ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 79

สรุปบท บทที่ 79: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา

สรุปตอน บทที่ 79 – จากเรื่อง ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา โดย GoodNovel

ตอน บทที่ 79 ของนิยายโรแมนติกเรื่องดัง ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา โดยนักเขียน GoodNovel เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

สิบกว่าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

วันงานฉลองวันเกิดไทเฮา แขกเหรื่อทุกครัวเรือนที่ได้รับเทียบเชิญ ต่างก็ตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวกัน

ตรวจดูเสื้อผ้าอาภรณ์ ตรวจดูของขวัญ และเตรียมคำแสดงความยินดีครั้งแล้วครั้งเล่า

การได้รับเทียบเชิญอันล้ำค่านี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ไม่มีใครอยากจะทำผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย

หลังจากตรวจดูครั้งแล้วครั้งเล่าและเตรียมพร้อมแล้ว ผู้ที่ได้รับเทียบเชิญก็ขึ้นรถม้ารีบไปที่ประตูวัง

งานฉลองวันเกิดปีนี้ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ เพื่อป้องกันมิให้มีใครแอบเข้าไป จึงมีการจัดทหารองครักษ์สามกลุ่มคอยเฝ้าระวังอยู่ที่ประตูวัง

องครักษ์สองแถวซ้ายขวาล้วนสวมหมวกบนศีรษะ ที่ตัวก็สวมชุดเกราะแวววาวใหม่เอี่ยม ที่เท้าสวมรองเท้าบูตยาว และต่างก็ถือดาบไว้ในมือ

องครักษ์อีกกลุ่มหนึ่ง ในมือจะมีคันธนูและลูกธนู แล้วกระจายกำลังกันอยู่ข้างนอก

เมื่อเห็นท่าทางนี้ ลูก ๆ ของขุนนางระดับสูงที่มากับบิดามารดาต่างก็ตัวสั่นด้วยความกลัว พูดจาก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กลัวว่าจะทำให้องครักษ์เหล่านี้โกรธแล้วต้องเผชิยกับผลที่ตามมา

เจิงจื่ออวี้กับเสิ่นจวนลงจากรถม้าก็พบกันเลย ทั้งสองคนรวมตัวกัน แล้วเสิ่นจวนก็เอ่ยถาม “หลิงอวี๋คนโง่มาหรือยัง?”

“ยังไม่เห็นนะ! ในโอกาสเช่นนี้ นางจะกล้ามาได้เยี่ยงไร นอกเสียจากว่านางจะโง่!” เจิงจื่ออวี้เอ่ยขึ้นมาดูถูก

“สวี่เหยียนมาได้เยี่ยงไร?” เสิ่นจวนหันไปเห็นสวี่เหยียนก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ

เจิงจื่ออวี้เหยียดยิ้มแล้วเอ่ย “นางหรือ ก็เหมือนกับคนอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนมาดูอะไรสนุก ๆ กันทั้งสิ้น!”

“งานฉลองพระราชสมภพของไทเฮาถือเป็นงานใหญ่ ทุกคนล้วนต่างอยากมาชมภาพอันงดงาม แล้วก็อยากเห็นว่าจะได้รับเกียรติให้ได้ยลโฉมนายแพทย์ขั้นเซียนหรือไม่!”

“ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินว่า มีคนจัดเดิมพันที่บ่อนพนันว่าหลิงอวี๋ไม่กล้าเอาเทียบเชิญปลอมมาเข้าร่วมงานฉลองหรอก!”

“ไม่จริงน่า! เช่นนั้นเจ้ามือบ่อนจะไม่ขาดทุนแย่หรือ? คนที่มีสมองก็มีแต่จะเดิมพันว่าหลิงอวี๋ไม่กล้ามากันทั้งนั้น! ไฉนใครจะไปเดิมพันว่าหลิงอวี๋จะมาเล่า!” เสิ่นจวนส่ายหน้า แล้วยิ้มเยาะ

เจิงจื่อวี้ยิ้มพลางเอ่ย “ใช่! ไม่รู้ว่าเจ้ามือบ่อนสมองมีปัญหาหรือเปล่า ครั้งนี้จะต้องขาดทุนย่อยยับเป็นแน่!”

“ข่าวของพวกเจ้าผิดแล้ว! ข้าได้ยินมาว่าเปลี่ยนการเดิมพันแล้วนะ! ทุกคนเขาเดิมพันกันว่าถ้าหลิงอวี๋เอาเทียบเชิญปลอมมาแล้วจะสามารถเข้าวังได้หรือไม่! ต่างก็ลงเดิมพันละหนึ่งร้อยเลย!”

พระชายาผิงหยางผ่านมาพอดี ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนจึงพูด

“ใช่สิ! เรื่องดี ๆ เช่นนี้ข้ามีหรือจะพลาด เมื่อครู่ก็ให้แม่นมของข้าไปลงเงินเดิมพันสองหมื่น ว่าหลิงอวี๋จะเข้าวังมิได้!”

“หา ไยพระชายาไม่รีบบอกเล่าเพคะ หากบอกเร็วกว่านี้หม่อมฉันก็จะเอาเงินของหม่อมฉันไปเดิมพันเช่นกันสิเพคะ!”

เสิ่นจวนกับเจิงจื่ออวี้บ่นเสียงเบาอย่างเสียดาย

“ยังทันนะ! เจ้าดูที่รอบนอกสุดนั่นสิ คนของบ่อนการพนันกำลังรับเงินและลงทะเบียนอยู่!”

พระชายาผิงหยางชี้ไปที่รอบนอกสุด แล้วยิ้มพลางเอ่ย “พวกเขาไม่เพียงแต่รับเงิน แต่ยังนับพวกเครื่องประดับหยกมีค่าตามราคาตลาดอีกด้วย!”

พวกเสิ่นจวนมองไปทันที รอบนอกสุดนั้นมีคนยืนล้อมกันอยู่จำนวนมากจริง ๆ

ทั้งสองคนจึงเรียกนางรับใช้ของตนเองมา แล้วเอาตั๋วเงินที่เอาติดตัวมาส่งให้นางรับใช้ ให้นางรับใช้ไปลงทะเบียน

นางรับใช้กำลังจะไป เจิงจื่ออวี้ก็ห้ามนางไว้อีก เจิงจื่ออวี้ใจถึงมาก ยื่นปิ่นปักผมทองคำมูลค่าสองร้อยตำลึงเงินที่เพิ่งซื้อมาใหม่ใส่มือของนางรับใช้

ทันทีที่เสิ่นจวนเห็น ก็รีบเอากปิ่นติดผมหยกออกมาแล้วยื่นให้นางรับใช้

“น่าเสียดายที่เพิ่งรู้ตอนนี้ หากข้ารู้ก่อนคงจะเอาตั๋วเงินมาเยอะแล้ว!” เสิ่นจวนยังคงพูดอย่างเสียดาย

“นั่นสิ เงินที่ให้ฟรี ๆ หากไม่เอาก็เสียดายเปล่า! ข้าเดิมพันตั๋วเงินสองร้อยตำลึงเงิน และปิ่นปักผมทองคำ เดิมพันละหนึ่งร้อย เช่นนั้นข้าก็จะได้เกือบสี่หมื่นเลยไม่ใช่รึ? ข้าไม่ได้คำนวณผิดใช่หรือไม่?”

เจิงจื่ออวี้ดึงเสิ่นจวนไว้อย่างไม่กล้าเชื่อแล้วเอ่ยถาม

เสิ่นจวนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น “ใช่แล้ว ๆ ข้าเองก็ลงเดิมพันสองร้อยตำลึง ปิ่นติดผมข้าก็มูลค่าสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน! โอ้โห รวยแล้ว ตอนนี้ข้าหวังให้หลิงอวี๋รีบมา ให้ข้าได้มีเงินเพิ่มสักหน่อย!”

อันเจ๋อได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอยู่ไม่ไกล จึงเรียกคนรับใช้ของตน แล้วหยิบตั๋วเงินสองหมื่นไปลงเดิมพันว่าหลิงอวี๋จะสามารถเข้าไปได้

คนรับใช้ไม่กล้าเชื่อหู พลางกระซิบ "พระองค์ พระองค์ตรัสผิดไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หากเดิมพันให้หลิงอวี๋ชนะ เช่นนั้นจะไม่ขาดทุนย่อยยับหรือพ่ะย่ะค่ะ?"

อันเจ๋อจ้องคนรับใช้ แล้วด่า “ข้ายังไม่แก่! จะพูดจาสับสนได้เยี่ยงไร เดิมพันว่าหลิงอวี๋ชนะ ๆ ๆ ได้ยินชัดเจนหรือยัง?”

“หากเจ้ากล้าลงเดิมพันให้ข้าผิด ข้าจะถลกหนังเจ้า!”

คนรับใช้สายตาวูบไหว พลางเอ่ยถามเสียงเบา “พระองค์ พระองค์ทรงมีข้อมูลภายในอะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

“ไปเสียที… ข้ามีเงินให้ผลาญตั้งมาก เข้าใจหรือไม่? ข้าถูกชะตากับหลิงอวี้ เข้าใจหรือไม่?”

อันเจ๋อเตะคนรับใช้ คนรับใช้ถึงได้ยิ้มแล้ววิ่งออกไป

เขากลอกตา เจ้านายของเขาเก่งในเรื่องกิน ดื่ม และการพนัน น้อยครั้งที่จะแพ้!

ได้ เขาจะลงเดิมพันกับเจ้านายห้าสิบตำลึง จะต้องมิขาดทุนเป็นแน่!

ไม่นาน คนที่ที่ลงเดิมพันก็จิตใจเหมือนกับเสิ่นจวน ต่างกระวนกระวายรอคอย เฝ้ารอให้หลิงอวี๋มากันอย่างใจจดใจจ่อ

หลิงอวี๋มองไปรอบนอก ลูกน้องของเกิ่งเสี่ยวหาวหยุดรับเงินเดิมพันแล้ว

นางแย้มยิ้ม เกิ่งเสี่ยวหาวให้เงินตนเองมาห้าหมื่น การเดิมพันกันในวันนี้ นับว่านางได้ตอบแทนน้ำใจของเขาแล้ว!

“ไปเถอะ เงยหน้ายืดอกเข้าไว้ อย่าให้คุณหนูอย่างข้าต้องเสียหน้า!”

เห็นหลิงอวี๋จูงหลิงเยวี่ยแล้วก้าวไปที่หน้าประตูวัง แล้วเบิกตาโตมองไปอย่างกล้าหาญ

หน้าประตูวัง ราชองครักษ์ผางได้ประจำการด้วยตนเอง ราชองครักษ์ผางรูปร่างสูงใหญ่กำยำมาก

ตัวของเขาสวมชุดเกราะที่แข็งแกร่ง รอยแผลเป็นบนใบหน้าที่ดำคล้ำของเขา ยิ่งเห็นได้ชัดถึงความดุร้ายและแข็งแกร่ง

เขาได้ยินมาจากรองเจ้ากรมวังวังว่า ในวันฉลองพระราชสมภพของไทเฮา อาจมีคนเอาเทียบเชิญปลอมสองใบแอบเข้าไปในวัง

ทันทีที่ราชองครักษ์ผางได้ฟังตอนนั้นก็ตื่นตัวมาก สถานที่สำคัญอย่างวังหลวง ความปลอดภัยของเหล่าบรรดาผู้สูงศักดิ์คือที่หนึ่ง จะทนให้พวกโจรเอาเทียบเชิญปลอมมาแอบอ้างเข้าวังได้เยี่ยงไร?

ดังนั้นวันนี้เขาจึงตรวจสอบเทียบเชิญอย่างละเอียด ครั้นเมื่อหลิงอวี๋มา หลิงซินก็แจ้งชื่อพระชายาอ๋องอี้ของหลิงอวี๋ไป

ก่อนหน้านี้ราชองครักษ์ผางไม่เคยพบพระชายาอ๋องอี้มาก่อน มีเพียงแค่เคยได้ยินชื่อเสียงที่ไม่ดีของนางบางส่วน

แต่เขาไม่ใช่คนซุบซิบนินทา เขายึดหลักการไม่เชื่อข่าวลือ หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่

“พระชายาอ๋องอี้ กรุณาแสดงเทียบเชิญเพื่อต้องทำการตรวจสอบด้วย!”

หลิงซินตกใจจนตัวสั่น ควักอยู่นานกว่าจะหยิบเทียบเชิญออกมายื่นให้ราชองครักษ์ผางด้วยมือทั้งสองข้าง

ทุกคนต่างก็กลั้นหายใจและมองอย่างกังวล

เห็นแค่ราชองครักษ์ผางรับเทียบเชิญมา ดูด้านหน้า แล้วดูข้างใน แล้วก็ดูอยู่นาน...

จู่ ๆ สีหน้าก็เรียบเฉยไป ทันทีที่ทุกคนเห็น ใจก็มาจุกอยู่ที่ลำคอเลย...

“บังอาจ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำบัตรของไทเฮาขึ้นมา… รนหาที่ตาย...”

ราชองครักษ์ผางตะโกนอย่างโมโห

ได้ยินเพียงเสียงดังเล็กน้อย แถวทหารองครักษ์ที่อยู่ข้างหน้าก็รีบวิ่งกรูเข้ามา ดาบของพวกเขาจี้มาที่คอของหลิงอวี๋

นักธนูที่อยู่รอบนอกด้านหลังก็ส่งเสียงที่ทำให้แผ่นดินสะเทือน คันธนูเหล็กแวววาวทั้งหมดติดตั้งลูกธนูเหล็กไว้ แล้วทั้งหมดเล็งมาที่หลิงอวี๋...

ดาบถูกชักออกมา แสงจากดาบส่องแวววาว...กลิ่นอายสังหาร!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา