ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 402

บทที่ 402 ภรรยาของโจ่จงเจิ้น ที่ถูกกำหนดไว้

ชั่วพริบตาก็มีคนเดินเข้ามาบริเวณหน้าประตูของต้าจงเจิ้งย่วน ผู้ที่มาก่อนคือมาจากจวนราชครูจุน อันหลิงหยุนไม่รู้จัก เพียงแต่มีกลิ่นอายและรูปลักษณ์คล้ายกับราชครูจุนอยู่หลายส่วน

“จุนเจิ้นหนานคารวะอ๋องเสียน พระชายาเสียน”ผู้ที่มาถือบัตรเชิญสีแดง วางกำปั้นไว้ที่หน้าอกและโค้งตัวลงคารวะอันหลิงหยุนและกงชิงวี่

กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ “ลุกขึ้นเถิด ท่านรองตระกูลจุนมาเพื่อสู่ขอหรือ?”

“พ่ะย่ะค่ะ”จุนเจิ้นหนานตอบอย่างตรงไปตรงมา

“เชิญด้านใน”กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่ใส่ใจ จุนเจิ้นหนานก็ได้เดินเข้าไปด้านใน

หลังคนจากไปแล้ว อันหลิงหยุนกล่าวถาม “ราชครูจุนมีลูกชายกี่คนหรือ ?”

“สี่คน คุณชายใหญ่จุนเจิ้นตง คุณชายรองจุนเจิ้นหนาน คุณชายสามจุนเจิ้นซี และคุณชายสี่จุนเจิ้นเป่ย”กงชิงวี่อธิบายอยู่ข้างๆ

อันหลิงหยุนแปลกใจ“ตอนที่จุนฉูฉูตายก็ไม่เห็นจะมีผู้ใดร่ำไห้เสียใจ เป็นไปได้หรือไม่พ่อและแม่ของนางมิได้สนใจไยดีนางแล้ว?”

“บุตรสาวของตระกูลจุนมีมากมาย หายไปคนสองคนหาได้มีคนสนใจไม่ ทว่าหากบุตรสาวของตระกูลจุนเสียชีวิตนั้น ก็มิอาจละเลยได้ เพียงแต่สิงที่จุนฉูฉูทำนั้นร้ายแรงนัก นางไม่ตายก็ยากที่จะทำให้ตระกูลจุนสงบสุข อีกทั้งราชวงศ์ก็มิอาจปล่อยปะละเลยตระกูลจุน เช่นนั้นไม่ตายก็ต้องตาย อีกทั้งจุนฉูฉูและจุนเซียวเซียวยังพี่สาวน้องสาว ตระกูลจุนทราบดีว่าจุนฉูฉูนั้นเป็นฝ่ายผิด ไม่กล้ามีท่าทีอันใดมาก เพราะในพระราชวังยังมีจุนเซียวเซียวอีกคน”

“เช่นนี้ บิดามารดาของจุนฉูฉูยังมีตำแหน่งอันใดในตระกูลจุนอยู่อีกหรือ?”

“เป็นเช่นนั้น ผู้ที่รับผิดชอบดูแลคือฮูหยินใหญ่ที่เพิ่งเข้ามาของจุนเจิ้นหนาน ส่วนจุนเจิ้นตงคือแม่ทัพเจิ้นหย่วน เขาคือบิดามารดาของจุนฉูฉูและจุนเซียวเซียว ทั้งฮูหยินเอกเองก็ไม่รับผิดชอบเช่นกัน ถึงแม้ว่านางทั้งสองจะเป็นลูกของภรรยาหลวงของตระกูลจุน แต่ทว่าตระกูลจุนก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้ หายไปเพียงคนสอง ก็มิใช่เรื่องแปลกอันใด ”

อันหลิงหยุนถือว่าได้พบเห็นผู้คนมาก็มากแล้ว คนที่ไม่แยแสต่อโลกผู้นี้ ทำให้ผู้คนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวโดยแท้

บุตรสาวสิ้นใจแต่กลับไม่ได้สนใจไต่ถาม ก็มิแปลกที่จุนฉูฉูจะเป็นคนที่มีนิสัยร้ายกาจเช่นนั้น

