ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 137

บทที่ 137 พระชายาควักหัวใจ

ชุนหงนึกถึงพี่สาวคนก่อนหน้านาง ตอนแรกอยู่ข้างกายพระชายาดีๆ อยู่ๆก็หายตัวไปเฉยๆ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา รีบร้อนคำนับ “ข้าน้อยจำไว้แล้ว พระชายาวางใจ ข้าน้อยจะไม่พูดผิดแม้แต่คำเดียว”

จุนฉูฉูถึงจะหลับตาพักผ่อน

กลับถึงจวนอ๋องตวนอ๋องตวนยังไม่ได้กลับมา จุนฉูฉูลงจากรถม้ายิ้มเยาะในที

กงชิงหยินนี่เจ้าได้ใหม่ลืมเก่าเหรอ?

วันนี้กงชิงหยินรับพระเสาวนีย์ฮั๋วไท่เฟยส่งหยุนโล๋ชวนกลับจวนอันกั๋วกง เวลานี้กงชิงหยินอยู่ในจวนอันกั๋วกง

อัยกั๋วกงไม่ได้รู้สึกว่าจะมีความพิเศษอันใดเขยคนนี้ ไม่ได้พบเขาด้วย

แต่ว่ายังอันใดกงชิงหยินก็เป็นถึงอ๋อง อันกั๋วกงไม่พบ แต่คนในจวนอันกั๋วกงยังอันใดก็ต้องไว้หน้าเขา ยังอันใดก็ต้องให้การรับรอง แต่ว่าทุกคนในจวนอันกั๋วกงแสดงกิริยาเหมือนกันกับอันกั๋วกง สำหรับกงชิงหยินที่เป็นถึงอ๋องตวนคนนี้ให้การต้อนรับพอเป็นพิธีก็ถือว่าเป็นการรับรองแล้ว

ฮูหยินแก่สั่งให้หยุนโล๋ชวนพาอ๋องตวนไปเดินรอบๆจวนอันกั๋วกง จากนั้นก็เดินกลับออกไป

หญิงในบ้านคนอื่นๆต่างรู้สึกผิดหวังในตัวอ๋องตวน ได้ยินมาว่ากลัวเมีย แถมยังเป็นคนไม่แบ่งแยกดีชั่วอีก เลยไม่อยากพบ โผล่หน้ามาก็ไปกันหมด

กงชิงหยินก็ดูออกว่า คนที่นี่ไม่ต้อนรับเขา

“นี่ข้าล้มเหลวขนาดนี้เลยหรือ” เดินไปทางสระบัวที่ไม่มีคน กงชิงหยินมองน้ำในสระ จิตใจดูเลื่อนลอย

ตั้งแต่เด็กเขาก็เป็นที่ภูมิใจของราชวงศ์ ถึงแม้จะไม่ได้ฉลาดอย่างอ๋องเสียน แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่ขนาดนั้น

เมื่อไม่นานมานี้ ในเมืองหลวงเขาคือคนฉลาดระดับใด ทำไมถึงเปลี่ยนไปเป็นอย่างวันนี้ได้

หยุนโล๋ชวนเห็นกงชิหยินรู้สึกผิดหวัง ไม่อยากซ้ำเติมเขาอีก “ตระกูลของเราเป็นคนที่อยู่แต่กับการต่อสู้ ปกติแล้วก็ไม่เหมือนคนตระกูลอื่นที่พูดจาดีและน่าฟัง ดังนั้นท่านก็อย่าใส่ใจเลย ท่านก็คิดซะว่าไปเดินรอบเมืองที่มีเสียงจอแจ คนพวกนั้นก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับท่าน ท่านอย่าสนใจเลย

กงชิงหยินหันมามองด็กสาวที่ค่อนข้างเจ้าเนื้อตรงหน้า รู้สึกขำ “เจ้ารู้สึกว่าข้าไร้ประโยชน์มากหรือ?”

“ก็พอใช้ได้” หยุนโล๋ชวนเมตตามากพอแล้ว นางเกือบตอบว่าใช่แล้ว

กงชิงหยินส่ายหัว “ข้าคงจะไร้ประโยชน์จริงๆ ดูเหมือนว่าฝีมือข้าก็คงจะมีแค่นั้น ไม่แปลกใจเลยที่วันนั้นแม้แต่แม่ทัพอันข้าก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้

“ท่านแม่ทัพอันเก่งขนาดนั้น ต่องสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ข้าก็สู้แม่ทัพอันอยู่ไม่ได้ แต่ทักษะวรยุทธของท่านก็ไม่ดีจริงๆนั่นแหละ ท่านกับข้าอาจจะพอสูสีกัน ถ้าท่านกับพี่ชายพี่สาวทั้งหลายของข้า มีแต่จะโดนตีเท่านั้น” หยุนโล๋ชวนพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม

กงชิงหยินเลิกคิ้ว “นอกจากฮ่องเต้แล้ว ใครจะกล้าตีข้า?”

“มันก็ไม่แน่หรอก พึ่งบารมีฮ่องเต้แล้วพูดแบบนี้ ไม่ถือว่ามีความสามารถอันใด

ท่านปู่ข้าบอกกับข้าว่า ฮ่องเต้อาจจะดูสูงส่ง แต่ความจริงแล้วอันตรายที่สุด

ฮ่องเต้ยืนอยู่ข้างไหน คนจำนวนไม่น้อยก็มองเห็นได้ เวลาลงมือจะยิ่งง่ายมากขึ้น ดังนั้นเราต้องพยายามฝึกฝนวรยุทธให้ดี จะได้ปกป้องฮ่องเต้ตอบแทนบ้านเมือง

กงชิงหยินมองดูอุดมการณ์แบบเด็กๆของเด็กสาวคนนี้ เข้าใจเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที

ทำไมอันกั๋วกงถึงได้มีเกีรติยศสูงส่งมากในประเทศต้าเหลียง

ความภักดีต่อฮ่องเต้และประเทศต้าเหลียง ฟ้าดินเป็นพยาน

ออกจากจวนอันกั๋วกงชิงหยินขึ้นรถม้า มองไปที่สาวน้อยที่ยืนอยู่หน้ารถม้าสักครู่ นึกขำอยู่พักหนึ่ง “ข้าว่าตอนนี้เจ้าก็ไม่ได้น่ารังเกียจขนาดนั้นแล้ว”

ตอนแรกอารมณ์ของหยุนโล๋กำลังดีมาก. ได้ยินคำพูดของกงชิงหยินก็โมโหขึ้นมา

“ท่านไม่น่ารังเกียจ!” หยุนโล๋ชวนหันหลังเดินกลับไป

กงชิงหยินกลับเข้ารถม้า ยังอันใดก็ยังเป็นเด็ก นางยังไม่ประสีประสาอันใด

พักผ่อนไปหลายวันอันหลิงหยุนเตรียมตัวจะกลับจวนแม่ทัพสักครั้ง พักนี้ไม่มีข่าวจากท่านแม่ทัพพ่อของนาง อันหลิงหยุนรู้สึกอยู่ไม่เป็นสุข

กงชิงวี่ออกไปถวายการรับใช้ฮ่องเต้ทุกเช้า หลายวันนี้มานี้ออกเช้ากลับค่ำทุกวัน เขายุ่งกับเรื่องตูฟางจุ้นก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว กลางคืนกลับถึงจวนยังจะมาทรมานคนอีก ถึงแม้ว่าร่างกายกงชิงวี่จะไหว อันหลิงหยุนก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี

ออกจากจวนอ๋องอันหลิงหยุนก็ได้ยินคนตามถนนหนทางกล่าวว่า พระชายาตวนได้ไปทำการขอแต่งงานที่จวนอันกั๋วกงด้วยตัวเอง เรื่องแต่งงานได้รับการยอมรับจากฮ่องเต้และฮั๋วไท่เฟยแล้ว ไม่นานนี้จวนอ๋องตวนจะมีการแต่งพระชายารองเข้าจวนแล้ว

อันหลิงหยุนเดินไปตามถนน เดินไปฟังคำพูดเรื่องที่คนเหล่านั้นพูดชื่มชมจุนฉูฉูไป รู้สึกไม่ควรค่าแก่การมองยิ้มเยาะออกมาอย่างเยือกเย็น

อาหยู่เลิกคิ้ว มองไปทางอันหลิงหยุน แม้กระทั่งหงเถาลุ่ยหลิวก็มองไปทางอันหลิงหยุนอย่างระมัดระวัง

พระชายาอิจฉาที่จวนอ๋องตวนมีพระชายารองที่อ่อนโยนมีศีลธรรมเข้าจวน หรืออิจฉาชื่อเสียงพระชายาตวนที่ดีกว่านางมากนัก

กระไรเสีย ในเมืองหลวงตอนนี้ก็ลือกันไปว่า ที่จวนอ๋องเสียนไม่แต่งพระชายารอง ก็เป็นเพราะพระชายาเสียนก่อเรื่องเก่ง บวกกับมีฮ่องเต้กับแม่ทัพอันคอยให้ท้าย นางจึงไม่ยอมให้อ๋องเสียนมีพระชายารอง

“พระชายาท่านเป็นอันใดไป” ลุ่ยหลิ่วรวบรวมความกล้าถาม เห็นอันหลิงหยุนไม่พูดไม่จาเป็นเวลานาน เพียงแต่ใช้สายตาดูถูกมองไปยังผู้คนที่กล่าวชื่มชมตามถนนหนทาง

อันหลิงหยุนกล่าวอย่างสบายๆว่า “ถึงแม้นิสัยพระชายาตวนจะไม่ได้ดีซักเท่าไหร่ แต่บางครั้งข้าก็รู้สึกสงสารนาง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นพระชายาแท้ๆ ยังต้องมาจัดการเรื่องพระชายารองสามี ผู้หญิงต้องใจกว้างถึงขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าจะไม่รักสามี ก็เป็นแค่แมลงที่น่าสงสารเท่านั้น”

พวกลุ่ยหลิวรู้สึกหมดคำพูด การจัดการเรื่องแต่งพระชายารองให้กับสามีไม่ใช่เรื่องที่พระชายาเอกต้องจัดการหรือกระไร

“พระชายา มีพระชายารองแล้วก็จะมีคนแบ่งเบาเรื่องราวในจวน สองคนช่วยดูแลท่านอ๋อง อย่างนั้นแล้วพระชายาก็จะรู้สึกสบายขึ้น” ลุ่ยหลิ่วกล่าวขณะรู้สึกสับสน

อันหลิงหยุนหัวเราะในลำคอ “พูดว่าอันใดนะรักนี้จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พูดว่าฉันรักเธอ ยังไม่อาจสู้กับประเพณีที่กำหนดขึ้นได้งั้นเหรอ อ๋องตวนรักพระชายาขนาดนั้น อมไว้ในปากก็กลัวละลาย ถือไว้ในมือก็กลัวแตกหัก สุดท้ายกลับจะไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น ข้าอยากจะควักหัวใจอ๋องตวนดูยิ่งนัก ว่าข้างในเป็นสีแดงหรือสีดำ”

“ทำอย่างนั้นไม่ได้นะพระชายา” ลุ่ยหลิ่วรีบร้อนบอกกล่าว

อาหยู่กล่าว “พระชายาแค่พูดไปอย่างนั้นแหละ

“อ้อ” ลุ่ยหลิวถือเป็นจริง มองไปยังหงเถา รู้สึกหมดปัญญา

อันหลิงหยุนเดินไปสักพัก เงยหน้าขึ้นมองเห็นคนๆหนึ่ง

อ๋องตวน?

อันหลิงหยุนหยุดมองไปที่อ๋องตวน คิดถึงว่าตอนนี้ทั้งสองห่างกันไม่ถึงสิบก้าว เรื่องที่พูดไปเมื่อกี้คงได้ยินไปหมดแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน