บทที่ 508 สวีกงกงขอเข้าพบ
หวางหวยอันมองดูครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเลิกแขนเสื้อขึ้น เขียนฉายาของเจ้าห้า : จื่อฮวน!
อันหลิงหยุนนับว่าพอใจอยู่ หลังจากลุกขึ้นก็เดินไปดูด้านหน้าของกงชิงวี่ ทุกคนอุ้มเด็กๆ กลับไปแล้ว จึงจัดโต๊ะเลี้ยงฉลอง หลังจากทุกคนกินข้าวร่วมกันเสร็จ อันหลิงหยุนก็ไปส่งทุกคนเดินทางกลับ
หยุนโล่ชวนอิจฉาตาร้อนเป็นที่สุด จะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมกลับ รอจนกระทั่งมืดค่ำถึงได้ยอมกลับไป เมื่อหยุนโล่ชวนกลับไปแล้ว อันหลิงหยุนก็มาดูเด็กๆ อย่างพึงพอใจเต็มที่ กงชิงวี่อุ้มลูกชายคนเล็กขึ้นมา : "แปลกยิ่งนัก เด็กเล็กเท่านี้ รู้จักเลือกฉายาตัวเองแล้วได้อย่างไรกัน?"
อันหลิงหยุนอาบน้ำเสร็จออกมา เปลี่ยนสวมเสื้อคลุมตัวยาวลากพื้น โดยมีหยุนจิ่นคอยรับใช้อยู่
ในห้องที่อันหลิงหยุนอยู่ พื้นทั้งหมดรับความร้อนจากใต้ดิน ดังนั้นห้องจึงไม่หนาว อีกทั้งไม่ต้องกังวลว่าเด็กๆจะตกจากเตียงไป สิ่งของทุกอย่าง ล้วนวางพร้อมอยู่บนพื้นทั้งหมดแล้ว
อันหลิงหยุนพูดตำหนิเขาว่า "อันที่จริงท่านอ๋องไม่ควรถามคำถามนี้นะเพคะ แม้ว่าเด็กคนนี้จะฉลาดอยู่สักหน่อย แต่ก็พูดได้ไม่ชัดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ หรือบางทีก็อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เด็กคนนี้ไม่รู้ว่าเมื่อเขาเติบโตขึ้นจะเป็นอย่างไร ท่ามกลางพี่น้องทั้งหลาย เขาเป็นคนที่อารมณ์ร้ายที่สุด เรื่องที่จัดเตรียมไว้ให้ถ้าเกิดไม่เต็มใจไม่พอใจ ก็จะร้องไห้โยเยไม่ยอมหยุด
ท่านอ๋องมองไม่ออก ฉายาจื่อฮวนดูเหลาะแหละอย่างนั้น แต่เขากลับชอบ ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าเขาจะก่อความวุ่นวายอะไรบ้าง? "
เจ้าห้าหันหน้าไปมองอันหลิงหยุน เด็กน้อยอายุไม่กี่เดือน กลับดูเหมือนจะเข้าใจว่าแม่ของเขากำลังพูดถึงอะไร เขารู้สึกผิดจนไม่กล้ามองตาแม่ตัวเอง ตอนที่หันไปมองกงชิงวี่เขาก็หลับตาลง ใบหน้าของเขา เริ่มปรากฏเค้าความหล่อเหลางามสง่าขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้ กงชิงวี่จึงเริ่มตระหนักว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาหันกายเดินไปข้างหน้าอันหลิงหยุน โดยไม่สนใจว่าที่นางพูดมาจะถูกหรือผิด เอ่ยถามว่า: "หยุนหยุน เจ้าดูลูกๆหน่อย ว่าพวกเขามีอะไรบางอย่างที่แตกต่างกันแล้วใช่หรือไม่?”