บิดามารดาล้วนเป็นสัตว์เลือดเย็น ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงบุตรชายและบุตรสาว

จุนเจิ้นหนานเข้าไปไม่นานก็ออกมา โอภาปราศรัยกับกงชิงวี่ครู่หนึ่ง ก็กลับออกไป

ที่ตามมาติดๆคือคนของตระกูลหยุน ตระกูลหยุนค่อนข้างอ่อนน้อมถ่อมตน ผู้ที่มาคือคุณชายรองตระกูลหยุน เป็นผู้ดูแลงานภายในตระกูลหยุน

เป็นอันหลิงหยุนที่ทักทายปราศรัยพวกเขาก่อน และตามเข้าไปคารวะองค์หญิงใหญ่

หลังจากนั้นผู้คนทยอยก็กันมาอย่างไม่ขาดสาย

อันหลิงหยุนทานอาหารค่ำเสร็จก็ได้จากไป จากการสอบถามก็ค่อนข้างพึงพอใจ ส่วนเว่ยหลิงชวนนั้นส่ายศีรษะ

องค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยพอใจกล่าว “ช่างสิ้นหวังนัก”

เว่ยหลิงชวนก็มิได้โต้แย้งอันใด องค์หญิงใหญ่มองไปที่เว่ยหลิงชวนที่เริ่มโกรธแล้วก็ได้ไล่คนออกไป อันหลิงหยุนรู้สึกว่าพวกเขานั้นช่างน่าสงสารยิ่งนัก

ขณะลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวกลับจวนอ๋องนั้นอันหลิงหยุนกลับเดินไม่ไหว เหตุเพราะท้องของนางโตขึ้นมาก

กงชิงวี่จึงได้อุ้มอันหลิงหยุนกลับออกไป

ระหว่างทางอันหลิงหยุนได้ถามไถ่ถึงเรื่องของด่านชายแดน ทว่ากงชิงวี่กลับไม่ยอมเอ่ยถึง ตรงกลับไปที่ลานโอวหลานและเข้าไปในห้อง กงชิงวี่ถึงได้เริ่มเล่าเรื่องด่านชายแดน

มีคนที่จงใจก่อความวุ่นวายที่ด่านชายแดนนั้นไม่ผิดแน่ แต่ทว่ากลับไม่เกี่ยวข้องกับการยกทัพจับศึกของสองเมือง เป็นแค่ผู้ที่ต้องการฉวยโอกาสให้เกิดสงครามระหว่างสองประเทศ

“ท่านอ๋องทำให้สงบลงแล้วหรือ?”อันหิลงหยุนถูกปล่อยตัวลง ส่วนเสื้อผ้าได้ถูกปลดออก กงชิงวี่ได้ถอดเสื้อผ้าของนาง อันหลิงหยุนยังได้กล่าวถามเขาต่อ

“แก้ไขได้แล้ว แต่ทว่ายังมิใช่การแก้ปัญหาระยะยาว เป็นเพียงแผนชั่วคราวเท่านั้น แต่ก็มิอาจรับรองได้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“ความหมายของท่านอ๋องคือ ต้องคอย?”

อันหลิงหยุนฟังออกถึงความนัยที่เขาต้องการจะสื่อ

“ช่วงนี้ด่านชายแดนไม่มีปัญหาอันใด ที่ต้องรีบร้อนไปจัดการ ”

“อืม”

งานแต่งของเว่ยหลิงชวนนั้นอีกไม่กี่วันแต่ยังไม่คืบหน้าไปไหน วันนี้อันหลิงหยุนได้ออกจากต้าจงเจิ้งย่วนเพื่อกลับไปที่จวนอ๋องทว่าได้ถูกหยุนโล๋ชวนขัดขวางไว้

“พี่สาว”หยุนโล๋ชวนมิได้เจอนางเป็นเวลานาน พอได้พบเจอก็ได้นำของขวัญมาด้วย อันหลิงหยุนที่ไม่คาดคิดว่าจะได้รับเคารพจากนางยังคงตกตะลึงอยู่ชั่วครู่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน