สิบกว่าวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว
วันงานฉลองวันเกิดไทเฮา แขกเหรื่อทุกครัวเรือนที่ได้รับเทียบเชิญ ต่างก็ตื่นแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวกัน
ตรวจดูเสื้อผ้าอาภรณ์ ตรวจดูของขวัญ และเตรียมคำแสดงความยินดีครั้งแล้วครั้งเล่า
การได้รับเทียบเชิญอันล้ำค่านี้นับเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ไม่มีใครอยากจะทำผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
หลังจากตรวจดูครั้งแล้วครั้งเล่าและเตรียมพร้อมแล้ว ผู้ที่ได้รับเทียบเชิญก็ขึ้นรถม้ารีบไปที่ประตูวัง
งานฉลองวันเกิดปีนี้ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ เพื่อป้องกันมิให้มีใครแอบเข้าไป จึงมีการจัดทหารองครักษ์สามกลุ่มคอยเฝ้าระวังอยู่ที่ประตูวัง
องครักษ์สองแถวซ้ายขวาล้วนสวมหมวกบนศีรษะ ที่ตัวก็สวมชุดเกราะแวววาวใหม่เอี่ยม ที่เท้าสวมรองเท้าบูตยาว และต่างก็ถือดาบไว้ในมือ
องครักษ์อีกกลุ่มหนึ่ง ในมือจะมีคันธนูและลูกธนู แล้วกระจายกำลังกันอยู่ข้างนอก
เมื่อเห็นท่าทางนี้ ลูก ๆ ของขุนนางระดับสูงที่มากับบิดามารดาต่างก็ตัวสั่นด้วยความกลัว พูดจาก็พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา กลัวว่าจะทำให้องครักษ์เหล่านี้โกรธแล้วต้องเผชิยกับผลที่ตามมา
เจิงจื่ออวี้กับเสิ่นจวนลงจากรถม้าก็พบกันเลย ทั้งสองคนรวมตัวกัน แล้วเสิ่นจวนก็เอ่ยถาม “หลิงอวี๋คนโง่มาหรือยัง?”
“ยังไม่เห็นนะ! ในโอกาสเช่นนี้ นางจะกล้ามาได้เยี่ยงไร นอกเสียจากว่านางจะโง่!” เจิงจื่ออวี้เอ่ยขึ้นมาดูถูก
“สวี่เหยียนมาได้เยี่ยงไร?” เสิ่นจวนหันไปเห็นสวี่เหยียนก็เอ่ยถามอย่างแปลกใจ
เจิงจื่ออวี้เหยียดยิ้มแล้วเอ่ย “นางหรือ ก็เหมือนกับคนอื่น ๆ อีกมากมาย ล้วนมาดูอะไรสนุก ๆ กันทั้งสิ้น!”
“งานฉลองพระราชสมภพของไทเฮาถือเป็นงานใหญ่ ทุกคนล้วนต่างอยากมาชมภาพอันงดงาม แล้วก็อยากเห็นว่าจะได้รับเกียรติให้ได้ยลโฉมนายแพทย์ขั้นเซียนหรือไม่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ได้ยินว่า มีคนจัดเดิมพันที่บ่อนพนันว่าหลิงอวี๋ไม่กล้าเอาเทียบเชิญปลอมมาเข้าร่วมงานฉลองหรอก!”
“ไม่จริงน่า! เช่นนั้นเจ้ามือบ่อนจะไม่ขาดทุนแย่หรือ? คนที่มีสมองก็มีแต่จะเดิมพันว่าหลิงอวี๋ไม่กล้ามากันทั้งนั้น! ไฉนใครจะไปเดิมพันว่าหลิงอวี๋จะมาเล่า!” เสิ่นจวนส่ายหน้า แล้วยิ้มเยาะ
เจิงจื่อวี้ยิ้มพลางเอ่ย “ใช่! ไม่รู้ว่าเจ้ามือบ่อนสมองมีปัญหาหรือเปล่า ครั้งนี้จะต้องขาดทุนย่อยยับเป็นแน่!”
“ข่าวของพวกเจ้าผิดแล้ว! ข้าได้ยินมาว่าเปลี่ยนการเดิมพันแล้วนะ! ทุกคนเขาเดิมพันกันว่าถ้าหลิงอวี๋เอาเทียบเชิญปลอมมาแล้วจะสามารถเข้าวังได้หรือไม่! ต่างก็ลงเดิมพันละหนึ่งร้อยเลย!”
พระชายาผิงหยางผ่านมาพอดี ได้ยินบทสนทนาของทั้งสองคนจึงพูด
“ใช่สิ! เรื่องดี ๆ เช่นนี้ข้ามีหรือจะพลาด เมื่อครู่ก็ให้แม่นมของข้าไปลงเงินเดิมพันสองหมื่น ว่าหลิงอวี๋จะเข้าวังมิได้!”
“หา ไยพระชายาไม่รีบบอกเล่าเพคะ หากบอกเร็วกว่านี้หม่อมฉันก็จะเอาเงินของหม่อมฉันไปเดิมพันเช่นกันสิเพคะ!”
เสิ่นจวนกับเจิงจื่ออวี้บ่นเสียงเบาอย่างเสียดาย
“ยังทันนะ! เจ้าดูที่รอบนอกสุดนั่นสิ คนของบ่อนการพนันกำลังรับเงินและลงทะเบียนอยู่!”
พระชายาผิงหยางชี้ไปที่รอบนอกสุด แล้วยิ้มพลางเอ่ย “พวกเขาไม่เพียงแต่รับเงิน แต่ยังนับพวกเครื่องประดับหยกมีค่าตามราคาตลาดอีกด้วย!”
พวกเสิ่นจวนมองไปทันที รอบนอกสุดนั้นมีคนยืนล้อมกันอยู่จำนวนมากจริง ๆ
ทั้งสองคนจึงเรียกนางรับใช้ของตนเองมา แล้วเอาตั๋วเงินที่เอาติดตัวมาส่งให้นางรับใช้ ให้นางรับใช้ไปลงทะเบียน
นางรับใช้กำลังจะไป เจิงจื่ออวี้ก็ห้ามนางไว้อีก เจิงจื่ออวี้ใจถึงมาก ยื่นปิ่นปักผมทองคำมูลค่าสองร้อยตำลึงเงินที่เพิ่งซื้อมาใหม่ใส่มือของนางรับใช้
ทันทีที่เสิ่นจวนเห็น ก็รีบเอากปิ่นติดผมหยกออกมาแล้วยื่นให้นางรับใช้
“น่าเสียดายที่เพิ่งรู้ตอนนี้ หากข้ารู้ก่อนคงจะเอาตั๋วเงินมาเยอะแล้ว!” เสิ่นจวนยังคงพูดอย่างเสียดาย
“นั่นสิ เงินที่ให้ฟรี ๆ หากไม่เอาก็เสียดายเปล่า! ข้าเดิมพันตั๋วเงินสองร้อยตำลึงเงิน และปิ่นปักผมทองคำ เดิมพันละหนึ่งร้อย เช่นนั้นข้าก็จะได้เกือบสี่หมื่นเลยไม่ใช่รึ? ข้าไม่ได้คำนวณผิดใช่หรือไม่?”
เจิงจื่ออวี้ดึงเสิ่นจวนไว้อย่างไม่กล้าเชื่อแล้วเอ่ยถาม
เสิ่นจวนเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น “ใช่แล้ว ๆ ข้าเองก็ลงเดิมพันสองร้อยตำลึง ปิ่นติดผมข้าก็มูลค่าสองร้อยห้าสิบตำลึงเงิน! โอ้โห รวยแล้ว ตอนนี้ข้าหวังให้หลิงอวี๋รีบมา ให้ข้าได้มีเงินเพิ่มสักหน่อย!”
อันเจ๋อได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอยู่ไม่ไกล จึงเรียกคนรับใช้ของตน แล้วหยิบตั๋วเงินสองหมื่นไปลงเดิมพันว่าหลิงอวี๋จะสามารถเข้าไปได้
คนรับใช้ไม่กล้าเชื่อหู พลางกระซิบ "พระองค์ พระองค์ตรัสผิดไปหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หากเดิมพันให้หลิงอวี๋ชนะ เช่นนั้นจะไม่ขาดทุนย่อยยับหรือพ่ะย่ะค่ะ?"
อันเจ๋อจ้องคนรับใช้ แล้วด่า “ข้ายังไม่แก่! จะพูดจาสับสนได้เยี่ยงไร เดิมพันว่าหลิงอวี๋ชนะ ๆ ๆ ได้ยินชัดเจนหรือยัง?”
“หากเจ้ากล้าลงเดิมพันให้ข้าผิด ข้าจะถลกหนังเจ้า!”
คนรับใช้สายตาวูบไหว พลางเอ่ยถามเสียงเบา “พระองค์ พระองค์ทรงมีข้อมูลภายในอะไรใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ไปเสียที… ข้ามีเงินให้ผลาญตั้งมาก เข้าใจหรือไม่? ข้าถูกชะตากับหลิงอวี้ เข้าใจหรือไม่?”
อันเจ๋อเตะคนรับใช้ คนรับใช้ถึงได้ยิ้มแล้ววิ่งออกไป
เขากลอกตา เจ้านายของเขาเก่งในเรื่องกิน ดื่ม และการพนัน น้อยครั้งที่จะแพ้!
ได้ เขาจะลงเดิมพันกับเจ้านายห้าสิบตำลึง จะต้องมิขาดทุนเป็นแน่!
ไม่นาน คนที่ที่ลงเดิมพันก็จิตใจเหมือนกับเสิ่นจวน ต่างกระวนกระวายรอคอย เฝ้ารอให้หลิงอวี๋มากันอย่างใจจดใจจ่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........
จะมีแบบรูปเล่มออกมาเมื่อไหร่คะ...
หยุดอัพอีกแล้ว 😭...
รออัพตอนใหม่นะคะ...
ต่อๆ รอออ...
รอนะคะ...
จะมีตอนต่อไปให้อ่านใหมคะ กำลังฟินเลย...