"ท่านอ๋องเพิ่งจะเห็นหรือเพคะ?" อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้าขึ้นมาตบกล่อมเบาๆ แม้ว่าปากจะพูดจารุนแรง แต่นางก็ยังคงรู้สึกเอ็นดูรักใคร่เจ้าห้าไม่น้อย
และมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าเด็กคนนี้สุขภาพไม่ดี
กงชิงวี่ไปดูลูกคนอื่น จึงพบว่าเด็กๆเหล่านี้ล้วนเปลี่ยนกันหมด แม้ว่าพวกเขาจะดูหล่อเหลาสง่างามขึ้น แต่รูปลักษณ์ของพวกเขา ก็เริ่มแตกต่างกันออกไป แม้ว่าความเหมือน ก็ยังคงมีความเหมือนกันอยู่ แต่กลับไม่เหมือนฝาแฝดทั่วๆ ไปที่ความเหมือนของพวกเขา จะเป็นพิมพ์เดียวกันหมด
อันหลิงหยุนก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย มีตัวแปรมากมายที่เกิดขึ้นกับร่างกายของนาง แทบไม่มีอะไรให้ต้องตื่นเต้น หรือต้องประหลาดใจอีกต่อไปแล้ว
“ เจ้านาย คืนนี้แม่ทัพอันจะกลับจวนแม่ทัพแล้วเจ้าค่ะ ได้ยินมาว่ามีคนในจวนมีปัญหาเล็กน้อย สาวใช้ในเรือนหลังคนหนึ่งต้องการจะไถ่ตัว แม่ทัพอันรู้สึกกลัดกลุ้มเกี่ยวกับเรื่องนี้ พอดีหยุนจิ่นก็ไม่มีงานอะไร อีกทั้งคืนนี้เจ้านายก็อยู่ค้างที่นี่ หยุนจิ่นจึงอยากจะไปส่งแม่ทัพอันกลับ เผื่อไปดูด้วยว่า พอจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างหรือไม่เจ้าค่ะ”
หยุนจิ่นถามขออนุญาต อันหลิงหยุนพยักหน้าแล้ว หยุนจิ่นจึงค่อยออกไป
รอจนหยุนจิ่นจากไปแล้ว อันหลิงหยุนจึงถามกงชิงวี่เกี่ยวกับชื่อฉายาของเด็ก ๆ
"จื้ออี้อยู่ในท้องฟ้า จื่อเซิ่นอยู่ในพื้นดิน จื่อยวนอยู่ในสายน้ำ จื่อเหรินอยู่ในชาวประชาเช่นเดียวกับมนุษย์ สวรรค์ และโลก ตามองค์ประกอบสามประการของเอกภพ น้ำสื่อความหมายถึงความมั่งคั่ง แต่ความหมายของกั๋วจิ้วยังหมายถึง ความสามารถและคุณธรรม เป็นความสามารถทางวรรณกรรม เพื่ออธิบายถึงเจตนาดีและให้ชื่อที่เป็นมงคล แต่เด็กคนนี้อยู่ดีไม่ว่าดีมาปลุกผีกลางคลอง นึกสนุกอยากหาฉายาหลักลอย เอ้อระเหยไร้สาระน่าขบขันให้ตัวเอง "
อันหลิงหยุนสีหน้าประหลาดใจ:" ดูไม่ออกเลยว่า ความสามารถด้านวรรณกรรมของกั๋วจิ้วนั้น จะสูงส่งจนถึงระดับนี้ เขาเพิ่งกลับไปครู่เดียว ก็สามารถคิดฉายาที่มีความหมายดีถึงขนาดนี้ได้แล้ว"
“นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดา ตั้งแต่ยังเด็ก กั๋วจิ้วร่างกายอ่อนแอล้มป่วยบ่อย หากไม่เพราะสาเหตุนี้ ในราชสำนักมีเขาแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมีคนอื่นอีกหรอก แต่ก็ช่วยไม่ได้ เสด็จแม่จึงทำได้เพียงทรงหาตำแหน่งในแผนกสายลับมาให้เขารับผิดชอบ”
“ท่านอ๋องพักผ่อนเถอะเพคะ ไม่ใช่ว่าพรุ่งนี้ต้องไปจัดการเรื่องของกั๋วจิ้วใหญ่อีกหรือ? ” เมื่อพูดถึงกั๋วจิ้วใหญ่ กลับมาได้เดือนกว่าแล้ว อันหลิงหยุนได้ยินกงชิงวี่พูดว่า เขาจะจัดการเรื่องของกั๋วจิ้วใหญ่เสียที
“ เรื่องของกั๋วจิ้วใหญ่ยังไม่ต้องรีบร้อน ช่วงหลายวันนี้กั๋วจิ้วใหญ่มักจะเข้าวังตลอด คิดว่าคงเพราะต้องเป็นกังวลร้อนใจแน่แล้ว ในอีกราวๆสองเดือน เซียวกุ้ยเฟยก็จะให้กำเนิดรัชทายาทของฝ่าบาทแล้ว ส่วนมู่มิงก็ไม่ยอมเจอเขา ทั้งยังไม่เต็มใจจะมีความสัมพันธ์ใดๆกับฝ่าบาท วันๆปิดประตูไม่ออกมาข้างนอก
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ข้าได้ยินมาว่าฮองเฮาก็ทรงครรภ์แล้วเช่นกัน ดังนั้นคงร้อนใจจนแทบบ้าไปแล้วล่ะ! "
อันหลิงหยุนอุ้มเจ้าห้านั่งลงและตบเบา ๆ ยังมีสิ่งที่ไม่ค่อยเข้าใจ : "กั๋วจิ้วใหญ่ผู้นี้ตำแหน่งก็สูงอำนาจบารมีก็มากมาย สถานะปัจจุบันของเขาตอนนี้ ในประเทศต้าเหลียง ไม่น่าจะมีใครกล้าแตะต้องแล้วนี่ ทำไมยังต้องส่งมู่มิงเข้าวังให้ได้ด้วย หรือจะไม่รู้ว่า วังหลวงเป็นแค่กรงยักษ์กรงหนึ่ง ไม่ต้องพูดถึงมู่มิง ต่อให้เป็นเสด็จแม่ ก็ออกจากวังตามอำเภอใจไม่ได้หรอกกระมัง?
เป็นอ๋องคนหนึ่งก็ยังดี เสด็จแม่อาจจะเคยออกมาแล้ว
แม้ว่าในวังจะมีสง่าราศีและความมั่งคั่งรุ่งโรจน์ แต่คนในวังเคยได้ออกมาข้างนอกเมื่อไหร่กัน อยู่แต่ในนั้นทั้งวันก็ไม่อึดอัดแย่หรือ? "
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...