าเจ้าจะยังตายยากตายเย็นอยู่หรือไม่?
ข้าบอกไว้ตั้งนานแล้วว่า หากเจ้าไม่รู้จักความเป็นความตายกล้ามาร่วมงานฉลองวันพระราชสมภพ เจ้าก็จะมาแล้วไม่ได้กลับ!
หึ… ข้าพูดไว้ถูกต้องทีเดียว!
เสิ่นจวนกับเจิงจื่ออวี้จับมือกันไว้แน่นจนเจ็บ แต่กลับไม่สังเกตเลยสักนิด ได้แต่จ้องดาบพวกนั้นเขม็ง หัวสมองว่างเปล่าไปหมด
พระชายาผิงหยางหัวเราะขึ้นมา “หลิงอวี๋คนโง่ คิดไม่ถึงว่าจะยังกล้าเอาเทียบเชิญปลอมมาเข้าร่วมงานฉลอง คราวนี้นางตายแน่!”
“ฮ่า ๆ ...สองหมื่นของข้า จะต้องหลายเป็นสองแสนเสียแล้ว… โอ้โห รวยแล้ว...”
เจิงจื่ออวี้ก็หัวเราะขึ้นมาขึ้นกัน “ใช่เลย… ข้ามีสี่หมื่นแล้ว… พระเจ้า ข้าไม่เคยมีเงินเยอะขนาดนี้มาก่อนเลย...”
เกิ่งเสี่ยวหาวที่ยืนอยู่วงนอกสุด วันนี้ปลอมตัวมา เขาเห็นสิ่งนี้เหงื่อเย็น ๆ ก็เต็มตัว
แม้ว่าจะรู้ว่าเทียบเชิญของหลิงอวี๋คือของจริง แต่เกิ่งเสี่ยวหาวก็ยังตกใจกับท่าทีนั้นอยู่ดี กลัวว่าองครักษ์จะมือไวขึ้นมา แล้วฟันคอหลิงอวี๋เข้า!
พี่สาวของเขาผู้นี้ ฉลาดถึงเพียงนั้น หากจะตายเยี่ยงนี้… เช่นนั้นมันก็จะไม่ยุติธรรมมาก ๆ ไม่ใช่หรือ?
เกิ่งเสี่ยวหาวไม่ได้ไปนึกถึงเลยว่า การเดิมพันกันที่จัดตั้งขึ้นวันนี้จะทำให้ตนเองได้รับเงินหลายแสน!
ถ้ารู้ว่ามันจะอันตรายถึงเพียงนี้ เขาก็ไม่อยากได้เงินเหล่านี้หรอก แล้วก็จะต้องห้ามไม่ให้หลิงอวี๋มาเข้าร่วมงานฉลองวันพระราชสมภพของไทเฮาแน่!
เจิงจื่ออวี้ยังไม่ทันได้หัวเราะอย่างมีความสุข ก็ถูกเสิ่นจวนดึงเอาไว้ก่อน
เสิ่นจวนเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “จะ… เจ้าดูเร็วเข้า สถานการณ์พลิกใช่หรือไม่?”
เจิงจื่ออวี้รีบมองไป แล้วก็เห็นว่าที่ประตูวังหลวงยังคงตึงเครียดอยู่
หลิงซินถูกดาบจี้มาก็หน้าซีดเซียว ขาทั้งสองข้างสั่นยืนไม่อยู่จนทรุดคุกเข่าลงไป
หลิงเยวี่ยดึงนางไว้ พลางเอ่ยอย่างอ่อนโยน “พี่หลิงซิน ลุกขึ้นมา ยังไม่ถึงเวลาต้องคุกเข่า...”
“บ่าว… บ่าวกลัว...”
หลิงซินพูดติดอ่าง มองที่หลิงอวี๋อย่างเศร้า ๆ มิน่าเล่าคุณหนูถึงใจกว้างถึงเพียงนั้น เพิ่มเงินเดือนให้ตนเองตั้งห้าร้อยตำลึง!
ที่แท้ก็จะให้ตนมาลุยกับความตายด้วยนี่เอง
“พี่หลิงซินอย่าได้กลัว ไม่เป็นไรหรอก!” หลิงเยวี่ยดึงนางไว้
หลิงซินอยากจะลุกขึ้น แต่ไม่กล้า นางจึงเอ่ยถามอย่างสั่น ๆ “เยวี่ยเยวี่ยไม่กลัวหรือ? พวกเราถูกฟันตายได้เลยนะ!”
หลิงเยวี่ยชี้หลิงอวี๋ พลางพูดยิ้ม ๆ “พี่ดูสิท่านแม่ไม่กลัว! ท่านแม่ไม่กลัว เยวี่ยเยวี่ยก็ไม่กลัว! พี่หลิงซินก็ต้องไม่กลัว!”
“เอะอะเสียงดัง… ห้ามพูด!” ราชองครักษ์ผางตะคอก
หลิงอวี๋ช่วยหลิงเยวี่ยพยุงหลิงซินขึ้นอีกข้างด้วยรอยยิ้ม
ราชองครักษ์ผางมองนางอย่างแปลกใจ ไม่มีใครสงบได้ถึงเพียงนี้ภายใต้ความกดดันเช่นนี้ หญิงผู้นี้ขวัญกล้าเกินคนเสียจริง!
“ขวัญกล้ายิ่ง หากเป็นผู้ชายอยู่ในสนามรบ ก็สามารถโดดเด่นขึ้นมาได้!”
“น่าเสียดาย ที่ท่านกลับให้ความขวัยกล้ามาปลอมเทียบเชิญงานฉลอง… สุดท้ายก็คือผู้หญิง… ไม่มองการณ์ไกล!”
ราชองครักษ์ผางตำหนิเสร็จก็เอ่ย “พาพวกเขาไป วันนี้เป็นงานฉลองวันพระราชสมภพไทเฮา ไม่ควรจะมีการนองเลือด พรุ่งนี้ค่อยจัดการประหาร!”
“ใจเย็นก่อน! ท่านราชองครักษ์ ท่านดูที่ด้านหลังของท่านเถิด คนที่มารับข้ามาแล้ว...”
ราชองครักษ์ผางมองนางอย่างดุร้ายแล้วหันหน้ากลับไป
เห็นแค่แม่นมเว่ยอยู่ข้างกายไทเฮา และขันทีเซี่ยผู้เป็นที่โปรดปรานขององค์จักรพรรดิกำลังวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา
ขันทีเซี่ยมีความคล่องแคล่วจึงเดินได้เร็วกว่าแม่นมเว่ย ครั้นเห็นดาบจี้ที่คอของหลิงอวี๋ตรงหน้าประตู ก็ชิงตะโกนไปก่อน
“ราชองครักษ์ผาง บอกให้พวกเขาเก็บดาบ!”
อายุของขันทีเซี่ยประมาณสี่สิบปี บนใบหน้าจึงไม่ได้มีกล้ามเนื้อสักเท่าไหร่
เขาเสียงแหลมสูง แต่กลับให้ความรู้สึกที่เข้มงวดเยือกเย็น
ราชองครักษ์ผางผู้เป็นผู้บังคับบัญชาที่ผ่านประสบการณ์ที่สนามรบมาเช่นนี้ได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจเล็กน้อย ทันทีที่เขายกมือ ทหารองครักษ์ก็เก็บดาบกันทันที
“ราชองครักษ์ผาง...นี่ท่านจะประหารใคร?”
ขันทีเซี่ยวิ่งเข้ามาใกล้ ลมหายใจยังคงสงบ แล้วจ้องมองราชองครักษ์ผางอย่างดุร้าย
ราชองครักษ์ผางถูกสายตาเช่นนี้บีบให้รู้สึกผิดเล็กน้อย เขาชี้ไปที่หลิงอวี๋
“ขันทีเซี่ย พระชายาอ๋องอี้… นาง… นางทำเทียบเชิญของไทเฮาขึ้นมา! ข้าทำไปตามหน้าที่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...