บทที่ 598 ลอบปลงพระชนม์ยามวิกาล
เมื่อมาถึงวังที่บรรทมของหวางฮองไทเฮาแล้ว อันหลิงหยุนก็สำรวจดูพระวรกายของไทเฮาอย่างละเอียดใกล้ชิด ที่จริงหวางฮองไทเฮาทรงโป้ปดมดเท็จไป ว่าพระนางบรรทมไม่หลับก็เท่านั้น อันหลิงหยุนตรวจดูพระอาการให้ พระนางทรงหดหู่หมองเศร้ายิ่งนัก ช่างอยู่ไม่เป็นเอาเสียเลย มาก็มาแล้ว จะช่วยเสแสร้งทำเป็นไม่รู้เสียหน่อยก็ไม่ได้
หวางฮองไทเฮาทรงไม่แน่พระทัยนัก ว่าอันหลิงกำลังคิดอะไรอยู่ อันหลิงหยุนเองรู้สึกใจคอไม่ดี รู้สึกอยู่เสมอว่ากำลังจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นแล้ว
หลังจากตรวจสอบว่า ไม่มีอะไรผิดปกติกับพระนาง อันหลิงหยุนก็มองไปที่เจ้าห้าซึ่งนอนอยู่อีกฟากหนึ่ง เจ้าเสือน้อยขึ้นไปอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว เขาจะไม่มีทางยอมอยู่ห่างเจ้าห้าแม้เพียงครึ่งนิ้ว
หวางฮองไทเฮาก็ถูกพระทัยเจ้าเสือน้อยเช่นกัน ไห่กงกงนั้นกลัวเจ้าเสือน้อย จนดูออกเลยว่าไม่ไหวแล้ว เพราะเขาจะตัวสั่นเทิ้มทุกครั้งที่เสือน้อยคำราม แต่หวางฮองไทเฮากลับทรงมองว่า เจ้าเสือน้อยนั้นน่ารักดี ถึงกับทรงไปลูบๆขนเล่นเป็นครั้งคราว
เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะกล่าวว่า เสือย่อมต้องทำร้ายคน แม้ว่าพวกมันจะยังเล็ก ก็ยังต้องมีสัญชาตญาณของสัตว์ป่า แต่เจ้าเสือน้อยกลับเชื่องต่อหวางฮองไทเฮาอย่างมาก เวลาที่พระนางลูบไล้ขนเล่น เขาก็จะนอนนิ่งๆอย่างสงบเสงี่ยมเชื่อฟัง ไม่มีการแสดงทีท่าไม่ให้ความเคารพเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าห้า ต้องเป็นเด็กดีนะลูก!” อันหลิงหยุนจูบเจ้าห้า แล้วจึงกล่าวทูลลาหวางฮองไทเฮาก่อนจะจากไป
หวางฮองไทเฮาไม่ได้ทรงเลี้ยงดูเด็กเล็ก ๆ มานานหลายปีแล้ว เจ้าห้าในพระทัยของพระนาง เดิมทีพระนางวางแผนไว้ว่าจะดูแลอย่างดีที่สุด แต่เจ้าห้าก็หลับไปก่อนเสียนานแล้ว หวางฮองไทเฮาก็ทรงชันษาสูงไม่น้อย จึงไม่ทรงตรัสอะไรมาก เพียงพักผ่อนไปอย่างไม่รอช้า
ไห่กงกงปิดม่านกั้นลง จากนั้นเรียกขันทีน้อยมาสองคน และนางกำนัลอีกสองคน ส่วนเขากลับไปพักผ่อนอีกฟากหนึ่ง
เนื่องจากอายุมากแล้ว ไห่กงกงเองก็ไม่อาจอดทนต่อการนอนดึกมาก ๆ ได้ไหวเช่นกัน
กลางดึกสงัด เจ้าห้าลืมตาขึ้นมา ต่างไม่มีใครเห็นเงาร่างร่างหนึ่ง ที่แฝงเร้นเข้ามาด้านใน นางกำนัลทั้งสองคนล้มลงไปก่อน ตามด้วยขันทีน้อยสองคนที่เหลือ
จากนั้นผู้มาเยือนก็หยิบกริชสั้นเล่มหนึ่งออกมา ยกม่านขึ้นเดินตรงเข้าไปหาหวางฮองไทเฮา กำลังจะลงมือ ฉับพลันก็มีอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่เขา ผู้มาเยือนโบกมือปัดป่ายสะเปะสะปะ ดวงตาทั้งสองข้างเจ็บแปลบ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง สัมผัสอุ่นร้อนบางอย่างไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตา เมื่อยื่นมือออกไปลูบคลำสัมผ้สดู จึงพบว่าในตาของเขามีรูกลวงโบ๋อยู่รูหนึ่ง
"ดวงตาของข้า!?"
ผู้มาเยือนเป็นผู้ชาย ทันทีที่เปิดปากก็พลันไปปลุกหวางฮองไทเฮาให้ทรงสะดุ้งตื่นจากบรรทม พระนางลืมดวงเนตรขึ้นฉับพลัน หันมองไปอีกด้านหนึ่งทันที
อาศัยมองผ่านแสงรำไร ก็ทอดพระเนตรเห็นชายคนหนึ่งที่สวมชุดขันที กำลังกรีดร้องโหยหวนเรื่องตาของตนเองอยู่ อีกาน้อยร่อนโฉบลงบนประภาคารที่อยู่อีกด้านหนึ่ง ทำท่าทีราวกับเฝ้าชมเรื่องสนุก ดวงตาคู่ดำขลับจ้องมองดูคนที่ร้องโหยหวนอยู่ ที่มุมปากยังมีรอยเลือดให้เห็น
หวางฮองไทเฮารีบเสด็จจะเข้าไปอุ้มเจ้าห้า คนร้ายที่บุกมา รับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงพุ่งเข้าไปทางหวางฮองไทเฮาทันที พระนางตกพระทัย รับสั่งด้วยสุรเสียงดังก้อง: "คุ้มครองฝ่าบาท!"
ในเวลานั้นเอง เจ้าเสือน้อยก็ร้องคำราม พลางพุ่งทะยานเข้าไป กางอุ้งเล็บตบใส่ใบหน้าของคนร้าย ตบจนคนร้ายตัวสั่นไปครู่หนึ่งเพราะความตกใจ
เจ้าเสือน้อยรีบวิ่งเข้าไปแล้วเริ่มกัดขย้ำ เพียงไม่นาน คนที่สภาพดี ๆ คนหนึ่ง ก็เลือดอาบเต็มตัวจนมีสภาพแทบดูไม่ได้
ไห่กงกงรีบร้อนวิ่งขึ้นมา ก็ได้เห็นคนนอนตายอยู่บนพื้น จึงกรีดร้องตะโกนด้วยเสียงแหลมว่า :"องครักษ์ รีบมาที่นี่! คุ้มครองฝ่าบาท! คุ้มครองฝ่าบาท!"
หวางฮองไทเฮาทรงถูกไห่กงกงดึงลงไปเพื่อรับการคุ้มกัน ส่วนไห่กงกงจะรีบไปคุ้มครองเจ้าห้า หวางฮองไทเฮาไม่อาจสนพระทัยสิ่งอื่นใดทั้งสิ้นแล้ว นางผลักไห่กงกงออกไปเพื่อไปอุ้มเจ้าห้า อีกฝ่ายได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ จึงรีบพุ่งเข้าไปทางนั้นทันที ต่อให้ต้องตาย ก็ต้องหาคนร่วมทางไปด้วยให้จงได้
ในขณะนั้นเอง เจ้าห้าสะบัดตัวจนหลุดพ้นออกมาจากผ้าห่ม เขาลุกขึ้นนั่ง จ้องมองไปที่ชายคนนั้นที่มีเลือดท่วมไปทั้งเนื้อทั้งตัว ในมือถือยังปิ่นสีทองด้ามหนึ่งไว้ด้วย
หวางฮองไทเฮาแตะพระเศียรทันที ทรงจำได้ว่าเป็นปิ่นทองที่วางไว้ข้างพระเขนย: "เจ้าห้า!"
"อั่ก!"
ในขณะที่หางฮองไทเฮาทรงหวั่นวิตกอยู่ ไม่รู้ว่าชายคนนั้น ล้มคว่ำลงไปนอนทับบนตัวเจ้าห้าได้อย่างไร กริชที่อยู่ในมือถูกโยนทิ้งกระเด็น ร่างทั้งร่างก็ไม่ขยับเขยื้อนใดๆอีก
หวางฮองไทเฮาทรงยกชายกระโปรงฉลองพระองค์ขึ้น ทั้งดึงทั้งผลักอีกฝ่ายออกไปให้พ้นทาง เจ้าห้านั่งอยู่ที่นั่น พร้อมกับเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มมือ
หวางฮองไทเฮาทรงรีบร้อนอุ้มเจ้าห้าขึ้นมา รับสั่งอย่างกริ้วโกรธว่า: "จงลากมันออกไปให้ข้า โยนออกไปข้างนอกเพื่อแสดงให้สาธารณชนได้เห็น!"
ไห่กงกงรีบเอ่ยเกลี้ยกล่อม:“ ไทเฮา ทำเช่นนั้นไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ หากมีข่าวลือแพร่กระจายออกไปว่ามีคนแอบลอบเข้าวัง เช่นนั้นคงไม่ดีแน่พ่ะย่ะค่ะ”
หวางฮองไทเฮาทรงบันดาลโทสะ: "ไป!"
ไห่กงกงจนใจทำอะไรไม่ได้ เตรียมตัวออกไปทำตามพระบัญชา เจ้าห้ายกมือขึ้นมาสัมผัสลูบไล้พระพักตร์ของพระนาง ครั้นหวางฮองไทเฮาได้ทอดพระเนตรเห็น โทสะก็พลันเหือดหาย
แววตาของเจ้าห้า ดูเหมือนว่ากำลังพยายามปลอบโยนพระนางอยู่
“เจ้าห้ากำลังคิดว่า ย่าไม่ควรจัดการกับคนร้ายคนนี้ ด้วยวิธีการเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...