หลิงอวี๋รับจดหมายมา แล้วเปิดออกดู ข้างในมีธนบัตรบาง ๆ อยู่ห้าใบ
ทันทีที่นางหยิบออกมาดู ก็รู้สึกเจ็บที่ปลายจมูก คิดไม่ถึงว่ามันคือเงินห้าหมื่นตำลึงเงิน!
นึกถึงภาพที่เกิ่งเสี่ยวหาววิ่งเข้าไปแล้ววิ่งออกมา หลิงอวี๋ก็รู้เลยว่าเกิ่งเสี่ยวหาวเป็นคนใส่เข้าไป!
เขากลัวว่าถ้าให้ต่อหน้าแล้วนางจะไม่รับ จึงได้หาข้ออ้างเอาของกินให้ลูกชายนางแล้วใส่มาให้นาง
น้องชายผู้นี้นี่… เหตุใดจึงได้จริงใจกับตนเองเยี่ยงนี้นะ!
หลิงอวี๋ซึ้งใจจนอยากจะร้องไห้!
น้องชายผู้นี้ นางมิได้ถูกเอาเปรียบเลยจริง ๆ !
ในชั่วพริบตา ความโกรธที่หลิงอวี๋มีต่อท่านเกิ่งเอ้อร์ที่กังวลต่อตัวตนของนาง และไม่ยอมให้เกิ่งเสี่ยวหาวเรียกนางว่าพี่นั้นก็พลันหายไป!
นี่นับว่าเป็นความจริงใจแรกนอกจากแม่นมลี่ หลิงเยวี่ย และหลิงซินที่นางได้รับตั้งแต่ที่มาถึงในโลกนี้เลย!
หลิงอวี๋แอบสาบานในใจว่า นางจะต้องทำดีกับเกิ่งเสี่ยวหาวให้มากยิ่งขึ้นอีก!
เพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยเหลือในยามยากนี้!
เซียวหลินเทียนกินอาหารเย็นเสร็จแล้ว กำลังสูดอากาศอยู่กับลู่หนานในสวน แล้วก็เห็นหลิงอวี๋ยกหีบมาเดินเข้ามา
“นี่คือมรดกของท่านอ๋อง! รับไปสิเพคะ!”
หลิงอวี๋ก็ไม่พูดพร่ำให้เสียเวลา เดินเข้าไปวางกล่องบนขาของเซียวหลินเทียน แล้วหมุนตัวเดินออกไป
เซียวหลินเทียนตะลึงไปครู่หนึ่ง หลิงอวี๋เจาะจงมาที่นี่ ก็เพื่อจะเอาหีบนี้มาให้อย่างนั้นหรือ?
“หยุด!” เขาตะโกนออกไป
“ยังมีเรื่องอะไรอีกเพคะ?”
หลิงอวี๋หันกลับมาอย่างรำคาญ ท่าทีรำคาญนั้นทำให้เซียวหลินเทียนตะลึงไปอีกครั้ง
ตอนนี้กระทั่งการคุยกับตน นางก็รำคาญถึงเพียงนี้เลยหรือ?
จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อวานขึ้นมา
นางบอกว่า ‘เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้ายังไง บัดนี้ไปข้าล้วนผกผันไปหมดสิ้นแล้ว!!’
“เจ้าเอาเงินที่ไหนไปไถ่มรดกคืนมาได้?” เซียวหลินเทียนเอ่ยถาม
หลิงอวี๋ยกยิ้ม “นั่นมันเรื่องของหม่อมฉัน เกี่ยวอะไรกับท่านอ๋องเล่า? ของอยู่ในมือท่านแล้ว ใช้หนี้จบแล้วก็พอ!”
เซียวหลินเทียนขมวดคิ้ว ไม่ชอบน้ำเสียงที่หลิงอวี๋ใช้กับตนเองมาก ๆ
“หรือว่าพระชายาจะไปกู้เงินอีกแล้วเจ้าคะ?”
ชิวเหวินซวงที่เอาน้ำมาให้เซียวหลินเทียนมาถึงแล้วได้ยินบทสนทนานี้เข้าพอดี ก็ขมวดคิ้วแล้วเอ่ย
“พระชายา ท่านจะไปกู้ยืมมาเรื่อย ๆ เช่นนี้มิได้นะเจ้าคะ! ถึงเวลาพระชายาจะเอาอะไรไปคืนได้?”
“อวดดี เจ้านับว่าเป็นอะไรกัน? เรื่องของข้าเจ้ามายุ่งอะไร?”
ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นว่าแม่ดอกบัวขาวนี่มา ก็ยิ่งรำคาญ หัวเราะเยาะไป
“ในตำหนักมีคนตั้งมากมายยังไม่เพียงพอให้เจ้าไปสนใจหรือ? คิดจะมาสนใจข้า รอให้ได้นั่งอยู่ในตำแหน่งพระชายาก่อนแล้วค่อยมาพูดเถอะ!”
ชิวเหวินซวงรีบคุกเข่าลง แสร้งทำรู้สึกผิดแล้วเอ่ย “พระชายาใจเย็นนะเจ้าคะ บ่าวเพียงแค่เป็นห่วงว่าพระชายาจะหลงผิดอีก แล้วทำให้ตำหนักอ๋องอี้เสื่อมเสียชื่อเสียง...”
“พอแล้ว! เหวินซวงลุกขึ้นมา!”
ชิวเหวินซวงไม่ใช่นางรับใช้ที่ถวายตัวให้ตำหนัก แต่เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของชิวเฮ่าที่เซียวหลินเทียนช่วยชีวิตไว้
นางทำงานเพื่อตำหนักอ๋องอี้ ก่อนนี้เซียวหลินเทียนก็เคยกำชับแล้วว่า ถ้าไม่ได้มีเรื่องพิเศษ ชิวเหวินซวงกับชิวเฮ่าไม่ต้องคุกเข่าคำนับ
เซียวหลินเทียนเห็นว่าหลิงอวี๋ใช้ตัวตนในการเป็นพระชายามารังแกชิวเหวินซวง ก็โกรธจนสีหน้าเรียบนิ่ง แล้วให้ชิวเหวินซวงลุกขึ้น
เขานึกถึงเทียบเชิญนั้น แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมา
“หลิงอวี๋ การปลอมแปลงเทียบเชิญถือเป็นโทษร้ายแรง! เจ้ารีบไปเผาเทียบเชิญนั้นเสีย!”
“เลี่ยงการมีคนไปกล่าวโทษถึงหน้าประตู! ถึงเวลานข้าก็ปกป้องเจ้าไม่ได้!”
หลิงอวี๋ได้ยินเข้าก็โกรธมาก นางยิ้มเยาะแล้วพูด “ท่านอ๋องเคยปกป้องหม่อมฉันเมื่อใดรึ? อย่าดีแต่พูดทั้งที่ทำไม่ได้เลยเพคะ!”
“เซียวหลินเทียน หากท่านไม่เชื่อว่าเทียบเชิญของหม่อมฉันเป็นของจริง! เช่นนั้นเราก็รอดูกันไป!”
“หม่อมฉันจะเอาเทียบเชิญสองใบนั้นเข้าวังไปด้วย ถึงเวลานั้นท่านอ๋องก็ดูแล้วกันว่าหม่อมฉันเข้าไปได้หรือไม่! หึ...”
เซียวหลินเทียนโกรธมาก เขายิ้มเยาะพลางพูด “ได้ เจ้าอยากรนหาที่ตายก็ไปเถอะ! กล้าทำให้ตำหนักอ๋องอี้เดือดร้อน ข้าก็จะปล่อยให้เจ้าตายไปโดยไม่มีที่ให้ฝังศพ!”
“เซียวหลินเทียน นี่ต่างหากสินะที่เป็นคำพูดจากใจจริงของท่าน! วางใจเถอะ หม่อมฉันกล้าทำกล้ารับ ไม่มีทางทำให้ท่านอ๋องที่… ขี้ขลาดเดือดร้อนเป็นแน่! ไอ้คนหลายใจ!”
หลิงอวี๋มองเขาอย่างดูถูก แล้วยิ้มอย่างอวดดี
“หากข้าเอาเทียบเชิญปลอมเข้าวังไปจริง ๆ คงจะโกรธพวกคนที่รอชมการแสดงของข้าสินะ?”
“อ๊ากก จะรอดูสายตาที่กระวนกระวายนอนตายตาไม่หลับของพวกนาง!”
“โธ่ นี่มันครั้งแรกเลยนะว่าข้าจะได้เข้าเฝ้าไทเฮาในวันเกิดของพระองค์ จะเตรียมของขวัญอะไรดีนะ! ข้าจะต้องเค้นสมองครุ่นคิดให้ดีสักหน่อยแล้ว...”
นางพูดพึมพำกับตนเอง แล้วหมุนตัวเดินออกไป
เดินไปไม่ไกล หลิงอวี๋ก็อดไม่ได้จริง ๆ ก็จะหัวเราะออกมา...
เสียงหัวเราะบ้าคลั่งอวดดีนั้นทำให้คนที่อยู่ในสวนของเซียวหลินเทียนได้ยินกันทั้งหมด เซียวหลินเทียนก็หลับตาลงอย่างหมดคำพูด...
หลิงอวี๋ผู้นี้ จงใจจะยั่วโมโหเขา!
ชิวเหวินซวงสีหน้าไม่สู้ดี นางยังคิดว่า เรื่องที่ไปกู้ยืมเงินจะทำให้หลิงอวี๋ลำบากใจไปได้ ไหนเลยจะคิดว่าคำพูดเพียงประโยคเดียวของหลิงอวี๋จะทำเอาตนพูดไม่ออกไปเลยเชียว!
ชิวเหวินซวงรังเกียจ แต่นึกขึ้นได้ว่าข้างนอกนั้นกระจายข่าวกันไปทั่วแล้ว ว่าเทียบเชิญของหลิวอวี๋คือของปลอม!
ในใจของนางก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมา
หลิงอวี๋ ให้เจ้าอวดดีไปก่อนเถิด!
ข้าพนันเลยว่าเจ้าไม่กล้าเอาเทียบเชิญปลอมไปเข้าร่วมงานเลี้ยงวันเกิดหรอก!
ถ้าเจ้ากล้าไป เช่นนั้นก็ทำได้เพียงไปไม่กลับแล้วล่ะ!
ข้าจะรอดูว่าใครจะกล้าเก็บศพเจ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
ลุ้นจะหนียังไง...
หงุดหงิด กับเด็กนรกก...
อ๋องอี้กับชิวเหวินซวงเหมาะสมกันมาก เหมือนผีเน่ากับโลงผุเลย คนนึงเป็นอ๋องใจบอด อีกคนมักใหญ่ใฝ่สูง เล่เหลี่ยมมากมาย...
ถ้านางเอกกับลูกยอมรับอ๋องอี้ในที่สุดคือไม่เข้าท่าเลยนะ...
จะได้เปิดโรงหมอแล้ว เย่ๆๆๆ...
อ๋องอี้ก็ยังโง่ให้คนอื่นจูงจมูกง่ายๆเหมือนเดิม...
ต่อให้ไม่ใช่ลูกเห็นเด็กเล็กโดนขนาดนั้นก็ต้องรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่นี่คือจิตใจอำมหิตมากกกก...
ในที่สุดควสมจริงก็เปิดเผยสักที แล้วทุกคนจะรับผิดชอบที่รักแกเยวี่ยเยวี่ยกับหลิงอวี่อย่างไรล่ะ...
อ๋องอี้ก็เฮงซวย ฮ่องเต้ก็ถูกจูงจมูกง่ายๆ หวังว่านางเอกกับลูกจะรอด แล้วทำให้พ่อกับปู่รู้ว่าตัวเองชั่วช้าคิดฆ่าลูกกับหลานแท้ๆได้ลงคอ หรือยัยน้องกับลูกต้องถูกทรมานเจียนตายจนใกล้ตอนจบเลยหรือเปล่า ส่วนไทเฮานั้นถ้าน้องรอดชีวิตไปได้ก็อย่าได้พบหญิงชรานางนี้อีกเลย...
อ๋องอี้คือผัวสารเลวสุดแสนเฮงซวยที่สุดแล้ว ต่อไปข้างหน้า ถ้านางเอกมารักกับผัวเฮงซวยแทนที่จะเลิกรากันไปนี่คือ เธอช่างใจกว้างไปละ...