บทที่ 116 หน้าวังมีผู้คนเดินขวักไขว่เหมือนตลาดนัด
เมื่อเข้าไปที่หน้าวัง มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยจริงๆ เมื่ออันหลิงหยุนเดินเข้าไปถึงประตู พ่อบ้านก็เห็นเข้าทันที ตอนนี้พ่อบ้านยุ่งเสียจนเหมือนถูกไฟรน คนเยอะเกินไป จนเขาทำอะไรไม่ทัน ท่านอ๋องเองก็ไม่ออกมารับหน้า พระชายาเองก็ไม่มา เขาแทบจะหายใจไม่ทันแล้ว
เมื่อเห็นอันหลิงหยุน พ่อบ้านจึงรีบเดินเข้าไปหา แล้วถวายความเคารพ: “พระชายา”
“อืม ลำบากท่านพ่อบ้านแล้ว เมื่อคืนข้าเป็นหวัดนิดหน่อย จึงรู้สึกหนักตัว ถึงได้ออกมาช้า ลำบากท่านแล้ว!”
พ่อบ้านรีบพูดว่า: “เป็นหน้าที่ของหม่อมฉันอยู่แล้ว พระชายาทรงกล่าวเกินไปแล้ว”
“อืม”
ตอนนี้เอง อันหลิงหยุนเพิ่งจะมองไปในลาน อากาศหนาวเย็น มีขุนนางบางคนที่ตำแหน่งไม่ได้สูงนัก ก็ยืนหนาวเย็นอยู่ภายในลาน ส่วนบางคนนั่งอยู่ในห้องโถงด้านหน้า
อันหลิงหยุนหันไปพยักหน้าให้กับเหล่าขุนนางที่ไม่รู้จักก่อน: “ขอบคุณใต้เท้าทุกท่าน ฮูหยินทุกท่าน วันนี้ท่านอ๋องทรงมีธุระ ยังไม่สามารถมาพบกับทุกท่านได้ ข้าจึงออกมาแสดงความขอบคุณและออกมาต้อนรับทุกท่านแทนท่านอ๋องก่อน”
“พระชายาเสียนทรงเกรงใจเกินไปแล้ว พวกกระหม่อมสามารถอยู่รอพบหน้าพระชายาได้ ก็ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งแล้ว จะกล้าคาดหวังให้ท่านอ๋องออกมาต้อนรับได้กระไรกัน เกรงว่าการรอของกระหม่อมจะเป็นการรบกวนเสียมากกว่า” ฮูหยินของรองเจ้ากรมพิธีการออกมากล่าวประจบ
อันหลิงหยุนคาดคะเนด้วยสายตาน่าจะอายุห้าสิบกว่าแล้ว แต่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่ผิวที่ดูมีสุขภาพดีเท่านั้น แม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็ดูสวยงาม ยากที่จะหาคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกันมาเทียบได้
“พระชายา นี่คือฮูหยินของรองเจ้ากรมพิธีการ” พ่อบ้านแนะนำ อันหลิงหยุนพยักหน้า หมายความว่ารู้แล้ว
ด้วยฐานะของนางที่เหนือกว่าคนอื่น นางจึงไม่จำเป็นจะต้องสนใจคนเหล่านี้
ฮูหยินของรองเจ้ากรมพิธีการได้หน้าได้ตาแล้ว จึงไม่กล้าที่จะขวางทางอันหลิงหยุน ทักทายเสร็จจึงรีบถอยออกไปอยู่ด้านข้างทันที
อันหลิงหยุนเดินเข้าไปในโถงด้านหน้า แล้วหันไปพยักหน้าเพื่อแสดงความทักทาย
เหล่าขุนนางใหญ่กลับไปเดินออกไปด้านหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยอย่างไม่ระมัดระวัง แต่สำหรับบรรดาฮูหยินแล้วนั้น คงจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับอันหลิงหยุนหลุดมือไปแน่
แม้ว่าปกติแล้วอันหลิงหยุนก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเป้าหมายของการพยายามประจบสอพลอของพวกนาง
คนด้านนอกค่อยๆทยอยกลับ อันหลิงหยุนจึงเข้ามาที่โถงด้านหน้า ใช้สายตาที่เป็นประกายเหมือนกับน้ำมองสอดส่องไปทั่วโดยไม่ให้ใครรู้ เพื่อจะดูเหตุการณ์ต่างๆภายในห้อง
คนที่ควรจะมาก็มาหมดแล้ว แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้จัก
อ๋องตวนและพระชายาตวนเองก็รู้จักกัน
อ๋องตวนนั่งอยู่ด้านล่างที่นั่งของเจ้านาย ที่ตรงนั้นมีเพียงเขาเท่านั้นที่กล้านั่ง ส่วนคนอื่นๆล้วนไปนั่งที่อื่นกันหมด
จุนฉูฉูเองก็นั่งอยู่ข้างเขา มือของเขากุมมือจุนฉูฉูไว้ ทำให้คนรอบข้างรู้สึกอิจฉาจริงๆ
จุนฉูฉูสวมใส่เสื้อผ้าสีม่วง ปักปิ่นง้วนป้อ ทั้งสองข้างประดับด้วยลูกปัดมรกตสีน้ำเงิน ที่จัดเรียงแบบไม่ซับซ้อน มีเพียงไม่กี่เม็ด มีลูกปัดมรกตฝังเอาไว้ตรงกลางหนึ่งเม็ด ตุ้มหูที่อยู่บนหูทั้งสองข้างก็เช่นเดียวกัน เป็นลูกปัดทอง
โดยปกติแล้ว จุนฉูฉูมักจะกลายเป็นที่จับตามองที่สุดในบรรดาผู้หญิง
เมื่ออันหลิงหยุนเห็นจุนฉูฉูและอ๋องตวน ก็หันไปพยักหน้าให้กับพวกเขา แล้วจึงหันกลับไปมองคนอื่นๆ พร้อมกับพยักหน้า นี่จึงเป็นการอธิบายถึงเหตุผลแล้วว่าทำไมกงชิงวี่ไม่มา
ทุกคนต่างไม่ได้สนใจ กระไรก็ตามพวกเขามาเพื่อแสดงความยินดี ไม่ใช่เพื่อที่จะมาดูกงชิงวี่ เมื่อส่งของขวัญมาแล้ว ก็ถือว่าคิดถึงแล้ว
“พระชายา ท่านนี้คือฮูหยินกั๋วจิ้ว”
พ่อบ้านพาอันหลิงหยุนไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นหัวหน้า ผู้หญิงคนนั้นสวมใส่เสื้อผ้าสีน้ำเงิน มวยผมสูง ดวงตาลึกซึ้ง เมื่อเห็นแล้วก็รู้ว่าไม่สามารถจัดการได้ง่ายๆ
“ฮูหยิน”
อันหลิงหยุนนึกถึงกรณีของจวนอ๋องจุ้นโก๋ขึ้นมาอีกครั้ง คนที่อยู่ตรงหน้าคนนี้น่าจะเป็นจวิ้นจู่ฉงหยาง อันหลิงหยุนไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่นัก
“พระชายาตัวจริงกับที่เขาร่ำลือกันข้างนอกต่างกันนิดหน่อย วันนี้ได้มาเห็นด้วยตาตนเอง ก็ทำลายข่าวลือนั่นไปเสียหมดสิ้น” จวิ้นจู่ฉงหยาง รู้สึกดูถูกดูแคลนอันหลิงหยุนอยู่ในใจ แต่เพราะว่านางเป็นป้าของกงชิงวี่ หากไม่มาก็คงไม่ได้
“คนที่ชัดเจนก็ชัดเจน คนที่สับสนก็สับสน เรื่องด้านนอกข้าเองก็ก้าวก่ายไม่ไหว เชิญฮูหยินนั่งลงเถอะ พ่อบ้าน เปลี่ยนชา”
ตอนที่อันหลิงหยุนกำลังสั่ง จวิ้นจู่ฉงหยางก็นั่งลง คนที่เหลือก็นั่งลงตามไปด้วย อันหลิงหยุนเห็นว่าในห้องมีคนมาก จึงไม่ได้คิดที่จะไปทำความรู้จักทีละคนๆแล้ว
อันหลิงหยุนนั่งลงแล้วพูดสองสามประโยค ก็สังเกตเห็นสาวน้อยตัวเล็กๆคนหนึ่งยืนอยู่ที่มุม ดูๆไปแล้วเด็กคนนั้นน่าจะอายุน้อยกว่าลุ่ยหลิ่วเสียอีก บนศีรษะสับหวีมวยผมไว้หนึ่งอัน รูปร่างอ้วนท้วน ใบหน้างดงาม ตอนนี้กำลังจ้องมองนางอยู่ อันหลงหยุนถูกมองจยรู้สึกแปลกใจ คิดที่จะพิจารณานาง
สาวน้อยเห็นอันหลิงหยุนมองนาง จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เวลาหัวเราะเผยให้เห็นลักยิ้มทั้งสองข้าง ดวงตากลมโตทั้งสองข้างหรี่ลง อันหลิงหยุนมองหมาจิ้งจอกหางสั้นที่อยู่ในอ้อมแขนของตนเองแล้วรู้สึกว่า ดูคล้ายกันนัก!
อันหลิงหยุนละสายตา แล้วหันมามองคนที่อยู่ข้างๆซึ่งรู้สึกคุ้นตา แล้วนึกขึ้นได้ว่าเป็นลุงคนเล็กของกงชิงวี่จึงหันไปทางด้านนั้นแล้วพยักหน้า
กั๋วจิ้วน้อยพยักหน้า และยิ้มอย่างสบายๆ
เมื่อรินน้ำชาแก้วใหม่ ตวนอ๋องถามขึ้นว่า: “อ๋องเสียนจะกลับมาเมื่อไหร่?”
“เรื่องนี้หม่อมฉันเองก็บอกไม่ได้เหมือนกัน เมื่อเช้าก็ไม่ได้บอกว่าวันนี้จะออกไปไหน เดิมทีข้าเองก็สุขภาพไม่ค่อยดี พักผ่อนอยู่ในห้อง เป็นเพราะท่านอ๋องไม่อยู่ ท่านถางจึงไปเชิญข้าออกมา ข้าถึงรู้ว่าท่านอ๋องไม่อยู่ อาจจะกลับมาพรุ่งนี้ตอนเช้าตรู่ คงจะต้องรอถึงตอนนั้น”
เมื่ออันหลิงหยุนพูดจบ ทุกคนต่างก็หันมองหน้ากัน คิดว่าคงจะอยู่รอกงชิงวี่ไม่ไหว และอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีใครอยากเจอกงชิงวี่อยู่แล้ว จึงค่อยๆลุกขึ้นและขอตัวกลับไปทีละคนๆ อันหลิงหยุนลุกขึ้นส่งแขก ทุกคนค่อยๆทยอยออกไปด้านนอก ภายในโถงด้านหน้าจึงเหลือคนอยู่เพียงไม่กี่คนแล้ว
ตอนนี้เอง อันหลิงหยุนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า คนทั้งสองกลุ่มนี้รู้จักกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...