ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 237

บทที่ 237 หน้าของฮ่องเต้

เสินเฉิงเสี้ยงจัดการเรื่องในบ้านเสร็จ ก็รีบเข้าวังเข้าเฝ้าฮ่องเต้

แต่ก็ช้าไปหนึ่งก้าว ถูกกงชิงวี่ชิงตัดหน้าไปเสียก่อน

สองวันมานี้ฮ่องเต้ชิงหยู่อยู่ในวังของฮองเฮาตลอด กงชิงวี่เข้าวังก็ตรงเข้าไปที่วังเฟิ่งหยี

“ทูลฝ่าบาท อ๋องเสียนขอเข้าเฝ้า”

สวีกงกงรายงาน ฮ่องเต้ชิงหยู่แปลกใจ “ให้เข้ามา”

กงชิงวี่เข้าประตูมา นำกระบี่โม่เยที่อยู่ในมือถวายขึ้นไป สองมือสวีกงกงรีบเร่งถวายขึ้นไป

เสินหยุนชูตะลึงไปสักครู่ “อ๋องเสียน?”

สีหน้ากงชิงวี่ไม่น่าดู “ฝ่าบาท เมื่อครู่ข้าเพิ่งจะออกมาจากจวนเฉิงเสี้ยง แล้วข้าก็ตีเสินหยุนเจ๋ อีกทั้งยังกดดันให้เฉิงเสี้ยงลงโทษเสินหยุนเอ๋อ ข้ามาเพื่อขอรับโทษ”

หน้าของเสินหยุนชูซีดเผือด ฝ่ามือมีเหงื่อออก

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่เสินหยุนชูแวบหนึ่ง แล้วมองไปทางกงชิงวี่ด้วยความมึนงง “ท่าทางเจ้าเหมือนมาคิดบัญชีข้ามากกว่า เจ้ามาเพื่อรับโทษ?”

“ใช่” กงชิงวี่ตอบเสียงดังและทรงพลัง

ฮ่องเต้ชิงหยู่สีหน้าเย็นชา “มีเรื่องอะไรก็รีบพูดมา ข้าไม่เวลาว่างมาเสียเวลากับเจ้า กระบี่เล่มนี้ข้าให้หยุนเจ๋ เจ้าก็เห็นว่ามันขวางหูขวางตา?”

“ฝ่าบาท ที่ข้าตีเสินหยุนเจ๋ไม่ใช่เพราะกระบี่เล่มนี้ แต่ที่นำกระบี่เล่มนี้มาก็เพราะว่ามันมาขัดขวางไม่ให้ข้าลงโทษเสินหยุนเอ๋อต่างหาก”

“รีบพูดมา” ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกหงุดหงิดยิ่งนัก

กงชิงวี่กล่าวว่า “หยุนหยุนบาดเจ็บ!”

แววตาฮ่องเต้ชิงหยู่ขรึมลง อารมณ์ทุกอย่างจบลงกะทันหัน “เกิดเรื่องขึ้นเมื่อไหร่?”

“สองวันที่ข้าไม่ได้เข้าวังถวายการรับใช้ก็เพราะเรื่องนี้ วันที่ตูฟางจุ้นสร้างเสร็จหยุนหยุนถูกคนหลอกออกไปนอกเมือง ถูกขอทานกลุ่มหนึ่งดักไว้ เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่ฆ่าคน และก็ไม่ใช่การลักพาตัว แต่หวังจะทำให้หยุนหยุนมีมลทิน

หยุนหยุนไม่ยอม ถูกพวกมันทำร้าย

เกือบจะต้องตายไป วันนี้เพิ่งพ้นขีดอันตราย”

“อ๋า?” เสินหยุนชูลุกขึ้นรีบถอยหลัง ยกกระโปรงขึ้นคุกเข่าลง “หม่อมฉันสมควรตาย ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตด้วย”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่ฮองเฮาแวบหนึ่ง กุมมือไว้แล้วกล่าวถาม “พระชายาเสียนไม่เป็นอะไรแน่รึ?”

“ฝ่าบาท หลายวันนี้หยุนหยุนคงออกจากจวนไม่ได้ ต้องพักผ่อนอยู่ที่จวน แต่ข้ายอมไม่ได้จริงๆ คนพวกนั้นให้การซัดทอดว่าผู้บงการ คือเสินหยุนเอ๋อ”

“..........,” ฮ่องเต้ชิงหยู่ถอนหายใจโล่งอก “ในเมื่อเจ้าก็ตีคนแล้ว และก็ลงโทษไปแล้ว กระบี่เล่มนี้ข้าจะเก็บคืนกลับมาก่อน

ตระกูลเสินเจ้าก็ไม่ต้องคิดแค้นอยู่ในใจ เดี๋ยวข้าจะพูดกับเฉิงเสี้ยงเอง ให้เขาอบรมสั่งสอนหยุนเจ๋กับหยุนเอ๋อให้ดี”

“ฝ่าบาท ข้าอยากขอความกรุณาหนึ่งอย่าง” กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่แยแส สีหน้ายังไม่ผ่อนคลาย

ฮ่องเต้ชิงหยู่คิดสักพักแล้วกล่าวถาม “ความกรุณาอะไร”

“ขอให้ฝ่าบาทประทานเครื่องรางให้หยุนหยุน ป้องกันไม่ให้มีใครคิดปองร้ายนาง”

กงชิงวี่ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวอย่างหมดปัญญา “นี่เจ้ากำลังขอหรือ? เจ้ากำลังปล้นอยู่ชัดๆ”

“ข้าไม่เป็นอ๋องซื่อเจิ้นก็ได้ ข้ารู้สึกน้อยใจ สองวังของฝ่าบาทต่างก็มีเรื่องน่ายินดีถือเป็นเรื่องมงคลคู่ที่มาพร้อมกัน คิดแล้ว ข้าไม่ได้ทำหน้าที่ ฝ่าบาทดูแลสองวัง ข้าควรจะช่วยแบ่งเบา

แต่ว่าเพราะสุขภาพสองวัง ดึงหยุนหยุนเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยข้าก็ไม่ยินดี

ข้าคิดไปคิดมา ลาออกจากราชการดีกว่า แบบนั้นจะได้กลับบ้านดูแลปกป้องหยุนหยุน จะได้ไม่ต้องมีคนคอยคิดปองร้ายหยุนหยุน”

“อ๋องเสียนใจกล้าไม่น้อย บังอาจมาขู่ข้า?”

“ฝ่าบาท ข้าสามารถคุกเข่านานๆไม่ลุกขึ้นมาได้”

กงชิงวี่กล่าวไปพร้อมยกชายกระโปรงเสื้อขึ้นคุกเข่าลง ฮ่องเต้ชิงหยู่ตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าบ้านี่ ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้”

กงชิงวี่ลุกขึ้นมา ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวต่อ “เรื่องนี้อย่าไปรบกวนเสด็จแม่ จะได้ไม่ต้องมีปัญหาเพิ่ม ข้าเกลียดที่เจ้าขู่ข้าที่สุด เห็นเจ้าแล้วก็อยากจะเนรเทศเจ้าออกไปจริงๆ

แต่ว่าพระชายาเสียนมักจะตกเป็นเป้าสายตาก็ไม่ใช่ทางแก้ ให้เครื่องรางกับเจ้าก็ได้ ถือว่าเป็นข้อจำกัด หวังว่าคนพวกนั้นจะไม่ไปหานางอีก

อ๋องเสียน ไม่ใช่ความผิดหยุนเอ๋อคนเดียว ก่อนพระชายาเสียนจะแต่งกับเจ้า เคยทำเรื่องที่ไม่ควรทำจริงๆ ถึงได้เกิดเรื่องแบบวันนี้”

“ฝ่าบาท ถ้าอย่างนั้นข้าต้องยอมให้คนรังแกหรือ? เรื่องก่อนหยุนหยุนจะแต่งกับข้า ข้าไม่ยุ่งเกี่ยวแต่หลังจากนางแต่งกับข้าแล้ว ข้าไม่ให้ใครมารังแกนาง”

“ข้ามีหยกอยู่ชิ้นหนึ่ง เจ้าเอาไปเถอะ หยกชิ้นนี้ถือเป็นตัวแทนของข้า จากนี้ไป นอกจากข้า หากมีใครทำร้ายพระชายาเสียน ก็คือทำร้ายข้า โทษเบาคือประหาร โทษหนักประหารเก้าชั่วโคตร ได้หรือไม่”

กงชิงวี่มองไปทางหยกครู่หนึ่งไม่ได้รับไว้ “ข้าไม่เอาอันนี้”

ฮ่องเต้ชิงหยู่แววตาเย็นชา “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะเอาอะไร?”

“ข้าจำได้ ตอนข้ายังเด็กข้ามีเครื่องรางม้วนเหล็กหนึ่งแผ่น ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานให้ข้า ตอนข้ายังเด็กเพื่อปกป้องฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทไป ขอให้ฝ่าบาทคืนให้ข้าด้วย”

ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวว่า “สวีกงกง เจ้าไปเอามา”

สวีกงกงหันหลังออกไป ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวถาม “อ๋องเสียนมาวันนี้ คงไม่ได้แค่มาขอเครื่องรางม้วนเหล็กของเจ้าใช่หรือไม่?”

“ไม่ใช่ ข้าแค่นึกขึ้นมาได้ ของพระราชทานจากฮ่องเต้คนก่อน ใครกล้าบังอาจทำร้ายหยุนหยุน ข้าจะต้องเอาชีวิตมันแน่”

“ฮึ เอาแต่พูดว่าจะเอาชีวิตคนตลอด ข้าเห็นว่าเจ้าถูกข้าตามใจจนเคยตัวแล้ว จงใจจะทำให้ข้าลำบากใจ เดี๋ยวจะออกจากราชการ เดี๋ยวจะขอเหล็กม้วน เจ้าอายบ้างหรือไม่”

“ถ้าเพื่อหยุนหยุนแล้วข้ายอมไร้ยางอาย”

“ไม่เอาไหน!” ฮ่องเต้ชิงหยู่ชี้ไปที่กงชิงวี่ สวีกงกงนำเครื่องรางม้วนเหล็กมาให้

ฮ่องเต้ชิงหยู่ส่งสัญญาณว่าให้นำไปให้กงชิงวี่ กงชิงวี่ยื่นมือหยิบมา เป็นป้ายที่มีขนาดเท่าไข่ ข้างบนสลักตัวอักษรไว้หนาแน่น เป็นสีดำ ไม่สวยเท่าไหร่ แต่กงชิงวี่หยิบมาแล้วแขวนเอาไว้กับเข็มขัดที่เอว

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองแวบหนึ่ง “พอแล้ว ถ้าไม่มีเรื่องแล้วก็กลับไปได้แล้ว แล้วก็ไม่ต้องไปน้อมทักทายเสด็จแม่แล้ว”

“หม่อมฉันทูลลา”

กงชิงวี่หันหลังจากไป

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกลับมาประคองฮองเฮาลุกขึ้น ฮองเฮาเช็ดน้ำตา “ฝ่าบาท ทั้งหมดป็นความผิดหม่อมฉันเอง”

“ฮองเฮาไม่มีความผิด หยุนเอ๋อยังเด็ก บางครั้งอาจทำเรื่องไม่เข้าท่าไปบ้าง อีกไม่กี่ปีก็ดีขึ้นเอง

แต่ว่าหยุนเอ๋อก็ไม่ดีเท่าชูเอ๋อ ไม่เหมือนชูเอ๋อที่รอบคอบและใจดี ยังต้องคอยกระตุ้นและควบคุมดูแลให้ดี”

“หม่อมฉันจะบอกกับนางเองเพคะ”

“อืม”

สวีกงกงเข้าประตู “ฝ่าบาท เฉิงเสี้ยงขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ”

“ให้เข้ามา”

ตอนเสินเฉิงเสี้ยงเข้าประตูมาเห็นกงชิงวี่ หน้าเฉิงเสี้ยงแดงไปหมด ดูเหมือนว่าเขาเข้าวังมาเพื่อร้องเรียนอย่างนั้นแหละ

“อ๋องเสียน ข้ามาเพื่อขอรับโทษด้วยตนเอง” เสินเฉิงเสี้ยงรู้สึกอับอายขายหน้ามาก ยังต้องคอยอ่อนน้อมถ่อมตน

กงชิงวี่ไม่ได้สนใจ เดินตรงออกไปเลย

เสินเฉิงเสี้ยงเข้าประตูก็คุกเข่าลงทันที “ถวายบังคมฝ่าบาท เฮาฮอง”

“ลุกขึ้นเถอะ” ฮ่องเต้ชิงหยู่กล่าวเรียบๆ

เสินเฉิงเสี้ยงลุกขึ้นพูดถึงเรื่องที่บ้าน จุดประสงค์ที่มาเพื่อขอรับโทษด้วยตนเอง

ฮ่องเต้ชิงหยู่กลับเรียบเฉย “หยุนเอ๋อยังเด็ก ทำเรื่องแบบนี้ออกมาก็พอมีเหตุผลอยู่ อบรมสั่งสอนให้ดีก็พอ

ส่วนอ๋องเสียน ช่วงนี้ก็อย่าไปยุ่งกับเขาดีกว่า จะได้ไม่มีปัญหา”

“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ”

เสินเฉิงเสี้ยงคิดไม่ถึงฮ่องเต้ชิงหยู่จะพูดง่ายแบบนี้ พูดจบก็ขอตัวทูลลากลับจวนเฉิงเสี้ยง

เสินเฉิงเสี้ยงรู้สึกเหมือนมีบางอย่างที่มันไม่ถูกต้อง เพียงแต่คิดไม่ออกว่ามันคืออะไร จนกระทั่งในวังแจ้งข่าวออกมา เสินเฉิงเสี้ยงถึงได้รู้ว่า ฮ่องเต้เพียงแต่ไว้หน้าเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน