บทที่ 130 คนในโลกอนาคต
กงชิงวี่เปลี่ยนน้ำไปหลายครั้ง และเรียกให้คนไปเตรียมยาลดไข้ให้นาง
หลังจากดื่มยาอันหลิงหยุนก็ยังคงมีไข้ กงชิงวี่อุ้มไปยังบนเตียงและกอดนางเอาไว้ จนกระทั่งผ่านพ้นไปตลอดคืน ไข้ของนางจึงทุเลาลง
แต่ในตอนเช้า สีหน้าของกงชิงวี่กลับดูดำคล้ำอย่างยิ่ง อันหลิงหยุนนึกไปว่าเป็นเพราะเรื่องของพวกถางเหอ
หลังอาหารเช้ากงชิงวี่ก็เอ่ยถาม "ซูมู่หลงข้าไม่เคยพบมาก่อน ในเมืองหลวงก็ไม่เคยได้ยินคนชื่อนี้ พระชายาแนะนำให้ข้าได้พบหน่อยดีหรือไม่”
มือของอันหลิงหยุนสั่น นางแทบจะกลืนอาหารไม่ลง นางเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าเย็นชาของกงชิงวี่ จากนั้นจึงเอ่ยตอบอย่างอึดอัด “หากข้าเล่า ท่านจะเชื่อหรือไม่?”
""พระชายาไม่เล่า ตัวข้าจะรู้ได้กระไรว่าเชื่อหรือไม่?”
เป็นครั้งแรกที่อันหลิงหยุนเจอกับคนที่ยากจะรับมือเช่นนี้ เมื่อคิดดูแล้วก็เห็นว่าตนสมควรจะทานอาหารเสียก่อน ทานเสร็จค่อยเล่าจะดีกว่า
“พระชายาช่างไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาจริงๆ” กงชิงวี่วางตะเกียบในมือลงและหยุดทาน
อันหลิงหยุนทานเสร็จจึงค่อยลุกขึ้น
“ท่านอ๋อง พวกเราออกไปเดินเล่นกันเถอะ" อันหลิงหยุนไม่มีอะไรทำ แต่ร่างกายของนางเพิ่งจะฟื้นฟู นางอยากจะออกไปเดินเล่นแต่กลับทำให้กงชิงวี่เป็นกังวล
ใบหน้าที่แต่เดิมมืดมน มาในตอนนี้กลับดูนุ่มนวลขึ้นมาหลายส่วน “เพิ่งจะดีขึ้น จะออกไปทำอะไร?”
“ท่านอ๋อง เป็นหวัดต้องออกไปเดินเล่นบ้างจึงจะถูกต้อง" อันหลิงหยุนมองไปที่หงเถาและลุ่ยหลิวที่นำเสื้อคลุมขนสัตว์มาให้ นางสวมมันไว้และเดินออกไปข้างนอก
อากาศเริ่มอบอุ่น ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสวมใส่มากจนเกินไป แต่เนื่องจากอาการป่วยของนาง ยังคงต้องใส่ให้มากหน่อยอยู่บ้าง
กงชิงวี่สวมเสื้อขนอ่อนและตามออกไป เมื่อถึงประตูอันหลิงหยุนก็จับมือของกงชิงวี่เอาไว้ และต้องการที่จะเดินไปพร้อมๆ กับเขา
กงชิงวี่พลิกมือมากุมนางเอาไว้ จากนั้นจึงปล่อยแขนเสื้อลงเพื่อปกปิดมือของพวกเขา
อากาศยังหนาวแต่เนื่องจากแขนเสื้อของเขามีขนสัตว์ปกคลุมอยู่ ดังนั้นเมื่อปล่อยมันลงมาปกคลุมจึงอบอุ่นขึ้นมา
อันหลิงหยุนก็ไม่รู้ว่าเช่นกันแขนเสื้อของเขาทำมาจากหนังอะไร แต่มันให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างยิ่ง บวกกับมือของเขาที่ร้อนผ่าว ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไป
เมื่อออกจากจวนอ๋องเสียนทั้งสองก็เดินมุ่งหน้าไปยังจวนแม่ทัพ อันหลิงหยุนคิดจะกลับไปดูที่จวนสักหน่อย
ร่างกายของนางอ่อนแอ ระบบร่างกายยังไม่ทำงาน ดังนั้นยามนางเดินจึงไม่ค่อยกระฉับกระเฉงนัก
กงชิงวี่เอ่ยถาม "ไม่นั่งรถหรือ?”
“ไม่นั่ง ข้าอยากเดินเล่นๆ ท่านอ๋องมิใช่อยากรู้เรื่องของคนผู้นั้นหรอกหรือ หากหม่อมฉันนั่งรถ ยังไม่ทันได้เล่าจบก็คงจะไปถึงที่หมายแล้ว คงยากที่จะกลับ?”
ใบหน้าของกงชิงวี่เย็นชา "ทั้งคืนพระชายาเอาแต่เรียกชื่อเขา หรือเจ้าอยากจะให้ข้าอกแตกตาย?”
“ท่านอ๋อง ท่านช่วยหยุดเอาเรื่องความตายไปแขวนไว้ที่ปากเสียทีได้หรือไม่ การตายดีขนาดนั้นเลยหรือ?”
บางทีนางอาจจะไม่ได้รักกงชิงวี่ แต่อย่างน้อยนางก็ไม่ได้รังเกียจ ร่างกายของนางก็เข้ากับเขาได้ดีเช่นกัน
กงชิงวี่ดีกับนางไม่น้อย เรื่องใหญ่โตเช่นเมื่อวานเกินขึ้นแต่เขาก็ไม่ได้จัดการอะไรนาง
หากเขาไม่แต่งพระชายารอง นางก็จะไม่จากไปไหน
ถึงแม้อารมณ์ของเขาจะรุนแรงไปบ้าง แต่นางก็ไม่ได้รังเกียจ
“ข้าก็แค่โมโหเท่านั้น” กงชิววี่เองก็มีท่าทีอ่อนลง อันหลิงหยุนอิงเขาเอาไว้ นางเดินไปอย่างช้าๆ และเริ่มเอ่ยถึงโลกใบนั้น
“ท่านอ๋องท่านเชื่อหรือไม่ว่าพอคนเราตายแล้วจะไปอยู่ที่อีกโลกหนึ่ง?” อันหลิงหยุนเอ่ยถาม
กงชิงวี่ตอบ "ไม่เชื่อ"
“ท่านอ๋อง มีสถานที่หนึ่งที่เรียกว่าโลกอนาคต ท่านจำหนังสือเล่มนั้นที่ข้าเอ่ยกับท่านได้หรือไม่?”
“จำได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...