ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 484

บทที่ 484 ภัยพิบัติจากตั๊กแตน

“หม่อมฉัน หม่อมฉันสมควรตาย ฝ่าบาททรงไว้ชีวิตด้วย! ไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย!” ขันทีน้อยตกใจจนสั่งไปทั้งตัว

อันหลิงหยุนหันไปมองฮ่องเต้ชิงหยู่ แล้วจึงรีบยกกระโปรงขึ้นคุกเข่าลง: “หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาท ขอประทานอภัยด้วยเพคะ”

“ถ้าไม่ใช่เพราะข้าลองมาดู ว่าทำไมนานขนาดนี้แล้วยังไปไม่ถึงพระตำหนักจรุงจิตอีก ก็คงไม่รู้ว่าพระชายาเสียนจะรู้เรื่องเช่นนี้ดีไม่น้อย” ฮ่องเต้ชิงหยู่ทำหน้าบึ้งตึง ทำให้ขันทีน้อยตกใจจนตัวสั่น เหงื่อออกเต็มหัว แต่อันหลิงหยุนกลับสงบผิดปกติ

“ขอประทานอภัยด้วยเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะ” อันหลิงหยุนก้มหัว

ฮ่องเต้ชิงหยู่ถาม: “เจ้าผิดอะไรกัน?”

“ต่อไปไม่ควรจะพูดเหลวไหลอีกเพคะ”

“ในเมื่อรู้ว่าไม่ควรพูดเหลวไหลก็ไม่ควรพูด เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า ว่าข้าควรจะลงโทษเจ้าเช่นไรดี?”

“ฝ่าบาทอย่าทรงประหาร อย่าทรงโบย ให้ลงโทษด้วยการยืนเพคะ” อันหลิงหยุนไม่มีทางให้ประหารเด็ดขาด

ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกขำ: “พูดได้ดี!”

“ข้าว่า ไม่สู้ลากเขาออกไปแล้วตีด้วยไม้จนตาย!” ฮ่องเต้ชิงหยู่มองขันทีน้อย อันหลิงหยุนกัดริมฝีปาก รู้ว่าทำให้เขาต้องลำบากไม่น้อย

“ไม่ชึความผิดของเขาเพคะ เป็นเพราะหม่อมฉันพูดจาเหลวไหล ขอฝ่าบาททรงลงโทษหม่อมฉันเถอะเพคะ” เมื่อคิดถึงเรื่องที่จะต้องเจ็บก้น อันหลิงหยุนก็ยอมที่จะกัดลิ้นให้ขาดเสียยังดีกว่า แต่คำพูดที่พูดออกไปแล้ว น้ำที่สาดออกไปแล้ว ก็ไม่มีทางอื่นอีก

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองขันทีน้อยที่ตัวสั่นเทาอยู่: “จงเลือกมาหนึ่งอย่าง เจ้าจะยอมตาย หรือให้พระชายาเสียนถูกโบย?”

“ให้หม่อมฉันตาย......” ขันทีน้อยพูดอย่างไม่ต้องคิด แต่เมื่อพูดออกมาแล้วเขาก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆอีก นั่งจ้องมองนิ่งอยู่ตรงนั้น

ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงพูดว่า: “ถุกขึ้นเถอะ กลับไปชำระเนื้อตัวให้สะอาด เปลี่ยนเสื้อผ้าให้สะอาดแล้วมาที่พระตำหนักจรุงจิต อย่ามัวแต่กลัวว่าข้าจะทำร้ายคน ก่อนหน้านี้ ขันทีที่มาพร้อมกันกับเจ้าตกใจข้าจนตายไปแล้ว แล้วข้าจะต้องส่งอีกชีวิตไปทดแทนอย่างนั้นหรือ?”

“หา?” ขันทีน้อยตกใจจนยืนนิ่ง มองฮ่องเต้ชิงหยู่แล้วนิ่งเงียบไป

อันหลิงหยุนรีบพูดว่า: “เจ้าสกปรกไปทั้งตัวแล้ว ยังไม่รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามารับใช้ฝ่าบาทอีก?”

“พ่ะย่ะค่ะ......หม่อมฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้” ขันทีน้อยลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งไป ฮ่องเต้ชิงหยู่หันมอง แล้วจึงเดินเข้าไปหาอันหลิงหยุน แล้วยื่นมือออกไปเพื่อประคองให้ลุกขึ้น อันหลิงหยุนหดมือกลับ กล่าวขอบพระทัยแล้วจึงลุกขึ้นเอง

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”

ตอนนี้ในใจของอันหลิงหยุนรู้สึกว่างเปล่า ในชีวิตของคนเรา ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าเศร้าไปกว่าการที่นินทาคนลับหลังแล้วถูกจับได้อีกแล้ว

ตอนนี้ความรู้สึกที่อยู่ในใจของอันหลิงหยุน ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองดูรอบๆ: “จะได้เวลาอาหารเที่ยงแล้ว ไปเถอะ กลับไปกินอาหารเที่ยงกับข้า”

ฮ่องเต้ชิงหยู่เอง ไม่ได้ยุ่งวุ่นวายกับอันหลิงหยุน ส่วนอันหลิงหยุนเองก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก เดินตามฮ่องเต้ชิงหยู่กลับพระตำหนักจรุงจิตไปตลอดทาง

แต่ระหว่างทาง อันหลิงหยุนคิดเรื่องอะไรมากมาย อยู่ดีๆมีหรือที่ฝ่าบาทจะไปหานางที่ประตูวัง?

นี่มันไม่น่าแปลกหรอกหรือ?

พูดไปก็คงไม่มีใครเชื่อ

เข้าไปในพระตำหนักจรุงจิต ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็สั่งให้จัดสำรับอาหารเที่ยงมาที่พระตำหนักจรุงจิต ขันทีน้อยเองก็รีบกลับมารับใช้

อันหลิงหยุนรู้สึกอึดอัด ฮ่องเต้ชิงหยู่ดูสาสน์ที่กราบทูลอยู่ที่ด้านหน้าโต๊ะสาสน์ที่กราบทูล ส่วนนางยืนอยู่ด้านล่าง อาหารเที่ยงส่งมาถึงแล้ว ขันทีน้อยรีบยกเข้าไป

“ให้พระชายาเสียนเป็นผู้ดูแลต่อ งานของข้ายุ่งมาก หากมีใครมารบกวน ให้บอกไปว่าไม่มีใครอยู่”

อันหลิงหยุนรู้สึกผิดหวัง ขันที่น้อยรีบส่งสำรับอาหารให้แก่อันหลิงหยุน แล้วจึงออกไป

ประตูถูกปิดลง เกรงว่าจะมีคนมารบกวน ตอนนี้ไม่กล้าละสายตาจากรอบตัวเลย

อันหลิงหยุนวางสำรับอาหารลง แล้วจึงนำอาหารแต่ละอย่างออกมาวาง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันต้องไปเข้าเฝ้าไทเฮา ขอทูลลาก่อนนะเพคะ”

“กินข้าวเที่ยงเป็นเพื่อนข้าก่อนแล้วค่อยว่ากัน มีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้าพอดี” ในมือของฮ่องเต้ชิงหยู่ถือสาสน์ที่กราบทูลลงมา อันหลิงหยุนใจเต้น ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรอีก

“นั่งลงเถอะ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่นั่งลง แล้ววางสาสน์ที่กราบทูลลงที่อันหลิงหยุน ให้นางนั่งลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน