ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 285

บทที่ 285 สังหารสิ้นกองทัพนับหมื่นนับพัน

กงชิงวี่ได้ยินว่าหนึ่งครอก ก็ผุดลุกจากเตียงขึ้นมานั่งในชั่วพริบตาทันที: "อะไรนะ?"

อันที่จริงแล้วหลิงหยุนถูกหยอกเย้าจนรู้สึกร้อนเร่าไปแล้ว ขาข้างหนึ่งตวัดพันเกี่ยวเอวของกงชิงวี่เอาไว้ เวลานี้ นางไม่อาจไม่ผ่อนคลายอารมณ์ตนเองลง จึงดึงผ้าห่มมาคลุมกายไว้ลวกๆ

"ป๋ายสู้สู้พูดเช่นนี้เพคะ" แท้ที่จริงแล้วอันหลิงหยุนก็ไม่อยากจะเชื่อ จนถึงตอนนี้ ราวกับว่าครรภ์ของนางดูอย่างไร ก็ไม่เหมือนมีเป็นครอกแทนที่จะมีเพียงหนึ่งเลยจริงๆ

กงชิงวี่ก็สงสัยเช่นกัน: "หรือว่านางจะพูดจาเรื่อยเปื่อยหลอกลวงเจ้า?"

อันหลิงหยุนส่ายหน้า: "ข้าดูแล้วเหมือนไม่ใช่ แต่ก็ไม่แน่ใจเพคะ"

อันหลิงหยุนมองคนได้ทะลุปรุโปร่งไม่น้อย เพราะนางได้เริ่มศึกษาวิจัยด้านนี้มาแล้ว แต่กับป๋ายสู้สู้นั้นนางมองไม่ออก ดวงตาทั้งสองข้างของนาง ช่างมองได้ทะลุเรื่องราวทั้งหลายอย่างละเอียดถี่ถ้วนเหลือเกิน เหมือนกับว่า นางมองไม่เห็นความขุ่นมัวใด ๆ ภายในดวงตาคู่นั้นแม้แต่น้อย

ต่อให้ปราศจากความขุ่นมัว ก็ไม่อาจตัดสินได้ว่าคน ๆ นี้ท้ายที่สุดแล้ว มีกี่สิ่งที่เก็บงำซ่อนเร้นอยู่ภายในใจ อันหลิงหยุนก็หาใช่เทพเซียนไม่ สุดท้ายก็ยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่นางไม่อาจมองทะลุได้เช่นกัน

ความใสสะอาดของ ป๋ายสู้สู้คือสิ่งที่นางมองไม่ทะลุ

กงชิงวี่เริ่มกังวลเมื่อได้ยินสิ่งที่อันหลิงหยุนพูด จึงลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า: "ให้หมอจวนโจวมาตรวจดูสักหน่อยเถอะ"

อันหลิงหยุนลุกขึ้นเอ่ยเรียกเขา: "ความสามารถของหมอจวนโจวมีจำกัด ให้เขามาก็ไม่มีประโยชน์ ตัวข้าเองยังตรวจหาไม่พบ กับหมอจวนโจวยิ่งไม่ต้องคิดแล้ว"

กงชิงวี่หันกลับมา: "เช่นนั้นสรุปว่ามีกี่คนกันแน่?"

ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรกัน ข้ารู้แค่ว่าตั้งครรภ์แล้ว เรื่องที่ว่ากี่คนนั้นข้าไม่แน่ใจ แต่ข้าคิดว่ามีเพียงคนเดียว ทำไมป๋ายสู้สู้ตรวจแล้วบอกว่ามีเป็นครอกเลยก็ไม่รู้!? "

“ครอกหนึ่งเลย?”

กงชิงวี่เพิ่งได้ยินเมื่อครู่ว่าไม่ใช่แค่คนเดียว คราวนี้ได้ยินอันหลิงหยุนพูดว่าเป็นครอก เขารีบเดินกลับมานั่งลงแล้วถามว่า "ครอกหนึ่ง?"

อันหลิงหยุนเองก็งุนงงอยู่เล็กน้อย: "ว่าตามหลักการและเหตุผลแล้ว ทางโน้นมีปรากฏการณ์คลอดครั้งละสี่หรือห้าอยู่เหมือนกัน แต่ก็เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ทางนี้พอจะมีการคลอดครั้งละมากๆหรือไม่เพคะ? หรือว่าสองคนอะไรแบบนี้?"

"มากที่สุดสองคน" กงชิงวี่เคยเห็นฝาแฝดมาบ้าง อีกทั้งพวกเขาก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว

อันหลิงหยุนถามว่า: “แล้วถ้าสามคนล่ะเพคะ?”

“ ข้ายังไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน”

กงชิงวี่จ้องไปที่ท้องของอันหลิงหยุนด้วยความแปลกใจ: "หากว่ามีสองคน เจ้าสามารถดูออกได้เช่นนั้นหรือ?”

“ ข้าสมควรจะดูออกได้ แต่ปัญหาตอนนี้คือ น้อยที่สุดสามคน หากแม้มากกว่านั้น ไม่ใช่ว่าต้องเป็นครอกแล้วหรอกหรือเพคะ?”

“แต่ท่านอ๋อง เดิมทีการที่ผู้หญิงคลอดลูก เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง สำหรับพวกเราทางโน้นยังดี เพราะหากมารดาไม่ไหว เรายังสามารถผ่าคลอดออกมาได้

แต่ทักษะด้านการแพทย์ของที่นี่ง่ายๆ หยาบๆเช่นนี้ ข้ากลัวว่าหากเกิดเรื่อง ประการแรก ไม่สามารถอดทนจนผ่านพ้นถึงช่วงคลอดได้ ประการที่สอง ไม่เคยมีใครทำคลอดทารกมากขนาดนี้มาก่อน มันอันตรายเกินไป"

หัวใจของกงชิงวี่สั่นสะท้าน: "เช่นนั้นควรทำเช่นไรดี?"

“ข้าเองก็ไม่รู้เพคะ”

อันหลิงหยุนมองไปที่ท้องของตน พลางสัมผัสมัน: "ทำไมข้าถึงไม่รู้สึกว่ามีมากขนาดนั้นกันนะ? หรือป๋ายสู้สู้หลอกข้า?"

คิ้วดาบของกงชิงวี่บิดเบี้ยว สีหน้าเคร่งขรึม มีบุตร ธิดาเข้ามาในชีวิตนับเป็นเรื่องดี แต่เขาก็กังวลว่า อันหลิงหยุนจะเกิดเรื่อง

อันหลิงหยุนเหลือบมองเขา: "ไปพักผ่อนก่อนเถอะเพคะ พรุ่งนี้ข้ายังต้องไปพบป๋ายสู้สู้ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ข้าต้องการให้นางช่วย และตัวข้าเองก็อยากช่วยนาง"

อันหลิงหยุนนอนกลับลงไป กงชิงวี่ในยามนี้ไม่คิดถึงอะไรทั้งสิ้น คิดถึงเพียงเด็กในท้องของอันหลิงหยุนเท่านั้น

เขานอนลงโดยไม่อาจสงบจิตใจได้ โอบกอดอันหลิงหยุนพลางถอนหายใจ: "ข้าไม่อยากสูญเสียหยุนหยุนไป แต่ข้าก็ตัดใจจากพวกเขาไม่ได้เช่นกัน พวกเจ้าทั้งหมดคือดวงใจของข้า"

อันหลิงหยุนกุมมือของกงชิงวี่แน่น: "ท่านอ๋อง ข้าสบายดีเพคะ ท่านอย่าได้กังวลมากถึงเพียงนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคนหรือเรื่องที่เกิดทั้งหมด ย่อมต้องมีทางออกเสมอ"

"แต่ ... " กงชิงวี่ยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูกอันหลิงหยุนหยุดไว้

"ท่านอ๋อง ท่านสมควรพักผ่อนก่อน มีเรื่องใดรอให้ถึงพรุ่งนี้แล้วค่อยคุยกันเพคะ"

อันหลิงหยุนรู้ว่าเขากังวล ดังนั้นจึงต้องสงบจิตใจให้เย็นลงมาก่อน

แต่คืนนี้ กงชิงวี่นอนหลับไม่สนิทเสียแล้ว เขาฝันว่าต่อสู้ รบรา ฆ่าสังหารกองทหารและม้านับพันนับหมื่นด้วยตัวคนเดียว เบื้องหน้ามีโลหิตหลั่งไหลเจิ่งนองราวแม่น้ำเลือด เขาถือดาบยาวในมือ โลหิตแดงฉานหยาดหยดจากร่างไม่หยุดยั้ง เขาจ้องมองไปยังกองศพที่เกลื่อนกลาดเต็มสองตา พลันสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง

อันหลิงหยุนรู้สึกว่าคนข้างกายนางตื่นแล้ว นางจึงตื่นขึ้นมาด้วย

ลุกขึ้นมาเห็นว่าเหงื่อเขาออกเต็มตัว จึงยื่นมือไปเช็ดให้“ เป็นอะไรไปเพคะ? สะดุ้งตื่นจากฝันร้าย?”

"ข้าฝันว่าตัวเองสังหารผู้คนไปมากมาย สังหารเข่นฆ่ากองทหารและม้าเป็นพันเป็นหมื่น พื้นดินเจิ่งนองไปด้วยเลือด ผู้คนล้มตายนับไม่ถ้วน ข้ายืนอยู่ท่ามกลางสนามรบนั่น และมีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่"

กงชิงวี่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยกลัวเลือด ตอนที่เขาฆ่าคน เขาอายุไม่เท่าไหร่ด้วยซ้ำ

ในสนามรบไฉนเลยจะไม่มีการเข่นฆ่าอันโหดเหี้ยมทารุณ

แต่ครั้งนี้เขาแปลกใจยิ่งนัก ไม่ใช่เพราะเขากลัว แต่เมื่อเห็นเลือดเหล่านั้น เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงถูกทำให้

ตระหนกจนถึงกับสะดุ้งตื่นได้!

"ท่านอ๋องช่างร้ายกาจยิ่งนัก สังหารกองทหารหลายพันหลายหมื่นเชียวหรือเพคะ? มากมายขนาดนั้น ... " อันหลิงหยุนพูดไปได้ครึ่งเดียวก็หยุดพูดแล้ว จ้องมองกงชิงวี่อย่างใจลอย

“ หยุนหยุนเป็นอะไรไป?” กงชิงวี่รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

อันหลิงหยุนยิ้มแย้มขบขัน: "ท่านอ๋อง กระทั่งเทพเจ้าก็ยังไม่อาจสังหาร กองทัพนับหมื่นนับพันด้วยตัวคนเดียวได้เลยกระมังเพคะ?"

กงชิงวี่ขมวดคิ้ว: "แม้ว่าข้าจะไม่ใช่เทพเจ้า แต่เมื่อข้านำกองกำลังทหารออกรบ ข้าก็คือเทพแห่งสงคราม!"

“โอ๋!”

อันหลิงหยุนกอดเอวของเขา ร่างเขาทั้งร่างเหงื่อออกจนชื้น อันหลิงหยุนลูบไล้ไปตามหน้าอกของเขาอย่างเชื่องช้า

"ท่านอ๋อง จะเป็นไปได้ไหมว่า ความฝันนี้คือฝันบอกเหตุ เมื่อท่านเข้าสู่สนามรบครั้งนี้ ท่านอ๋องจะชนะในการศึก สังหารสิ้นกองทัพนับพันนับหมื่นด้วยตัวคนเดียวก็เป็นได้นะเพคะ?"

กงชิงวี่ก้มหน้าลง: "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?"

"ท่านอ๋องเพคะ ไม่แน่ว่าลูกๆ ก็อาจเหมือนท่านอ๋องเวลาทำศึกอยู่ในสนามรบท่านอ๋องมีความสามารถถึงเพียงนี้ บางทีอาจยกขบวนมาคราวเดียวเป็นกลุ่มเป็นก้อนได้จริงๆ?”

ท่านอ๋องลองคิดดู ใครกันจะมีความสามารถเข่นฆ่าได้มากมายเพียงนั้น เห็นจะมีก็แต่ท่านอ๋อง ที่สามารถ เช่นนั้น ลองถ้าเป็นลูกล่ะ?

ไม่แน่ว่าบางที ท่านอ๋องอาจมีความสามารถนี้ก็เป็นได้? "

ว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว เพียงมีปริมาณอสุจิที่มากพอมาปรากฏขึ้น ในช่วงเวลาที่ไข่พร้อมปฏิสนธิได้อย่างเหมาะสมถูกเวลา เมื่อทั้งสองหลอมรวมเข้าด้วยกันก็ได้ผลแล้ว

ในระหว่างการแหวกว่าย อสุจิของเพศชายจะมีจำนวนมากมายมหาศาล แต่ก็ต้องมีการตกไข่ของผู้หญิงร่วมด้วยเช่นกัน อสุจิของผู้ชายมักจะปรากฏขึ้นครั้งละหลายร้อยล้านตัว แต่ในเพศหญิงจะมีไข่เพียงหนึ่งฟองเท่านั้น ที่พร้อมจะปล่อยออกมาเพื่อให้ได้รับการปฏิสนธิ ส่วนต่างของการจับคู่จึงไม่สอดคล้องกัน

แต่ทว่า นางเป็นคนที่พกพาระบบติดตัวอยู่ตลอด ไม่แน่ว่า ไข่ของนางอาจแตกต่างจากสตรีคนอื่นๆก็เป็นได้

กงชิงวี่จ้องมองอันหลิงหยุน เขาได้แต่หวังให้เป็นอย่างนั้น แต่เขาไม่อาจรู้สึกเป็นสุขได้เลยแม้แต่น้อย อย่างไรเสีย การคลอดลูกก็ไม่ใช่การกินข้าว จะผ่อนคลายสบายใจอย่างนั้นได้ที่ไหนกัน

หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาจริงๆ เขาจะทำอย่างไรดี?

กงชิงวี่โอบกอดอันหลิงหยุนไว้ไม่ยอมแยกจาก ผ่านไปครึ่งวันนางจึงผลักเขาออก ลงจากเตียงพลางส่งสายตาที่ทำให้กงชิงวี่รู้สึกสงบวางใจไปให้

“ ท่านอ๋อง อย่าได้กังวลไปเพคะ ถ้าหากมาเป็นครอกจริงๆ นี่เท่ากับว่าสามารถชดเชยหนี้ของราชวงศ์ที่ขาดทุนไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้บ้างนะเพคะ

ส่วนในเรื่องของความปลอดภัย แม้จะมีอันตรายอยู่บ้าง แต่มีผู้หญิงที่ไหนบ้างที่ไม่คลอดลูกล่ะ? ”

กงชิงวี่รู้สึกไม่เป็นสุข ขมวดคิ้วมุ่นตลอดเวลา

ลงจากเตียงมองไปที่ท้องของอันหลิงหยุน: "ข้ามองไม่ออกว่ามีมากมายถึงเพียงนั้น กับแค่ความฝันหนึ่งทิวาไม่จำเป็นต้องคิดเป็นจริงเป็นจังก็ย่อมได้"

อันหลิงหยุนเห็นว่า กงชิงวี่มีความรู้สึกกดดัน พูดอะไรมากไปย่อมไม่เหมาะสม นางจึงไม่พูดเรื่องนี้เป็นการชั่วคราว

หลังจากกินข้าวเสร็จ อันหลิงหยุนก็วางแผนออกไปข้างนอก

“ วันนี้ก็ยังจะออกไปอีกหรือ?”

ทันทีที่กงชิงวี่นึกถึงสภาพครรภ์ของอันหลิงหยุน เขาได้แต่กังวลไม่อยากให้นางออกไป

เกี่ยวกับป๋ายสู้สู้นั้น เขาสมควรไปดูให้เห็นจริง มีเพียงวิธีนั้น เขาจึงจะถามให้ชัดเจนได้ว่า ในครรภ์ของอันหลิงหยุนเป็นหนึ่งคน หรือหนึ่งครอกจริงๆ

"ย่อมต้องออกไปเป็นธรรมดา ข้าได้เห็นอ๋องจวิ้นเสี้ยวนั่นแล้ว รู้สึกขัดนัยน์ตายิ่ง ข้าต้องไปหาจุดอ่อนของเขาเสียหน่อย"

อันหลิงหยุนตัดสินใจลงไปแล้ว อะไรก็ไม่อาจมาเปลี่ยนแปลงได้

สองคนใช้ชีวิตคู่จนเข้าอกเข้าใจกันได้ กงชิงวี่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องนี้ จึงไม่ถามอะไรให้มาก เพียงตามนางออกไปด้วย

"ท่านอ๋อง ท่านตามข้ามาทำไมเพคะ?"

"ข้าจะไปเยี่ยมเยียนพระชายาอ๋องจวิ้นเสี้ยวลองถามไถ่เกี่ยวกับเรื่องของหยุนหยุนด้วยเลย"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน