ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 175

บทที่175 ทำไมถึงชนได้

ลืมตาขึ้นมองไปที่คนโกรธยืนอยู่หน้าประตู แล้วลุกขึ้นนั่ง:“ทำข้าตกใจจนตื่นเลย”

กงชิงวี่ตะลึงไปสักครู่ ร่องรอยลำบากใจฉายไปทั่วใบหน้า:“ข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

อันหลิงหยุนรู้สึกแปลกประหลาด:“ท่านยังโกรธหลังจากที่พวกเขาไปแล้ว ทำไมหรือ?”

“ทำไมหรือ?”

กงชิงวี่ลุกขึ้น ถอดเสื้อผ้าไปด้วยแล้วอธิบายเกี่ยวกับที่มาที่ไปของเรื่องให้ฟัง อันหลิงหยุนมองเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง:“เสวยอิ่มไม่มีอันใดทำ เรื่องระหว่างสามีภรรยา ท่านไปยุ่งอันใดได้ นิ่เขาเรียกว่า จิวยี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกาย คนหนึ่งตีอีกคนก็เต็มใจให้ตี”

“เป็นเรื่องเล่าเปรียบเปรยของพวกเจ้าอีกแล้วหรือ?”กงชิงวี่สนใจที่มาที่ไปของประวัติศาตร์ เพียงแต่ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกัน มีหลายอย่างที่เขารู้แต่นางไม่รู้ และมีหลายอย่างที่นางรู้แต่เขาไม่รู้

อันหลิงหยุนช่วยกงชิงวี่ถอดเสื้อผ้าไปด้วยเล่าเรื่องราวของ จิวยี่ทำอุบายเฆี่ยนอุยกายให้เขาฟัง ทั้งสองคนพูดคุยยิ่งลึก ความรัก็ยิ่งลึก

จุนฉูฉูเจ็บไปทั้งคืน กงชิงหยินรีบเข้าวังเข้าเฝ้าฮ่องเต้แต่เช้าตรู่ ขอพระราชโองการออกคำสั่งให้ช่วยรักษาจุนฉูฉู

ฮ้องเต้ชิงหยู่รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย อันหลิงหยุนได้รับพระราชโองการให้เข้าวังเพื่อมาช่วยสองพระราชวังตรวจจับชีพจร ปรากฏว่าเมื่อเข้ามาในวังก็เห็นกงชิงหยินอยู่ในพระตำหนักจรุงจิต

หลังจากที่อันหลิงหยุนได้ไปตรวจจับชีพจรทั้งสองพระราชวังกลับมากงชิงหยินก็ยังไม่กลับ อันหลิงหยุนรู้เลยว่าต้องมีเรื่องไม่ดีแน่เลย

แต่ในเวลานี้ฮ้องเต้ชิงหยู่ลืมไปนานแล้วว่าจะทำอันใด กลับมองไปที่อันหลิงหยุนจนตาค้าง

อันหลิงหยุนรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ก้มหัวลง:“หม่อมฉันขอคำนับฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”

“ลุกขึ้นได้”

อันหลิงหยุนลุกขึ้นยืนแล้ว แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้น

“ดูเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?”ฮ้องเต้ชิงหยู่ถาม

“ กราบทูลฝ่าบาท แม่ลูกปลอดภัยดีทั้งสองวังเลยพ่ะย่ะค่ะ”อันหลิงหยุนกราบทูล

ฮ้องเต้ชิงหยู่เดินลงมาจากข้างบน เมื่อเดินไปอยู่ตรงหน้าแล้วตั้งใจสำรวจอันหลิงหยุนรอบหนึ่ง:“พระชายาเสียนช่วงนี้เสวยดีมากเลยใช่ไหม?”

“……” อันหลิงหยุนรู้สึกเศร้าโศกเล็กน้อย แสดงว่านางอ้วนขึ้นมากจริงๆ

สำหรับท้องนี้ของนางทำให้นางชอบเสวยมาก แต่เสวยแล้วกลับไม่ไปลงที่เด็ก เวลาเสวยของบำรุงเมื่อไรก็จะไปบำรุงที่ตัวนางหมด

“ทูลฮ่องเต้ ช่วงนี้ได้ทำการทดลอง ได้เตีรยมยาไว้หลายอย่าง หม่อมฉันหาคนที่เหมาะสมจะมาทำการทดลองไม่ได้ ก็เลยฉีดเข้ากับตัวเองไปหลายเข็ม ไม่คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าเสวยออันใดก็เพิ่มเนื้อ แถมเพิ่มได้เร็วด้วยอีกต่างหาก

หม่อมฉันเริ่มควบคุมพระกระยาหารแล้ว พยายามไม่เสวยพระกระยาหาร แต่แค่ดื่มน้ำก็ยังทำให้เพิ่มเนื้ออีก

พระชายารองหยุนบอกกับหม่อมฉันว่า ถ้าอ้วนต่อไปอีก ก็จะอ้วนเป็นลูกบอลแล้ว

หม่อมฉันเริ่มเสวยไม่ได้นอนไม่หลับแล้วเพค่ะ”

เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว ฮ่องแต่ก็ไม่พูดอันใดอีก

หลังจากที่อันหลิงหยุนได้ชี้แจงแล้ว ฮ้องเต้ชิงหยู่ยิ้มออกมา:“ที่พระชายารองหยุนพูดก็มีเหตุผล ข้าก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

อันหลิงหยุนยิ้มไม่ออก และไม่พูดอันใดต่ออีก

ฮ้องเต้ชิงหยู่ยิ้ม:“ช่วงนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย เจ้าช่วยเดินเป็นเพื่อนข้าหน่อย อ๋องตวนเจ้ารออยู่ที่นิ่ ข้ายังมีเรื่องจะคุยกับเจ้าอีก ”

“ กระหม่อมน้อมรับบัญชา ” กงชิงหยินหันมองไปที่อันหลิงหยุน แล้วหันกลับไป

ฮ้องเต้ชิงหยู่เดินนำออกไปข้างนอก และอันหลิงหยุนเดินตามไป

เมื่อออกจากพระตำหนักจรุงจิต อันหลิงหยุนเดินไปที่ลานสวนกว้างตรงหน้าพระตำหนักจรุงจิต ฤดูใบไม้ผลิ เป็นฤดูที่ดีมีลมมีกลิ่นหอมจาง ๆ ฮ่องเต้ชิงหยู่โดนกลิ่นหอมจางๆที่โชยมาจากตัวอันหลิงหยุนดึงดูด

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกลับไปมองอันหลิงหยุนนางไม่ได้ทาผงอันใดบนใบหน้า แต่หน้ากลับสดใจจนน่าแปลกใจ

ผู้หญิงจะแต่งตัวเพื่อคนที่ตัวเองชอบ หรือว่าคนที่จะทำให้นางชอบก็ไม่มีเลยหรือ?

ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม:“กลิ่นหอมอันใดหรือ?”

อันหลิงหยุนนึกสักครู่ :“หม่อมฉันอยู่กับยาสมุนไพรทุกวัน เป็นกลิ่นยาสมุนไพร ไม่ใช่กลิ่นหอมอันใดเพค่ะ

“ใช่รึ?ข้าดมดูแล้วเหมือนกลิ่นจางๆของหญ้าหอม เสียดายที่ตำหนักข้าไม่มีหญ้าหอม มีแต่กำแพงที่เยือกเย็น

“ฮ่องเต้มีงานที่ต้องทำมากมาย ทำเพื่อประชาชนเป็นหลัก เทพเจ้าเห็น ประชาชนเห็นและรับรู้ถึง”อันหลิงหยุนช่วงนี้กำลังดูหนังสือประวัติศาตร์ เพื่อเอาชีวิตให้รอดไม่ว่าจะให้นางทำอันใดนางก็จะยอมทำทุกอย่าง

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยิ้ม:“ไม่ต้องยอข้าหรอก ข้าไม่ได้เป็นคนบ้ายอหรอก อยู่กับอ๋องเสียนเรียนรู้มาจากอ๋องเสียนล่ะสิ?”

อันหลิงหยุนก้มหัวลง:“หม่อมฉันมิกล้าเพค่ะ”

ฮ่องเต้มองไปทีอันหลิงหยุน แล้วหันหลังให้เอามือไว้ด้านหลังพูดว่า:“เรื่องที่ตูฟางจู้นกำลังหาเงินบริจาคอยู่นั้นข้ารู้สึกยินดีและพอใจยิ่งนัก ถือว่าเป็นการทำความดีของจวนอ๋องเสียนเลย ข้ารู้ว่าควรทำยังกระไรดี องค์หญิงใหญ่ให้ความสำคัญในตัวเจ้า ส่วนเจ้าก็ทำให้คดีลุ่ล่วงไปได้ด้วยดี ที่สำคัญได้ใจคนไปไม่น้อย

“ฮ่องเต้ หม่อมฉันมิกล้า……” อันหลินหยุนจับกระโปรงขึ้นเตรียมคุกเข่าลงไป แต่ฮ่องเต้ชิงอยู่รีบห้ามไว้

“ข้าบอกแล้ว ไม่ต้องคุกเข่า ลุกขึ้นเถิด”

อันหลิงหยุนตกตะลึงเล็กน้อยแล้วลุกขึ้น มองไปที่ฮ่องเต้ชิงอยู่แล้วชี้แจงว่า:“หม่อมฉันทำงานเพื่อรับใช้ฮ่องเต้ ไม่ได้ทำเพื่ออยากได้ใจของใครเลยเพค่ะ

“ถึงแม้จะไม่ได้คิด แต่ก็ได้ใจไปแล้วจริงๆ”

“ ทูลฮ่องเต้หม่อมฉันมิกล้า ” อันหลิงหยุนเริ่มจะหมดแรง พูดคุยกับฮ่องเต้ช่างเหนื่อยเหลือเเสวย

ฮ่องเต้ยืนนิ่งไปสักครู่:“ความจริงข้าก็เป็นคนเหมือนกัน ไม่มีอันใดแตกต่าง เพียงแต่พวกเจ้าไม่เข้าใจว่าข้าพูดอันใด”

“ในมือฮ่องเต้กำมีดไว้ สามารถตัดหัวใครก็ได้ ” อันหลิงหยุนพูดออกมาตามตรง ฮ่องเต้ไม่โกรธกลับยิ้มออกมา

ฮ่องเต้หันกลับมาแล้วพูดว่า:“เจ้ากำลังตำนี่ข้าหรือ?”

“หม่อมฉันมิกล้าเพค่ะ”

“เวลาที่ข้าไม่มีอันใดทำก็พูดคุยเป็นเพื่อนข้าหน่อย ไม่ต้องกลัวขนาดนั้น เจ้ายิ่งเป็นเช่นนี้ ข้ายิ่งไม่ชอบ ในทางกลับกัน พูดจาตรงไปตรงมา ข้าจะยิ่งดีต่อเจ้า”

อันหลิงหยุนรู้สึกสับสนเล็กน้อย ฮ่องเต้เสวยยาผิดหรือเปล่า

อันหลิงหยุนกังวลไปครู่หนึ่ง ฮ่องเต้ชิงอยู่มองไปที่นาง แล้วหันกลับไป :“เรื่องตูฟางจู้นข้าพอใจมาก ส่วนเรื่องของพระชายารองหยุนข้าก็รู้ แต่ลูกสาวตระกูลจุนไม่ใช่คนธรรมดา ในเมื่อเจ้ากับพระชายาตวนเป็นศัตรูกัน ก็ควรจะรู้ว่านี่เป็นแค่กันเริ่มต้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน