ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 225

บทที่ 225 ท้ายที่สุดแล้วใครเป็นคนวางยาพิษ?

อ๋องตวนเคาะสมุดบันทึกในมือ: "เจ้ามีแผนจะทำกระไรต่อไป?"

“ เหตุการณ์เมื่อคืน จนกระทั่งรุ่งเช้ายังมีคนรู้เห็นไม่มาก จวนอ๋องชินยู่ถูกสังหารนองเลือดทั้งบ้าน เป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงตัวข้า”

"เช่นนั้นเจ้าคิดว่ากระไร?" อ๋องตวนถาม

"เรื่องฆ่าคน วางเพลิงข้าไม่รับ ใครทำ คนนั้นก็มารับไปเอง"

อ๋องตวนมองไปยังฮ่องเต้ชิงหยู่: "ฝ่าบาทล่ะพ่ะย่ะค่ะ?"

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรไปยังกงชิงวี่: "ความคิดเห็นของอ๋องเสียน คือความคิดเห็นของข้า!"

อ๋องตวนมองกงชิงวี่ที่หันกายเดินจากไป

อันหลิงหยุนเห็นท่าทางแข็งแกร่งราวจะทะลุผ่านสายรุ้ง กับท่าเดินที่รวดเร็วปานสายลมโหมพัดกระหน่ำ ฟ้าแลบแปลบปลาบวูบวาบจึงอดเรียกเขาไม่ได้ "ท่านอ๋อง"

กงชิงวี่เดินไปถึงประตูจึงหยุดลงชั่วครู่: "รออยู่ในวัง ข้าออกไปครู่เดียว"

พูดจบกงชิงวี่ก็เดินจากไปทันที อันหลิงหยุนเดินไปจนถึงประตูหลังพระตำหนักจรุงจิต มองส่งกงชิงวี่เดินลับกายไป ผลสุดท้ายการไปครั้งนี้ใช้เวลาถึงสามวัน

ในสามวันนี้ นางไม่เคยออกจากพระตำหนักจรุงจิตเลย อ๋องตวนกับฮ่องเต้ชิงหยู่ ต่างก็เดินหมากกันตลอดเวลา

อันหลิงหยุนมาดูๆบ้างเป็นครั้งคราว แอบสบประมาทคาดหน้าอ๋องตวน และฮ่องเต้ชิงหยู่เป็นพักๆ

กงชิงวี่อยู่ข้างนอกเป็นตายยังไม่รู้ แต่ทั้งสองคนกลับเอาแต่เล่นหมากรุกทุกวัน ใช้ชีวิตกันอย่างสบาย เอื่อยเฉื่อยยิ่งนัก

"พระชายา ได้เวลาเสวยพระกระยาหารแล้วพ่ะย่ะค่ะ" สวีกงกงเข้ามาเชิญให้อันหลิงหยุนไปกินข้าว นางหันกลับไปดู พบว่าอาหารถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้ว ทั้งฮ่องเต้ชิงหยู่และอ๋องตวนต่างเคลื่อนกายไปนั่งลงเรียบร้อยแล้ว

การได้รับโอกาสร่วมโต๊ะเดียวกันกับฮ่องเต้ สำหรับบางคนอาจถือได้ว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง แต่อันหลิงหยุน กลับรู้สึกทรมานเสียยิ่งกว่าการจับนางเข้าเครื่องทรมานให้รับสารภาพเสียอีก

จะทำอาหารยังต้องดูสีหน้าคนกิน กินแล้วก็เหมือนกับว่ายังไม่ได้กิน สรุปได้ง่ายๆเลยคือ กินไม่อิ่ม

นางกลับไปที่โต๊ะ โค้งกายทำความเคารพก่อน จึงค่อยนั่งลงเริ่มรับประทานอาหาร

ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสถาม: "อาหารไม่ถูกปากหรือ?"

อันหลิงหยุนเอ่ยตอบ: “นับว่าถูกปากเพคะ”

“ ของในวังย่อมดีกว่าของข้างนอกมากมายนัก ข้ารู้สึกยอดเยี่ยมที่สุดเลยพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องตวนกล่าว

อันหลิงหยุนหันไปมอง: "เช่นนั้นอ๋องตวนเสวยมากหน่อยนะเพคะ"

อ๋องตวนหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วคีบเนื้อบางส่วนให้อันหลิงหยุน: "เจ้ากินให้มากอีกหน่อยเถอะ"

อันหลิงหยุนเอ่ยขอบคุณ เหลือบมองไปที่ประตู เหมือนว่าจะได้ยินเสียงอันใดบางอย่างเข้า

แต่เมื่อมองให้ดีๆ ก็ยังไม่เห็นมีใคร

อันหลิงหยุนกินข้าวต่อ เสียงสวีกงกงที่แหบเป็นเป็ดก็ดังเอะอะมาจากประตู: "ฝ่าบาท... มีคนจากนอกวังกราบทูลว่า อ๋องเสียนพบตัวฆาตกรสังหารหมู่ครอบครัวอ๋องชินยู่แล้ว ขณะนี้ได้ทำการลากประจานไปตามท้องถนน เพื่อแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าเขาต้องโทษตัดศีรษะแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"เป็นใครกัน?" ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสถาม แววพระเนตรเคร่งขรึมจริงจัง

"เป็นคุณชายรองจวนท่านอ๋องใหญ่ อ๋องชินสู้กงชิงซวนหวยพ่ะย่ะค่ะ!"

อ๋องตวนหัวเราะครู่หนึ่ง ปรายสายตามองไปยังฮ่องเต้ชิงหยู่

ฮ่องเต้ชิงหยู่รีบตรัสว่า: "อ๋องตวน เจ้ารีบไปยับยั้งเอาไว้ก่อน ข้าจะไปซักถามด้วยตัวเอง "

“พ่ะย่ะค่ะ”

อ๋องตวนลุกขึ้นมองไปที่อันหลิงหยุนเพียงครู่ก็เดินจากไป

อันหลิงหยุนเห็นท่าทีไม่เร่งไม่รีบของอ๋องตวน เดินไปพลางไอไปพลางนั้น ก็พลันเข้าใจได้ในทันที

เดิมทีเขาไม่ได้จะช่วยคน เขาเพียงแค่ทำพอเป็นพิธีก็เท่านั้น

เป็นดังที่คิด ผ่านไปไม่นานมีคนจากนอกวังมาขอเข้าเฝ้า มีทั้งท่านอ๋องใหญ่ ท่านอ๋องเจ็ด รวมไปถึงท่านอ๋องห้าก็มาด้วยเช่นกัน

ฮ่องเต้ชิงหยู่หยัดพระวรกายขึ้น รับสั่งให้งดอาหารเย็น ทอดพระเนตรไปที่อันหลิงหยุน: "ไปด้านหลัง"

อันหลิงหยุนค้อมกายถวายบังคม และเดินไปด้านหลัง

ฮ่องเต้ชิงหยู่เสด็จขึ้นบันได ประทับนั่งบนเก้าอี้มังกรสีเหลืองทองผินพระพักตร์ช้าๆไปทอดพระเนตรยังประตูหน้าพระตำหนักจรุงจิต: "ประกาศ"

ประตูสู่พระตำหนักจรุงจิตเปิดออก มีคนสองสามคนเดินเข้าประตูมาอย่างรวดเร็ว สวมอาภรณ์สีดำอันเป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์ ทันทีที่ก้าวเข้าประตูมา ก็เดินไปด้านหน้าแล้วคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว

"ฝ่าบาท หม่อมฉันรู้ความผิดแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอทรงโปรดละเว้นซวนหวยด้วยเถิด หม่อมฉันไม่อยากให้คนผมขาวต้องส่งศพคนผมดำอีกต่อไปแล้ว ฝ่าบาท!!" อ๋องใหญ่น้ำตาไหลอาบทั่วใบหน้า

ท่านอ๋องเจ็ดและท่านอ๋องห้าก็วิงวอนร้องขอด้วยเช่นกัน ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรไปที่คนด้านล่าง: "ข้าได้สั่งให้อ๋องตวนไปยับยั้งไว้แล้ว ต้องทันการณ์เป็นแน่"

"หม่อมฉันซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

อ๋องใหญ่เช็ดน้ำตา คุกเข่าลงบนพื้น

ฮ่องเต้ชิงหยู่ประทับยืนขึ้น ก้าวพระบาททีละก้าวจากบันไดขั้นสูงสุดลงมาถึงขั้นล่าง

“ นับตั้งแต่ข้าขึ้นครองราชย์ บ้านเมืองสงบ ประชาร่มเย็น ถึงแม้ว่าจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งมาบุกรุก แต่ประเทศต้าเหลียงของเรานั้น มีวีรบุรุษผู้กล้าหาญเก่งกาจในการทำสงครามมากมาย ที่ต่อสู้เพื่อประเทศ จึงทำให้ข้าสามารถนั่งบนบัลลังก์ได้อย่างมั่นคง ประเทศต้าเหลียงยิ่งใหญ่เจริญรุ่งเรือง”

แต่ไม่เคยคิดเลยแม้สักครั้ง

ประเทศต้าเหลียงของข้าจะมีการสังหารหมู่เกิดขึ้นแล้วจริงๆ

ข้าตัดสินโทษตัดศีรษะด้วยความปวดใจ

คิดว่าบรรพบุรุษตระกูลกงชิงพิชิตใต้หล้าได้กระไร ทุมเทสติปัญญาเพื่อประเทศชาติเพียงไร

หากปราศจากการสนับสนุนจากพี่น้องแล้ว จะมีความเจริญรุ่งเรืองเฉกเช่นในยามนี้ได้กระไร?

เรื่องของอ๋องชินยู่ ข้าเองก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเมตตาแล้ว ข้าไม่ได้ต้องการทำร้ายถึงชีวิต เมื่อเขาสำนึกผิดคิดอยากแก้ไขในสักวันหนึ่ง ข้าย่อมจะอภัยโทษให้แก่เขา

ข้าไม่อยากสืบหาเบื้องลึกเกินไป แต่กลับมีบางคนอดทนอดกลั้นไม่ได้

อ๋องเสียนเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ความเห็นของเขาคือความคิดเห็นของข้า หลายปีมานี้ข้าไร้บุตรธิดา ตอนนี้ทั้งสองตำหนักล้วนตั้งครรภ์ ข้านั้นเหนื่อยทั้งกายและใจ คิดอยากหยุดพักสักสองสามวัน

แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เพียงคลาดสายตาไป ไม่อาจเก็บชีวิตเขาเอาไว้ได้เสียแล้ว! "

ฮ่องเต้ชิงหยู่กัดพระทนต์แน่น ความโกรธกริ้วปรากฏชัดขึ้นมาบนพระพักตร์

อันหลิงหยุนฟังอยู่ด้านหลัง ได้ยินเสียงดังกึกก้องกัมปนาท

พรรคพวกของอ๋องใหญ่ทั้งหลายล้วนตระหนกตกใจจนตัวสั่น

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันพระวรกายเดินไปสองสามก้าวอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นก็หันพระวรกายกลับมา ทอดพระเนตรไปยังอ๋องทั้งสาม ที่อยู่บนพื้น ตรัสว่า: “ใต้หล้าของข้า คือใต้หล้าของอ๋องเสียน หากไว้ชีวิตเขาไม่ได้ ก็ไว้ชีวิตข้า!”

ข้ามอบความมั่งคั่งและความรุ่งโรจน์ให้แก่อ๋องชินสู้ แต่เขากลับต้องการใต้หล้าของข้า

จะให้ข้ายินยอมอนุญาตได้เช่นไรกัน?”

"ฝ่าบาท! หม่อมฉันไม่กล้า! หม่อมฉันไม่กล้าพ่ะย่ะค่ะ!"

ฮ่องเต้ชิงหยู่สงบพระทัยลงแล้ว สุรเสียงจึงเริ่มฟื้นคืน ตรัสอย่างสงบว่า: "ใครบ้างไม่เคยทำผิด รู้ว่าตนทำผิดแล้วแก้ไข นับว่าเยี่ยมนัก ข้าได้ให้โอกาสรอดชีวิตแก่อ๋องชินสู้แล้ว เขาจะเลือกหนทางใดต้องขึ้นอยู่กับตัวเขาเองแล้ว

ข้าเหนื่อยแล้ว มีเรื่องใดไปหาผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ข้าไม่อยากรับรู้ "

สิ้นรับสั่งฮ่องเต้ชิงหยู่จึงสะบัดพระหัตถ์ไล่ อ๋องใหญ่และคนอื่น ๆ รีบเอ่ยถวายบังคมลากันจ้าละหวั่นแล้วรีบจากไป

รอจนผู้คนล้วนไปกันหมด อันหลิงหยุนจึงออกมาจากด้านใน ความโกรธกริ้วของฮ่องเต้ชิงหยู่ก็ได้สูญสลายหายไปจนหมดแล้วเช่นกัน

อันหลิงหยุนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นเรื่อย ๆแล้ว ทุกคนในวังแต่ละคนๆแสดงละครได้แนบเนียนยิ่งนัก มีเพียงนางคนเดียวที่แสดงไม่เป็น

"อ๋องตวนไม่ได้อยู่แล้ว เจ้ามาตรวจดูให้ข้าเถอะ" ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นพระหัตถ์ให้อันหลิงหยุน

อันหลิงหยุนก้าวไปข้างหน้า ทำหน้าเขินอายไปพร้อมกับเริ่มตรวจอาการให้แก่ฮ่องเต้

ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรใบหน้าของอันหลิงหยุน ประดุจทรงอยู่ในภวังค์เคลิบเคลิ้ม ตรัสอย่างไม่รู้องค์: "ข้าอยากดื่มเลือดของหลิงหยุนอีกครั้ง ได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง"

อันหลิงหยุนเงยหน้าขึ้น: "รับด้วยเกล้าเพคะ"

อันหลิงหยุนจิตใจร้อนรนขึ้นมา หลายวันมานี้นางไม่ได้ระวังสังเกตให้ดี พิษในพระวรกายฮ่องเต้ชิงหยู่ หนักขึ้นมากแล้ว

แต่ทว่าฮองเฮาไม่ได้อยู่ ที่นี่มีเพียงสี่คน คืออ๋องตวน นาง ฮ่องเต้ชิงหยู่ และสวีกงกง เช่นนั้นคนวางยาพิษคือใครกันแน่?

นางได้ลองชิมอาหารทุกอย่างแล้ว หากว่าโดนพิษ นางและอ๋องตวนต่างไม่มีใครเป็นอันใด

หันกายไปหยิบมีดมากรีดเลือดหนึ่งชาม

แม้จะพูดว่าหนึ่งชาม แต่แท้ที่จริงแล้วมีเพียงครึ่งชามเท่านั้น หากมากเกินไป ร่างกายของอันหลิงหยุนจะเกิดความเสียหายได้

เมื่อส่งมอบให้ฮ่องเต้ชิงหยู่ พระองค์ทรงไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เสวยจนหมด จึงมอบชามคืนให้นาง

อันหลิงหยุนกำลังคิดว่าจะออกไป ฮ่องเต้ชิงหยู่ตรัสถามว่า ”เจ้าสามารถให้ข้าดูได้หรือไม่?”

อันหลิงหยุนรู้สึกสองจิตสองใจอยู่ไม่น้อย หันกลับมาเผยบาดแผลที่ข้อมือ ด้านบนแผลสมานปิดเป็นปกติแล้ว ทิ้งเพียงร่องรอยขีดข่วนสีแดงซีดจาง

ฮ่องเต้ชิงหยู่ยื่นพระหัตถ์ออกมาสัมผัส: "ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก ข้าล่ะอิจฉาเจ้าเหลือเกิน!"

อันหลิงหยุนค้อมกายถวายบังคม: "หม่อมฉันจะคิดหาวิธีแก้พิษถวายให้กับฝ่าบาทให้ได้เพคะ"

"ไม่ต้องรีบ ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าจะไปดูฮองเฮาเสียหน่อย อ๋องเสียนคงจะกลับมาในไม่ช้านี้แล้ว เจ้าไปรอเขาเถอะ"

หลังสิ้นกระแสรับสั่ง ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงเสด็จจากไป อันหลิงหยุนหลังส่งเสด็จ จึงมาตรวจสอบบนตำหนัก แท้ที่จริงแล้วเป็นใครกันแน่?

อันหลิงหยุนรออยู่ตลอด รอจนกระทั่งเห็นคนกลับมาในตอนดึก

คนที่อยู่นอกประตูเห็นกงชิงวี่จึงเอ่ยคารวะ: "ข้าน้อยคารวะอ๋องเสียน"

กงชิงวี่ไม่ได้ตอบกลับ อันหลิงหยุนได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา อีกทั้งเป็นเสียงที่ฟังออกว่าเป็นของกงชิงวี่

อันหลิงหยุนผลักเปิดประตู กงชิงวี่ยืนอยู่ที่หน้าประตู ชุดคลุมสีดำบนร่าง บินสะบัดพลิ้วไสวไปตามสายลมอันดุเดือด กลิ่นคาวเลือดบนร่าง โถมเข้าโจมตีโพรงจมูกของอันหลิงหยุน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน